เมียนมาหนีสงครามกลางเมืองช้อปคอนโดเมืองไทยพุ่ง10เท่า

เมียนมาหนีสงครามกลางเมืองช้อปคอนโดเมืองไทยพุ่ง10เท่า

ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ระบุชาวเมียนมาแห่ซื้อคอนโดไทยเพิ่ม 10 เท่า ดันยอดปี 66 ทะลุ 3.7 พันล้าน “คอลลิเออร์ส” เผย 3 จังหวัดเป้าหมายทำเลยอดนิยมสุขุมวิท สนนราคา 10-20 ล้าน ภูเก็ตเน้น “พูลวิลล่า 40 ล้านขึ้นไป โซนลากูน่า บางเทา ขณะที่ บ้านเดี่ยว ปักหมุด “สันกำแพง-หางดง” ราคา 20-30 ล้าน

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เผยว่า ช่วงที่เห็นตัวเลขเมียนมาเข้ามาซื้ออสังหาฯในประเทศไทยมากขึ้น ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศเมียนมาเกิดรัฐประหารขึ้นจากนั้นเกิดเหตุการณ์ที่รัฐบาลทหารเข้ามายึดอำนาจจนกระทั้งปัจจุบัน เกิดเหตุการณ์ที่ชนชาติต่างๆเริ่มต่อต้านรัฐบาลทหาร ทำให้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศ มีส่วนทำให้กลุ่มชนชั้นนำที่มีความมั่งคั่งในประเทศ เมียนมา ต้องการหาที่อยู่อาศัยเพื่อหลบภัย

ดังนั้นการเข้ามาซื้อสังหาฯในประเทศไทย ถือเป็นความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน เวลาที่ลี้ภัยทางการเมืองสามารถเข้ามาในประเทศไทยได้ง่ายสุด ก่อนที่จะเดินทางไปประเทศที่3 ฉะนั้นจะเห็นว่าคนเมียนมาที่ซื้ออสังหาฯไทย มักจะซื้ออสังหาฯที่มีขนาดใหญ่ ราคาแพง เพื่อให้ได้ที่อยู่อาศัยที่มีขนาดใหญ่โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมมีขนาดตั้งแต่ 50 ตารางเมตรขึ้นไป และย้อนหลังในปี2565 มีขนาด 51-52 ตารางเมตร
 

“จากตัวเลขจะเห็นว่า คนเมียนมาเพิ่งจะเข้ามาซื้ออสังหาฯไทยมากขึ้นโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในช่วง2ปีที่ผ่านมานี้ คือ ตั้งแต่ปี 2565-2566 โดยก่อนหน้านี้ ในปี2564 คนเมียนมายังไม่ติดอันดับ 1ใน10 ของประเทศที่เข้ามาซื้ออสังหาฯในประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับปัจจุบันที่สถานการณ์ในเมียนมาสั่นคลอนทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่”

ยอดโอนคอนโด2ปีเพิ่ม10เท่า

จากผลสำรวจพบว่า ในปี 2566 ชาวเมียนมา ซื้อคอนโดมิเนียม 564 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 3,707 ล้านบาท รวม 28,239 ตารางเมตร จะเห็นว่าพื้นที่ที่คนเมียนอยู่อาศัยเฉลี่ย 50 ตารางเมตร ไม่ใช่ห้องเล็ก หากย้อนหลังไปปี 2565 ชาวเมียนมาซื้อ 349 หน่วย มูลค่า 2,551 ล้านบาท สะท้อนว่า ความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นชัดเจน เป็นผลมาจากสถานการณ์ความไม่มั่นคงในประเทศมากขึ้น หากพิจารณาข้อมูลย้อนหลังในปี 2564  จำนวนซื้อน้อยเพียง 30 หน่วย โดย 2 ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึงกว่า10 เท่า
 

“ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกลุ่มคนรวยจากเมียนมา หรือกลุ่มชนชั้นนำ รวมทั้งคนกลุ่มน้อยที่มีเงิน เข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทยมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมามีการส่งลูกหลานเข้ามาเรียนในประเทศไทย เช่น ท่าขี้เหล็ก มีเด็กเมียนมาเรียนโรงเรียนในไทยทำให้เขามาซื้อที่อยู่อาศัยในไทย หากสถานการณ์ความมั่นคงไม่ยุติคงมีคนเมียนมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ไทยอย่างต่อเนื่องในรูปแบบของเรียลดีมานด์มากกว่าเก็งกำไร”

สอดคล้องกับจากรายงานสถิติการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของชาวต่างชาติของศูนย์อสังหาริมทรัพย์ (REIC) พบว่าสัดส่วนของเมียนมาผงาดขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ตั้งแต่ปี 2565 และต่อเนื่องมาจนถึงปี 2566 มีมูลค่า 2,250 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 4.3% รั้งอันดับ 3 รองจากรัสเซียและจีน ที่สำคัญมีราคาเฉลี่ย 6.5 ล้านบาทต่อยูนิต สูงกว่า จีน และรัสเซีย

กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ ทำเลฮอต

นายคาร์โล โพเบร รองกรรมการผู้จัดการ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาโครงการ คอลลิเออร์ส ประเทศไทย กล่าวว่า 2 ปีที่ผ่านมา ยอดการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของชาวเมียนมามาแรง ติดอันดับท็อปทรี เชิงมูลค่า ถือเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยในประเทศไทยสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังโควิด 

ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัญหาการเมืองในประเทศทำให้ต้องการมีบ้านหลังที่สองในไทย โดยมี 3 ทำเลหลักกระจายอยู่ในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และ เชียงใหม่ ถือเป็นความท้าทายในการทำตลาดกับลูกค้ากลุ่มนี้ เนื่องจากมีพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่แตกต่างจากกลุ่มลูกค้าชาวจีนและรัสเซีย

นิยมคอนโดทำเลสุขุมวิทราคา 10-20 ล้าน

อย่างไรก็ดี ชาวเมียนมาที่สนใจซื้ออสังหาฯ ในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่เป็นระดับเศรษฐี ที่นิยมซื้อคอนโดหรูระดับราคา 10-20 ล้านบาท ในทำเล สุขุมวิท พร้อมพงษ์ อโศก ที่ติดกับโรงพยาบาล โรงเรียนนานาชาติ ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ส่วนในกลุ่มระดับกลางนิยมซื้อคอนโดมิเนียมราคา 5-10 ล้านบาท ใกล้รถไฟฟ้าเดินทางสะดวก เช่น โซนอารีย์ พญาไท เพื่ออยู่อาศัยและสามารถปล่อยเช่าหรือขายต่อได้ในราคาที่สูงขึ้น

“ชาวเมียนมาที่ซื้อคอนโดติดรถไฟฟ้าส่วนใหญ่เป็นนิวเจนที่ต้องการซื้อเพื่อลงทุนเพื่อปล่อยเช่าหรือขายต่อเพื่อทำกำไรในอนาคตนิยมซื้อช่วงพรีเซลล์”

พูลวิลล่าภูเก็ตราคา 40 ล้านอัพบูม

ส่วนกลุ่มที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตจะมี “พูลวิลล่า” ระดับราคา 40 ล้านบาทขึ้นไป ทำเลลากูน่า บางเทา รวมถึง “คอนโดมิเนียม” ได้รับความนิยมมาก สร้างไม่ทันขาย! เพราะกลุ่มที่เข้าไปซื้อส่วนหนึ่งทำธุรกิจในภูเก็ต ต้องการที่พักที่มีความเป็นส่วนตัวสูง พูลวิลล่า จึงตอบโจทย์ ประกอบกับจังหวัดภูเก็ต ขึ้นชื่อเป็น World Class Tourist Destination สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ติดอันดับ “TOP 10” เมืองที่เหมาะกับการ Workation ที่สำคัญมีการลงทุนของโรงพยาบาลใหญ่ เช่น บำรุงราษฎร์

“ในสายตาชาวเมียนมาการมีที่อยู่อาศัยใกล้โรงพยาบาลเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งที่ผ่านมา ชาวเมียนมานิยมเข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลในประเทศไทย”

สนใจบ้านเดี่ยว‘สันกำแพง-หางดง’

นอกจากนี้ ชาวเมียนมายังสนใจซื้อ “บ้านเดี่ยว” ในเชียงใหม่ ระดับราคา 20-30 ล้านบาท เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากประเทศเมียนมา กลุ่มคนที่ซื้อส่วนใหญ่เป็นรีไทร์เมนต์ และครอบครัว เน้นทำเลนอกเขตเมือง อาทิ สันกำแพง หางดง เป็นโอกาสดีสำหรับดีเวลลอปเปอร์ที่ต้องการขยายฐานลูกค้าต่างชาวที่มีกำลังซื้อสูงอย่างชาวเมียนมาที่ต้องการบ้านหลังที่สองในเชียงใหม่ พร้อมกับส่งลูกหลานมาเรียนด้วย

ขณะที่ผู้สูงอายุชาวเมียนมาพำนักยาว เรียกได้ว่า “เมียนมา” เป็นลูกค้ากลุ่มใหม่ที่มาแรงในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ซึ่งเกิดแรงผลักดันจากการเมืองภายในประเทศทำให้ต้องการซื้อบ้านหลังที่สอง

“แต่พฤติกรรมของลูกค้าเมียนมาที่เข้ามาซื้ออสังหาฯ ในเมืองไทย จะแตกต่างจากชาวจีนและรัสเซีย คือ ชอบความเป็นไพรเวตไม่นิยมอยู่กันเป็นชุมชนอย่างไชน่าทาวน์ ดังนั้นการทำตลาดกับลูกค้ากลุ่มนี้จึงไม่เหมือนกับชาวจีนและรัสเซีย”

นายคาร์โล ระบุว่า แนวโน้มของลูกค้าชาวเมียนมายังคงมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศไทยมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกลุ่มคนรุ่นใหม่เริ่มออกมาขยายธุรกิจในต่างประเทศมากขึ้น ในรูปแบบสตาร์ตอัปถือเป็นโอกาสที่ดีของการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มนี้ แม้เชิง “จำนวนซื้อ” ไม่มากเท่ากับชาวจีนแต่ “มูลค่า” ต่อยูนิตสูง เพราะเป็น กลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง