พิษกำลังซื้อ-เศรษฐกิจหดพฤกษาชี้อสังหาฯปี67ชะลอตัว
พิษกำลังซื้อ-เศรษฐกิจหด ! ซีอีโอพฤกษาฟันธงอสังหาฯปี67ชะลอตัว พลิกเกมผุดทาวน์เฮาส์แบรนด์ใหม่"บ้านกรีนเฮ้าส์" ทดลองตลาดทำเลรังสิต สเตชั่น - ซ.เวิร์คพอยท์ราคาเริ่มต้น1.29 – 1.45 ล้าน ออกมานำร่องเจาะกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย
นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯในปี2567 ยังคงเผชิญความท้าทายค่อนข้างสูง จากปัจจัยกำลังซื้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูง ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อ ขณะที่รายได้หด ทำให้การดำเนินธุรกิจยากขึ้นกว่าในปีนี้ เพราะกำลังซื้อโดยรวมปีหน้ามีโอกาสชะลอมากกว่าปี2566 ส่งผลให้การเปิดตัวโครงการในปี2567 ลดลงกว่าปีนี้
เนื่องจากกำลังซื้อถูกดูดซับในช่วง2-3ปีที่ผ่านมา วัสดุก่อสร้างและต้นทุนทางการเงิน สูงขึ้น ขณะที่การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ มีต้นทุนเพิ่มขึ้น ส่วนในภาคธุรกิจเศรษฐกิจมีความอ่อนไหวหลายปัจจัยอยู่ทั้งค่าไฟ ค่าน้ำมัน สงคราม การค้าชะลอตัวช้าลง เศรษฐกิจต่างประเทศ อเมริกา ยุโรป จีนได้รับผลกระทบชัดเจน
"จากเดิมคิดว่า คนจีนเดินทางออกมาเที่ยวต่างประเทศมากขึ้นไม่ได้เป็นอย่างที่คิด จึงมองว่า ปี2567 ไม่ใช่ปีที่ง่าย แต่ไม่ใช่ปีที่ไม่มีความหวัง แม้ว่าอัตราการเติบโตอาจจะไม่เท่าปี2566 "
นายอุเทน กล่าวว่า จากแนวโน้มดังกล่าว บริษัทมองเห็นถึงโอกาสในตลาดระดับล่างที่ต้องการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก หลังจากที่2ปีที่ผ่านมาอาจจะไม่มีโอกาส เนื่องจากแบงก์ไม่ปล่อยกู้ และผู้ประกอบการยังมีสินค้าที่ไม่ตอบโจทย์ ถือเป็นโอกาสของดีเวลลอปเปอร์ไม่ใช่แค่พฤกษา ที่ออกมาพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์แต่ละกลุ่มเป้าหมาย ทำให้ลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายได้ประโยชน์
ยกตัวอย่างล่าสุดทาง พฤกษา ได้พัฒนาโครงการ ทาวน์เฮาส์ แบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อ "บ้านกรีนเฮ้าส์" ทำเลรังสิต สเตชั่น - ซ.เวิร์คพอยท์ ราคาเริ่มต้นเพียง 1.29 – 1.45 ล้านบาทและสามารถผ่อนได้เดือนละ3,000-5,000 บาท ออกมานำร่อง ปรากฏว่า ได้รับการตอบรับค่อนข้างสูง หลังเปิดตัวโครงการ 2 วันได้รับการตอบรับ75%
" ในปีหน้าจะมี6 โครงการใหม่ ในชานเมืองกรุงเทพฯ ชานเมือง หลังจากที่ในปี2566 มีหลายโครงการเลื่อนเปิดไปปีหน้าเพื่อความเหมาะสมไม่เร่งเปิด เช่น โครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ทุกระดับราคาเพื่อบริหารความเสี่ยงพฤกษามีสินค้ารอขายไม่น้อยกว่ายอดขายไปิอีก3-5ปีข้างหน้า เมื่อไรที่เห็นว่า สินค้ามีน้อยจะออกโครงการใหม่ออกมาเสริม "
ปีนี้ตลาดอสังหาฯในภาพรวมโต ยอดขาย9 เดือนโตเยอะแต่ผู้ประกอบการอาจไม่มีกำไร เท่ากับปีที่แล้ว เพราะการแข่งขันสูงขึ้น มีหลายคนที่ออกมาพัฒนาโครงการใหม่ต้องยอมลดราคาเพราะกำลังซื้อหด สะท้อนว่า กำลังซื้อในตลาดที่มีอยู่ได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ยขาขึ้น ราคาวัสดุก่อสร้าง ค่าแรงที่สูงขึ้น รวมถึงสภาพเศรษฐกิจในภาพรวม ถือเป็นเรื่องดีของคนซื้อ ที่มีสินค้าใหม่ออกมาให้เลือกในราคาที่ยังจับต้องได้
"สิ่งที่รัฐบาลออกมากระตุ้น การปรับค่าแรงขึ้นต่ำ การลดค่าไฟ รวมทั้งมาตรการที่รัฐบาลพยายามผลักดันอย่างฟรีค่าโอน ที่มีอยู่แล้วและกำลังจะหมดอายุในปีนี้ผมมองว่า ถ้ารัฐนำกลับมาใช้จะมีส่วนช่วยในการผลักดันตลาดอสังหาฯในปีหน้า"
อย่างไรก็ตาม การที่ธนาคารและธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาเพิ่มความเข้มข้นมาตรการให้สินเชื่อ เรื่องนี้มีความอ่อนไหวส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของคนที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องต้องมีการบลานซ์ให้เกิดความสมดุลซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องชั่งใจ "ถ้าเป็นผมจะเลือกที่สร้างความแข็งแรงให้กับอุตสาหกรรมในระยะยาวมากกว่าตอบโจทย์ในระยะสั้น "