'เสนา' ไม่หวั่นหนี้ครัวเรือน ลุยเปิด 17 โครงการ มูลค่า 2.8 หมื่นล้าน

'เสนา' ไม่หวั่นหนี้ครัวเรือน ลุยเปิด 17 โครงการ มูลค่า 2.8 หมื่นล้าน

'เสนา' รุกเปิด 17 โครงการใหม่มูลกว่า 2.8 หมื่นล้าน ส่งกลยุทธ์ FOCUS, DEEP DIVE and DELIBERATE รับปีมังกรทอง วางเป้าหมายรายได้รวมทุกธุรกิจ 15,100 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 17,500 ล้านบาท

KEY

POINTS

  • เสนา ส่ง 17 โครงการใหม่มูลกว่า 2.8 หมื่นล้าน ขยายตลาดในปี 2567 
  • ส่งกลยุทธ์ FOCUS, DEEP DIVE and DELIBERATE ขยายอสังหาริมทรัพย์ให้แกร่ง
  • ตั้งเป้าหมายรายได้รวมทุกธุรกิจ 15,100 ล้านบาท และสร้างยอดขายพุ่ง 17,500 ล้าน
  • ส่งผลิตภัณฑ์ Financial Asset หรือ เช่าซื้อ ทำให้ทุกคนเป็นเจ้าของบ้านได้อย่างง่ายๆ

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ในฐานะ Developer รายแรกพัฒนาหมู่บ้านโซลาร์เต็มรูปแบบ ผู้นำด้านบ้านประหยัดพลังงาน และ Condo Low-Carbon ฉายภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ว่าในปี 2567 เป็นความท้าทายของแผนขับเคลื่อนธุรกิจ เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ และด้านอื่นๆ ยังคงมีมาอย่าต่อเนื่องจากปีก่อน

ทั้งปัญหาหนี้สินครัวเรือน ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยปรับสูงขึ้นในรอบ 10 ปี ส่งผลให้สถาบันการเงินปฏิเสธการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสูงถึง 70% รวมถึงราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้น 1.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ราคาที่อยู่อาศัยปรับเพิ่มขึ้นตามไปด้วยเฉลี่ย 5-10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งผู้ประกอบการทุกรายคงต้องปรับตัวตาม 

"จากปัญหาหนี้ครัวเรือน กำลังกระทบต่อสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ไทย ทำให้บริษัทไม่สามารถหลีกหนีปัญหาและผลกระทบเหล่านี้ไปไม่ได้เช่นกัน แต่ได้วางแผนแนวทางในการบริหารจัดการธุรกิจ และจัดการปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ บนทิศทางของตัวเอง ซึ่งตอบโจทย์และเป็นไปในทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง"

ทั้งหมดสะท้อนจากปี 2566 ที่ผ่านมา เสนาเปิดตัวโครงการใหม่ไป 16 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 17,793 ล้านบาท สร้างรายได้สูงกว่าหมื่นล้านที่ 10,954 ล้านบาท เติบโตกว่า 12% มีกำไรขั้นต้นกว่า 3,200 ล้าน ส่วนยอดโอนอยู่ที่ 8,432 ล้านบาท เติบโตกว่า 9% โดยทุกผลการดำเนินงานเป็นไปในทิศทางบวก และดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

\'เสนา\' ไม่หวั่นหนี้ครัวเรือน ลุยเปิด 17 โครงการ มูลค่า 2.8 หมื่นล้าน

สำหรับแผนในปี 2567 ได้แบ่งออกเป็นกลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจได้ใน 3 มิติ ประกอบด้วย  FOCUS, DEEP DIVE and DELIBERATE

FOCUS : ให้ความสำคัญ และเจาะลึกเรื่อง segmentation มากขึ้น เน้นกลุ่มเรียลดีมานด์ที่สามารถซื้อบ้านได้ที่ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ไปจนถึง 3.6 ล้านบาท หรือมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มากที่สุด มีถึง 54% เทียบจากรายได้ครัวเรือนของคนกรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งตรงกับบ้านหรือคอนโดในกลุ่ม Affordable Segment ที่เป็นสินค้าหลักของกลุ่มเสนาที่มีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว

ปัจจุบันเสนามีโครงการพร้อมขายทั้งหมด 99 โครงการ หรือคิดเป็นมูลค่ารวมราว 116,396 ล้าน เป็นสัดส่วนของ Affordable segment ที่ 47 โครงการ มูลค่า 37,409 โดยตั้งเป้าขึ้นเป็นผู้นำในเซ็กเมนท์นี้ ขณะเดียวกันก็พร้อมจะขึ้นมาครองส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งของกลุ่ม BOI คอนโดมิเนียม พร้อมกันด้วย (โดยกลุ่มนี้ ณ  ข้อบังคับปัจจุบันต้องมีราคาไม่เกิน 1.2 ล้าน และต้องมีพื้นที่ 24 ตร.ม.ขึ้นไป) ซึ่งปัจจุบันเสนามีอยู่ทั้งหมด 22 โครงการภายใต้แบรนด์ SENA KITH, COZI และ ECO TOWN รวม 9,785 ยูนิต หรือมูลค่าโครงการรวมเกือบ 13,900 ล้านบาท

นอกจากนี้ เสนายังขยาย Segment สู่ตลาดบนเพิ่มเติม ผ่านการบริหารจัดการของบริษัทในเครืออย่าง SENX ที่เชี่ยวชาญในตลาดกลุ่มบน โดยจะเปิดโครงการบ้านเดี่ยวระดับ Luxury เพิ่มเติมในทำเลศักยภาพในกรุงเทพฯ  ราคาประมาณ 30 ล้านบาท โดยมีจุดเด่นที่บริการส่วนตัวระดับ Elite Residences ที่ผ่านการอบรมจากกลุ่มพาร์ทเนอร์ของบริษัทคือ ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป (HHP) จากญี่ปุ่นด้วยมาตรฐานของโรงแรมในระดับสากล

DEEP DIVE: เสนายังเดินหน้าเจาะลึกทุกความต้องการของแต่ละกลุ่มผู้พักอาศัย ไม่เพียงแค่ตอบโจทย์การเป็น Lifelong Trusted Partner ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อพร้อมเดินเคียงข้างคุณในทุกๆ ช่วงอายุเท่านั้น แต่ยังพัฒนานวัตกรรมทางการจัดการอสังหาริมทรัพย์ สำหรับสภาพการเงินของลูกค้าในทุกรูปแบบด้วย เพื่อให้การเข้าถึงสินเชื่อบ้านเป็นเรื่องง่ายขึ้น และช่วยทุกคนสามารถมีบ้านได้เป็นของตัวเอง

ปัจจุบันกลุ่มเสนาฯ ถือเป็นรายเดียวที่มีนวัตกรรมการจัดการอสังหาฯ เพื่อตอบโจทย์สถานภาพทางการเงินทุกรูปแบบของผู้ซื้อ หรือ New Financial Services and Innovation ซึ่งจะเป็นผู้ช่วย และที่ปรึกษาทางการเงินส่วนตัวเพื่อการเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร โดยทีมที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์การเงินคอยให้บริการ รวมถึงการให้สินเชื่ออเนกประสงค์ (Non-Bank) เพื่อบริหารจัดการเครดิต หรือเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อบ้าน ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย  

ทั้งนี้ บริษัทต้องการส่งมอบโซลูชั่นให้ลูกค้าได้อย่างครบวงจร โดยเฉพาะผู้ที่ประสบปัญหาความพร้อมด้านการเงิน หรือเครติด บวกกับราคาที่พักอาศัยที่เพิ่มขึ้นไม่สัมพันธ์กับรายได้ อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้การเป็นเจ้าของบ้านไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แม้จะเป็นบ้านที่ราคาไม่สูง เราจึงพัฒนานวัตกรรมทางการเงิน ภายใต้ชื่อ “เงินสดใจดี” เข้ามาเป็นตัวช่วย โดยเปรียบเสมือนผู้ช่วยทางการเงินเพื่อช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงสินเชื่อบ้านได้ง่ายขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งในปี 2566 ที่ผ่านมาสามารถช่วยให้ลูกค้าที่    ถูกปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคารสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้เป็นยอดรวมถึง 300 ล้านบาท

