AssetWise ก้าวสู่ทศวรรษที่ 2 ชูยุทธศาสตร์ THE NEW FRONTIERS ตั้งเป้าเติบโตยั่งยืน
AssetWise ก้าวสู่ทศวรรษที่ 2 ชูยุทธศาสตร์ THE NEW FRONTIERS เดินหน้าขยายทำเล อีอีซี-ภูเก็ต พร้อมขยายพอร์ต "รายได้ประจำ" สร้างความหลากหลายทางธุรกิจ เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนและมั่นคง
"AssetWise" เตรียมก้าวสู่ทศวรรษที่ 2 ชูยุทธศาสตร์ "THE NEW FRONTIERS" เดินหน้าขยายทำเล อีอีซี-ภูเก็ต พร้อมขยายพอร์ต "รายได้ประจำ" สร้างความหลากหลายให้ทางธุรกิจ ตั้งเป้ายอดขาย 1.78 หมื่นล้านหลายปีที่ผ่านมา แอสเซทไวส์ ถือเป็น Developer ที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดและมีความโดดเด่นเรื่องการสร้างแบรนด์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด และด้วยยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนรวมถึงการปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้แม้ปี 2566 นั้น จะมีปัจจัยท้าทายหลายด้าน แต่แอสเซทไวส์ยังคงโชว์ฟอร์มโดดเด่น โดยเปิดตัว 15 โครงการ มูลค่า 30,260 ล้านบาท จากเดิมวางแผนเปิด 12 โครงการ มูลค่า 22,500 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดขายทะลุ 16,486 ล้าน เพิ่มขึ้น 16%
กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทิศทาง อสังหาริมทรัพย์ ในปี 2567 ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตในทิศทางเดียวกับจีดีพีของประเทศ มีการลงทุนจากภาครัฐมากขึ้น ขณะเดียวกันภาพรวมเศรษฐกิจโลกภายใต้การเปลี่ยนแปลงผันผวน เงินเฟ้อ ลดลง จึงมีทั้งโอกาสและความเสี่ยงที่ต้องเผชิญในปีนี้ ส่วนปัจจัยบวกที่จะเข้ามาช่วยส่งเสริมและกระตุ้นกำลังซื้อในปีนี้ มีหลายปัจจัย อาทิ การต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียม โอน-จดจำนองออกไปอีก 1 ปี รวมถึงมาตรการฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะเริ่มใช้วันที่ 1 มีนาคม 2567 นี้ จะช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยคาดว่า ส่งผลให้เศรษฐกิจ และอสังหาฯ กลับมาคึกคักอีกครั้ง
จากสถานการณ์ดังกล่าว บริษัทฯ จึงได้เตรียมขยายการลงทุนก้าวสู่ทศวรรษที่ 2 ภายใต้ยุทธศาสตร์ "THE NEW FRONTIERS" ในการลงทุนพัฒนาโครงการให้เติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคงในทุกมิติ โดยบูรณาการ 3 กลยุทธ์หลัก ซึ่งประกอบด้วย Excute, Expand และ Explore ที่ช่วยกระจายความเสี่ยงในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว และกำลังซื้อยังถูกกดดันด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูง
- กลยุทธ์ Execute เน้นความมุ่งมั่นสร้างสรรค์บ้านและคอนโดคุณภาพ ยังรวมถึงการรักษาความแข็งแกร่งของพอร์ตธุรกิจหลักคือ คอนโดมิเนียมที่มี 3 แบรนด์เรือธง KAVE, ATMOZ และ MODIZ ปักหมุดทั่วเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และโซนอีอีซี ในปี 2567 นี้ จะรุกเปิดคอนโดมิเนียมใหม่ในเขตกรุงเทพ และอีอีซี 6 โครงการ มูลค่า 10,820 ล้านบาท เน้นทำเลศักยภาพเดินทางสะดวก ใกล้สถาบันการศึกษา ใกล้แหล่งงาน รวมถึงเปิดตัวบูทีคคอนโดแบรนด์ใหม่ "Maroon" รัชดา 32 และ "Aquarous" บนทำเลจอมเทียน-พัทยาเป็นหัวเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ
- กลยุทธ์ Expand การขยายโครงการให้เติบโตในทุกมิติทั้งด้านทำเล สินค้า และราคา โดยยังพัฒนาโครงการต่อเนื่องทั้งในทำเลที่ชำนาญการ พร้อมแสวงหาโอกาสในการขยายทำเลใหม่ที่มีโอกาสในการพัฒนาโครงการในทำเลที่มีศักยภาพ รวมถึงการพัฒนาโครงการแนวราบให้มีความหลากหลายภายใต้แบรนด์ ESTA, THE ARBOR, THE HONOR และล่าสุด CHANN The Riverside บ้านเดี่ยวบูทีคติดแม่น้ำท่าจีนบนโค้งน้ำเส้นบรมราชชนนี รวมถึงการรุกเจาะขยายธุรกิจสู่พื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทั้งศรีราชา บางแสน และระยอง ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวและแหล่งนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง โดยล่าสุดได้มีการสร้างโรงงานผลิต รถยนต์ไฟฟ้า ของจีนหลายแบรนด์ที่มาตั้งฐานการผลิตในอีอีซีทำให้มี Demand ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ทั้งซื้ออยู่อาศัยเองและเพื่อลงทุนอย่างต่อเนื่อง
- กลยุทธ์ Explore การแสวงหาโอกาสทางธุรกิจและการลงทุนใหม่เพื่อสร้างรายได้ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ Community Mall ภายใต้โครงการ "Mingle Mall" ประกอบไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร Well Aesthetic & Wellness Center พื้นที่เช่าสำหรับผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจประเภทศูนย์สุขภาพและคลินิกด้านความงามใจกลางย่านรัชดาภิเษก และล่าสุดกับ Mingle Sport Village at Rangsit เป็นศูนย์กีฬาในร่มเอาใจสายรักสุขภาพ รวมถึง "Rocket Fitness" ภายใต้การบริหารของ บริษัท เทรเชอร์ เอ็ม จำกัด ในเครือ แอสเซทไวส์ รวมถึง "ZAAP World" ธุรกิจเอนเทอร์เทนเมนต์ คอนเสิร์ต และอีเวนต์ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งจิกซอร์สำคัญที่จะเข้ามาเติมเต็มและเสริมความแข็งแกร่งด้านธุรกิจพัฒนา อสังหาริมทรัพย์ ของแอสเซทไวส์
สำหรับในปี 2567 แอสเซทไวส์เปิดตัวโครงการใหม่ 12 โครงการ มูลค่า 25,920 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 9 โครงการ มูลค่า 21,820 ล้านบาท ผ่าน 3 แบรนด์เรือธง อาทิ โครงการ ATMOZ ย่านรังสิต, KAVE แคมปัสคอนโด 3 โครงการ ทำเลใกล้โรงเรียนบดินทรเดชา, มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าบางมด และมหาวิทยาลัยศิลปากร นครปฐม และคอนโดแบรนด์ใหม่ Aquarous ทำเลหาดจอมเทียน พัทยา
ส่วนโครงการแนวราบมีจำนวน 3 โครงการ มูลค่า 4,100 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการ Esta Serenity มูลค่า 800 ล้านบาท, โครงการ CHANN The Riverside ตรงทางด่วนบรมราชชนนี พุทธมณฑลสาย 7 ติดแม่น้ำท่าจีน มูลค่า 1,800 ล้านบาท และโครงการ THE ARBOR รามอินทรา-วัชรพล มูลค่า 1,500 ล้านบาท
กรมเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไฮไลต์ในปี 2567 คือการขยายน่านน้ำใหม่ในภูเก็ต ถือเป็นขุมทรัพย์ใหม่ของทางแอสเซทไวส์ หลังจากได้เข้าลงทุนใน ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ ผู้พัฒนาอสังหาภูเก็ต โดยซื้อหุ้นจำนวน 67.61% เพื่อทำคอนโดขายชาวต่างชาติ รวมถึงการร่วมลงทุนเมกะโปรเจกต์ โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว เป็นโครงการลักชัวรีพูลวิลล่า มูลค่า 13,000 ล้านบาท ในสัดส่วน 30% ทำให้บริษัทฯ มีสินค้าครอบคลุมทั้งคอนโดและวิลล่าหรูในภูเก็ต โดยในปี 2567 เน้น 3 ทำเลหลักคือ บางเทา เปรียบเสมือนทองหล่อภูเก็ต ภายใต้โครงการ เดอะ ไทเทิล เฮอริเทจ บางเทา มูลค่า 6,000 ล้านบาท, ทำเลในยางใกล้สนามบิน ภายใต้โครงการเดอะ ไทเทิล เซเรนิตี้ ในยาง มูลค่า 4,000 ล้านบาท และทำเลราไวย์ เดอะ ไทเทิล ราไวย์ มูลค่า 1,000 ล้านบาท
ปี 2567 นี้ AssetWise ตั้งเป้ายอดขายรวม 17,800 ล้านบาท เติบโต 8% จากปี 2566 และมีรายได้ 8,700 ล้านบาท ส่วนในปี 2568 คาดว่าจะมีรายได้ 10,000 ล้านบาท มาจากธุรกิจคอนโดมิเนียม 50% ส่วนแนวราบอยู่ที่ 10% อสังหาริมทรัพย์ ในภูเก็ตจะมีสัดส่วน 30% ของรายได้ และที่เหลืออีก 10% เป็นธุรกิจอื่นๆ ที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income)