จับตาผังเมืองใหม่เปลี่ยนเกมอสังหาฯทุบคอนโดแนวส่วนต่อขยายบ้านแข่งเดือด!
จับตาผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (กทม.) ฉบับปรับปรุงครั้งที่4 พลิกเกมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งตลาดคอนโดมิเนียม และแนวราบ ขณะที่ตัวแปรสำคัญอย่าง “ราคาที่ดินในเมือง” ยังคงพุ่งทะยาน สวนทางกำลังซื้อชะลอตัว
วงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ ปี 2567 ยังคงไม่สดใส จากปัจจัยลบสำคัญ หนี้ครัวเรือนสูง ลูกค้ากู้ยาก หุ้นกู้ขายยาก ส่งผลกระทบต่อซัพพลายและดีมานด์ในตลาดระดับกลาง -ล่าง ขณะที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ ระดมทุนยากขึ้น แต่เชื่อว่าจะไม่มีผลทำให้เกิดฟองสบู่ในตลาดอสังหาฯ เนื่องจากมีการเปิดตัวโครงการลดลง กำลังซื้อหดตัว
ขณะที่ จุดเปลี่ยนสำคัญ! ที่ทำให้ตลาดกลับมาดีขึ้น คือ “ผังเมืองฉบับใหม่” ที่จะประกาศในปลายปี 2567 หรือต้นปี 2568 ทำให้สามารถพัฒนาโครงการได้มากขึ้น หลังสีผังเมืองเปลี่ยน ขณะเดียวกัน รถไฟฟ้าเปิดให้บริการครบ 10 สาย ทำให้โครงการแนวราบได้รับอานิสงส์จากการที่ลูกค้าสามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกขึ้น
"ผังเมืองใหม่ เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทำให้คนที่มีกำลังซื้อจำกัดสามารถซื้อบ้านที่มีพื้นที่กว้างขึ้น ในรูปแบบทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝดในราคาใกล้เคียงกับการซื้อคอนโดในเมือง มีพื้นที่จำกัด รวมถึงคอนโดแนวส่วนต่อขยาย ทำให้ดีเวลลอปเปอร์หันมาพัฒนาโครงการแนวราบนอกเมืองมากขึ้นเกาะส่วนต่อขยาย"
ขณะเดียวกัน มีเมกะโปรเจกต์ขนาดใหญ่ อาทิ โครงการวัน แบงค็อก ที่จะเปิดตัวเฟสแรกในปีนี้ และ โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค กำหนดแล้วเสร็จปี 2568 รวมทั้งโครงการใหม่ในกลุ่มเซ็นทรัล จะเป็นตัวกระตุ้นตลาดเกิดความคึกคักมากขึ้น ทำให้ภาพรวมอสังหาฯ ปีนี้เติบโต การฟื้นตัวเศรษฐกิจท่องเที่ยว และมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐที่ขยายไปจนถึงปลายปี 2567 รวมทั้งความต้องการที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นในทำเลใจกลางเมืองและหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญ อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง
ดังนั้น ในปีนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการแนวราบ จำนวน 7 โครงการ มูลค่ารวม 7,700 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 5 โครงการ มูลค่า 6,290 ล้านบาท ทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์ 2 โครงการ มูลค่า 1,410 ล้านบาท แนวราบทั้งหมดโฟกัสกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงบน เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ แทนที่จะลงทุนพัฒนาโครงการคอนโด
“คอนโดของเพอร์เฟค เป็นกลุ่มระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จึงได้รับผลกระทบจากปัญหาการกู้ไม่ผ่านสูง เพราะลูกค้ากลุ่มนี้กำลังซื้ออ่อนแอ จึงหันมาพัฒนาโครงการแนวราบในกลุ่มที่มีกำลังซื้อแทน”
วสันต์ ศรีรัตนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ กล่าวเสริมว่า ปีนี้ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค วางเป้าขายอยู่ที่ 14,000 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ 12,000 ล้านบาท โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการในทำเลที่มีศักยภาพและกลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อสูง ในเซ็กเมนต์ระดับกลางจนถึงลักชัวรี ประกอบด้วยโครงการบ้านเดี่ยว เพอร์เฟค เพลส ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ จำนวน 163 ยูนิต มูลค่า 2,140 ล้านบาท
โครงการบ้านเดี่ยว เพอร์เฟค เพลส ราชพฤกษ์ 346 จำนวน141 ยูนิตมูลค่า 1,700 ล้านบาท โครงการโมดิ วิลล่า 2 บางใหญ่ จำนวน 389 ยูนิต มูลค่า 1,200 ล้านบาท โครงการอาคารพาณิชย์ จำนวน 32 ยูนิต มูลค่า 210 ล้านบาท โครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝด โมดิ วิลล่า สถานีคูคต จำนวน 175 ยูนิต มูลค่า 940 ล้านบาท โครงการวาวิล่า กรุงเทพกรีฑา จำนวน 38 ยูนิต มูลค่า 840 ล้านบาท โครงการบ้านเดี่ยวเพอร์เฟค เพลส กรุงเทพกรีฑา-ร่มเกล้า จำนวน 66 ยูนิต มูลค่า 670 ล้านบาท
ธัญวรัตน์ ปัญญารัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 2567 แนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบ “บ้านลักชัวรี” เป็นหนึ่งในเซ็กเมนต์ที่น่าจับตามอง เนื่องจากเป็นกลุ่มสินค้าที่ยังมีสัดส่วนน้อยแต่กลับเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงและมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
โดยปีนี้บริษัทมีแผนขยายพอร์ตสินค้าแนวราบระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป เพิ่มขึ้น 56% จากสัดส่วนยอดขายปีที่ผ่านมา หนึ่งในนั้นคือโครงการ ศุภาลัย ไพร์ม วิลล่า กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่-มอเตอร์เวย์ บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ หน้ากว้าง บนพื้นที่โครงการกว่า 10 ไร่ มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท มีความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวน 41 ครอบครัวเท่านั้น
การพัฒนาแบรนด์แนวราบใหม่ “ไพร์ม วิลล่า” เป็นบ้านระดับไฮเอนด์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว สอดคล้องกับความต้องการที่อยู่อาศัยของลูกค้าระดับบนที่มีรสนิยมและไลฟ์สไตล์ชัดเจน มองหาบ้านหลังใหญ่ มีพื้นที่กว้าง ฟังก์ชันครบ สามารถอยู่แบบครอบครัวเดี่ยวจนถึงครอบครัวใหญ่