นอกจากนี้เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Financial Asset หรือ เช่าซื้อ อย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้  เปรียบเสมือน Financial Asset ที่จะช่วยให้คุณเป็นเจ้าของบ้านได้อย่างง่ายๆ รวมถึงยังตอบโจทย์ Generation Rent หรือคนในกลุ่ม Gen Y และ Z ที่เป็นเจ้าของบ้านได้ยากขึ้นจากราคาบ้านที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องสวนทางกับรายได้ในปัจจุบัน  

DELIBERATE : นอกจากการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพพร้อมมีนวัตกรรมทางการเงิน เพื่อให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้แล้ว กลุ่มเสนาฯ คิดไตร่ตรอง (DELIBERATE) อย่างละเอียดใส่ใจ ครอบคลุมไปถึงการใช้ชีวิตในบ้าน เพื่อให้ทุกคนมีชีวิตที่สุขสบายแบบ Well Being ที่มีความสุขทั้งกับตนเอง คนรอบข้าง ชุมชน ตอบโจทย์โลกในวันนี้ และในอนาคต ด้วย SENA LOW-CARBON หรือ การใช้ชีวิตแบบรักษ์โลก เป็นเรื่องง่ายที่เสนา ผ่านผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของเสนา อาทิ บ้านพลังงานเป็นศูนย์ คอนโด Low-Carbon การติดตั้ง EV Ready ส่งเสริมการใช้รถสาธารณะโดย V Move หรือบริการรถรับส่งฟรี มีระบบบริหารจัดการขยะเพื่อการรีไซเคิล และ Zeroboard แพลตฟอร์มคำนวณการปล่อยคาร์บอน รวมถึงการใช้แอพลิเคชัน SENA360 และ SMARTIFY ที่จะเป็นตัวช่วยให้การใช้ชีวิตแบบ Low Carbon เป็นเรื่องง่าย

ขณะที่ภาพรวมของธุรกิจพลังงานสะอาดโดย บริษัท เสนา กรีน เอเนอร์ยี่ จำกัด ถือเป็นธุรกิจที่อยู่ในเทรนด์ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยวางเป้าหมายขยายตลาดธุรกิจ Solar สู่ตลาด B2C เพิ่ม รวมถึงแผนขยายธุรกิจ EV Charger สู่การเป็นตัวแทนจำหน่ายครบวงจร ขณะที่ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ Neta เตรียมพร้อมขยายเพิ่มเติมด้วยเป้าขาย 1,000 คัน พร้อมโมเดลธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่จะทำให้เป็นมากกว่าดีลเลอร์ทั่วไป ด้านโครงการ Reforestation ได้มีการยกระดับแผนธุรกิจสู่ตลาดคาร์บอนเครดิตระดับอินเตอร์ โดยตั้งเป้าในปีนี้ อยู่ที่ 10,600 ไร่ 

สำหรับเป้าหมายธุรกิจปี 2567 ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อพักอาศัยตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ 17 โครงการ มูลค่ารวม 28,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้าน 5 โครงการ และคอนโด 12 โครงการ ขณะที่ยอด Pre sales ปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 17,500 ล้าน และเป้าโอนที่ 12,700 ล้าน สำหรับธุรกิจบริหารโครงการและบริการ ตั้งเป้ารายได้ที่ 1,400 ล้าน ขณะที่ธุรกิจพลังงานสะอาดเป้ารายได้ 1,000 ล้านบาท

“การดำเนินธุรกิจที่เสนาให้ความสำคัญอีกหนึ่งเรื่องคือด้านความยั่งยืนที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้กลุ่มบริษัทเสนาตั้งเป้าลดการปล่อยคาร์บอนได้ไม่ต่ำกว่า 19,800 ตันคาร์บอน หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้มากกว่า 1,984,800 ต้น ผ่านผลิตภัณฑ์ และบริการ อาทิ บ้านพลังงานเป็นศูนย์จำนวน 1,015 ยูนิต, คอนโด Low Carbon 10 โครงการ, ติดโซลาร์ B2C 1,800 หลัง, ติด EV Ready 1,015 หลัง, EV Car 1,000 คัน, การบริหารจัดการขยะ, การปลูกป่า Reforestation จากเฟสแรก 306 ไร่ จะเพิ่มให้ครบ 10,000 ไร่ รวมถึงมาตรการประหยัดพลังงานภายในองค์กร”