ขุมทรัพย์2หมื่นล้าน!เนอร์สซิ่งโฮมอสังหาฯลุยน่านน้ำใหม่รับ‘สังคมสูงวัย’

ขุมทรัพย์2หมื่นล้าน!เนอร์สซิ่งโฮมอสังหาฯลุยน่านน้ำใหม่รับ‘สังคมสูงวัย’

ธุรกิจอสังหาฯอยู่ในภาวะชะลอตัว สังเกตจากผลประกอบการ 9 เดือนที่ผ่านมาสวนทาง“เนอร์สซิ่งโฮม” ที่มีอัตราเติบโต15-30% ต่อปีคาดมูลค่าแตะ 2หมื่นล้านใน5ปีข้างหน้าเป็นขุมทรัพย์ หรือน่านน้ำใหม่ที่ค่ายอสังหาฯจับตามองเพราะดีมานด์พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องรับสังคมสูงวัย

ทั้งนี้ ผลสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุทั่วประเทศ ปี 2566 ของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งดำเนินการจัดเก็บข้อมูลจากสถานประกอบการที่จดทะเบียนการประกอบกิจการการดูแลผู้สูงอายุ หรือ ผู้มีภาวะพึ่งพิงกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข จำนวน 687 แห่ง ใน 55 จังหวัด ในไตรมาส 2 ปี 2566

ปัจจุบันประเทศไทยมีประชากรผู้สูงอายุ 12.9 ล้านคน คิดเป็น 19.52% ของประชากรทั้งประเทศ  มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 31.4% ในปี 2583 โดยผู้สูงอายุที่อาศัยตามลำพังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 1.3% ในปี 2533 เป็น 7.2% ในปี 2563 ขณะที่ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่กับสามี/ภรรยาเท่านั้นเพิ่มขึ้น 6.0% ในปี2563 รวมถึงขนาดครอบครัวเฉลี่ยมีขนาด “ลดลง” จาก 4.4 คน เป็น 2.4 คน ในปี 2563
 

ในส่วนของที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุในรูปแบบสถาบัน ได้แก่ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ จำนวน 12 แห่ง ที่สังกัดกรมกิจการผู้สูงอายุ มีจำนวนผู้พักอาศัยรวม 1,227 คน และสถานสงเคราะห์คนชรา 15 แห่ง ที่สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด มีผู้พักอาศัย 948 คน  ในส่วนของศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคม ผู้สูงอายุขอนแก่น ศูนย์บริการทางสังคมผู้สูงอายุดินแดง กรุงเทพมหานคร และศูนย์บริการทางสังคมผู้สูงอายุ ศรีสุคต องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เป็นบริการในรูปแบบการดูแลผู้สูงอายุระหว่างวัน

ขุมทรัพย์2หมื่นล้าน!เนอร์สซิ่งโฮมอสังหาฯลุยน่านน้ำใหม่รับ‘สังคมสูงวัย’

สำหรับรูปแบบธุรกิจอสังหาฯ ที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุ  แบ่งได้เป็น 6 รูปแบบ ได้แก่ 1.การปรับปรุงที่อยู่อาศัยเดิม (Home Remodeling) 2.ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ (DAY CARE) 3.ที่อยู่อาศัยในชุมชนผู้สูงอายุ (Retirement Community) 4.สถานบริบาลผู้สูงอายุ (Nursing Home) ดูแลผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่องในหลายระดับ ตั้งแต่การดูแลกลุ่มพึ่งพิง พอจะดูแลตัวเองได้บ้างในบางเรื่อง ไปจนถึงระดับการดูแล 24 ชั่วโมง 5.สถานดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะโรคสมองเสื่อม และ 6.สถานดูแลผู้สูงอายุ ในช่วงสุดท้ายของชีวิต

  “ส่วนใหญ่สถานบริบาลผู้สูงอายุ อาจจะดูแลทั้งผู้สูงอายุที่มีภาวะโรคสมองเสื่อมรวมไปถึงดูแล ผู้สูงอายุ ในช่วงสุดท้ายของชีวิต รวมอยู่ในโครงการเดียวกัน”
 

จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ที่ระบุว่ากิจการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง ปัจจุบันมี 3,000 แห่ง แต่มีสถานประกอบการได้รับอนุญาตสถานประกอบการจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพเพียง 739 แห่ง คิดเป็น 24.6% เท่านั้น!

ขุมทรัพย์2หมื่นล้าน!เนอร์สซิ่งโฮมอสังหาฯลุยน่านน้ำใหม่รับ‘สังคมสูงวัย’

การสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ ทั่วประเทศในปี2566 โครงการที่อยู่ระหว่างการขาย / เช่า ของ เนอร์สซิ่งโฮมในการเก็บข้อมูลจึงมีทั้งหมด 687 แห่ง ที่เปิดให้บริการมีจำนวนหน่วยที่เปิดให้บริการ ทั้งหมด 15,865 เตียงคิดเป็น 96.95% จากโครงการทั้งหมด มีผู้เข้าพักแล้ว 12,033 เตียง คิดเป็น 75.85% ของจำนวนเตียงที่เปิดให้บริการทั้งหมด ด้านอุปสงค์ หรือจำนวนประชากรผู้สูงอายุของประเทศไทย ในปี 2566 ผู้สูงอายุไทยมีสัดส่วนถึง 19.52% ของประชากรในประเทศ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ด้านราคาค่าเช่าต่อเดือนของโครงการสำหรับผู้สูงอายุ ช่วงราคาเช่าที่โครงการกำหนดไว้ที่มีจำนวนมากที่สุด คือ ช่วงราคา 20,001-30,000 บาท มีจำนวน 151 แห่ง 3,654 เตียง 37.26% รองลงมาคือ ราคา 10,001-20,000 บาท จำนวนโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ ทั่วประเทศในปี 2566 มีโครงการที่อยู่อาศัยและโรงพยาบาลสำหรับผู้สูงอายุ 36 โครงการ รวมทั้งหมด 10,879 ยูนิต แบ่งเป็นหน่วยงานราชการ 10 โครงการ รวม 5,649 ยูนิต องค์กรไม่แสวงหากำไร/มูลนิธิ 2 โครงการ รวม 515 ยูนิต และหน่วยงานภาคเอกชน 24 โครงการ 4,715 ยูนิต

จากการคาดการณ์ความต้องการในอนาคต พบว่า เป้าหมายการปรับปรุงที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุของกรมกิจการ ผู้สูงอายุ จำนวน 447,618 หลัง ปัจจุบันดำเนินการไปแล้ว 23,206 หลัง  ปี 2566 อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุง 10,000 หลัง ดังนั้นยังคงสามารถปรับปรุงได้ 414,412 หลัง ในปี 2567-2579

ส่วนสถานบริบาลผู้สูงอายุ หรือ เนอร์สซิ่งโฮม คาดการณ์ว่าในปี 2567-2571 ธุรกิจสถานบริบาลผู้สูงอายุ จะมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 30.5% ต่อปี ด้วยขนาดธุรกิจ 9,500 ล้านบาท ในปี 2571 และช่วงปี 2572-2576 คาดเติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปี มีมูลค่าธุรกิจ 19,200 ล้านบาท ในปี 2576

ทั้งนี้ ที่อยู่อาศัยในชุมชนผู้สูงอายุมีแนวโน้มจะเกิดการพัฒนาเป็นรูปแบบใหม่ในลักษณะแฟรนไชส์ ที่ร่วมกับผู้ที่มีโครงการในมือทั้งห้องชุด โรงแรม รีสอร์ท บ้าน โดยปรับพื้นที่เป็น “เนอร์สซิ่งโฮม” หรือการนำห้องชุดเหลือขายปรับเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุแทน หรือการออกแบบเพื่อรองรับมัลติเจนเนอเรชั่นสามารถอยู่ร่วมกันได้ทุกวัย

แทนที่จะพัฒนาโครงการอสังหาฯ เพื่อขาย เปลี่ยนมาพัฒนาโครงการเนอร์สซิ่งโฮม ถือเป็นน่านน้ำใหม่ที่คู่แข่งน้อยราย! อัตราการเติบโตสูง ที่สำคัญกลุ่มผู้เข้ามาใช้บริการมีกำลังซื้อ มีความสามารถในการจ่าย (ability to pay) ถือเป็นธุรกิจที่น่าสนใจเข้ามาลงทุน

ก่อนหน้านี้ ค่าย “พฤกษา” ได้ขยายธุรกิจสุขภาพ เพื่อสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) เริ่มจากเปิดโรงพยาบาลวิมุต พหลโยธิน และมีแผนขยายบริการเฮลท์แคร์ที่หลากหลายในโครงการพฤกษา อาทิ วิมุต เวลเนส บางนา-วงแหวน, Senera วิมุต เวลเนส คู้บอน เนอร์สซิ่ง โฮม เช่นเดียวกับ "เสนา ดีเวลลอปเม้นท์" ให้ความสนใจที่พัฒนาสถานดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยระยะฟื้นตัว (Nursing Home) ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาร่วมกับบริษัทญี่ปุ่นเพื่อพัฒนาโครงการในอนาคต เพราะตลาดขนาดใหญ่ และยังไม่มีเจ้าตลาดชัดเจน! จึงเป็นโอกาสธุรกิจที่สำคัญ