‘วันแบงค็อก’ดีเดย์เฟสแรกต.ค.ดึงคิงเพาเวอร์แม่เหล็ก‘ดิวตี้ฟรี’
ทายาทเจ้าสัวเจริญ “ปณต สิริวัฒนภักดี” ซอฟต์โอเพนนิ่งอภิมหาโปรเจกต์ 1.2 แสนล้าน “วัน แบงค็อก” เขย่าคู่แข่งใจกลางกรุงเทพฯ เปิดเฟสแรกศูนย์การค้า ต.ค.นี้ ดึงพันธมิตร คิง เพาเวอร์ ผุดดิวตี้ฟรี คอนเซปต์ “ซิตี้ บูติค” ปักหมุดแลนด์มาร์คระดับโลก มั่นใจดึงทราฟฟิก 90 ล้านคนต่อปี
“วัน แบงค็อก” อภิมหาโปรเจกต์มิกซ์ยูสภายใต้ตระกูลสิริวัฒนภักดี บนพื้นที่ 108 ไร่หัวมุมถนนวิทยุตัดถนนพระราม 4 ตรงข้ามสวนลุมพินี มูลค่ากว่า 1.2 แสนล้านบาท มีทั้งสำนักงานและศูนย์การค้า โรงแรม ศูนย์แสดงนิทรรศการและจัดกิจกรรมระดับโลก แหล่งรวมศิลปวัฒนธรรม เป็นโครงการร่วมทุนระหว่างบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ธุรกิจในเครือของกลุ่มเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี
นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด กล่าวว่า โครงการวัน แบงค็อก นับเป็นเมืองอัจฉริยะต้นแบบเพื่อความยั่งยืน เป็น “The Heart of Bangkok” หรือ เมืองกลางใจผู้คน เป็นเมืองที่ทุกคนหลงรัก จากการพัฒนาพื้นที่สีเขียวในโครงการเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯ และมอบประสบการณ์ใหม่ของการใช้ชีวิต สร้างแรงบันดาลใจด้วยงานศิลปะ และวัฒนธรรม ยกระดับคุณภาพชีวิตและพัฒนาเมืองให้เติบโตอย่างยั่งยืน ผลักดันให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและไลฟ์สไตล์ หมุดหมายสำคัญสำหรับนักธุรกิจ นักลงทุน และนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก
“เราดึงประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญในโลกเข้ามาพัฒนาโครงการวัน แบงค็อก เสมือนการพัฒนาเมืองต้นแบบในกรุงเทพฯ พร้อมปักหมุดเเป็นแลนด์มาร์คระดับโลก”
ทั้งนี้ ในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสร้างอสังหาฯ ที่มีคุณภาพและมีมาตรฐานในภูมิภาคนี้ ซึ่งมูลค่าอสังหาฯ ประเทศไทยยังสามารถเติบโตได้อีกมากเมื่อเทียบกับสิงคโปร์ ต่อตารางเมตรคุณภาพมากกว่า 10 เท่า แต่ศักยภาพของการหารายได้สูงกว่าเพียงแค่ 4 เท่า ฉะนั้นสะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยยังเติบโตได้อีกมากจากนโยบายต่างๆ ของภาครัฐที่สนับสนุนให้บริษัทต่างชาติเข้ามาตั้งสำนักงานใหญ่ในประเทศไทย มีส่วนช่วยตลาดอาคารสำนักงานที่มีความท้าทายจากภาวะโอเวอร์ซัพพลาย หรือการปล่อยพื้นที่เช่า
“10 ปีที่ผ่านมาผมลงทุนในโครงการอาคารสำนักงานในโลเคชั่นที่ไม่มีวันเกิดขึ้นมาใหม่ เป็นโลเคชั่นที่อยู่ในเส้นทางคมนาคมสาธารณะไม่ว่าจะเป็นบีทีเอส หรือเอ็มอาร์ที”
โครงข่ายเดินทางหนุนเมืองเติบโต
สำหรับ วัน แบงค็อก อยู่ติดกับโครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) ถือเป็นเรื่องที่พิเศษ (Unique) เพราะรถไฟฟ้าใต้ดินเป็นศูนย์กลางเชื่อมการเดินทางในกรุงเทพฯ
“ประชากรที่อยู่ในสายอื่นๆ อาจมีข้อจำกัดในการเติบโต แต่รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เป็นสายที่รองรับการเติบโตของการคมนาคมของคนเมืองและกรุงเทพฯ”
นอกจากนี้ ยังมีความพิเศษ กล่าวคือ กรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ทุกคนต้องการที่เข้ามาในเมือง การพัฒนาโครงการที่เปิดโล่งสามารถรองรับคนที่ต้องการเข้ามาสันทนาการกลางเมือง เชื่อว่า โครงการวัน แบงค็อก จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และการพัฒนาอสังหาฯในประเทศไทย
“วันนี้เราประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งในการนำบริษัทใหม่ๆ เข้ามาจัดตั้งสำนักงานที่นี่ โดยการย้าย หรือขยาย วัน แบงค็อก สามารถตอบโจทย์ผู้เช่าเหล่านั้น”
ชูความแตกต่างหนุนค้าปลีกแกร่ง
นายปณต กล่าวว่า แม้ปัจจุบันธุรกิจค้าปลีกมีการแข่งขันดุเดือดมาก แต่มั่นใจว่ารีเทลของ วัน แบงค็อก จะสามารถแข่งขันได้ จากความเป็นพื้นที่รีเทลใหม่ในกรุงเทพฯ มีความแตกต่างและศักยภาพ เป็นการสร้างจุดเด่นใหม่ให้กับกรุงเทพฯ ด้วยการครีเอทไปกับพื้นที่สีเขียวและกิจกรรมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นมากมาย นอกเหนือไปจากการชอปปิง
อีกปัจจัยหนึ่ง คือด้วยขนาดของ โครงการวัน แบงค็อก สามารถดึงร้านค้าในลักษณะการผสมผสานกับความหลากหลาย เข้ามาสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า โดยร้านค้าเข้ามาสร้างคอนเซปต์ใหม่ที่ไม่เคยสร้างที่ไหนมาก่อน หรือการขยายเซ็กเมนต์ใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อนมาสร้างเป็นที่แรก
เปิดเฟสแรกศูนย์การค้า 2 โซน ต.ค.นี้
นางสาวพลินี คงชาญศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายรีเทล วัน แบงค็อก กล่าวว่า วัน แบงค็อก รีเทล มีพื้นที่เช่ารวมกว่า 160,000 ตร.ม. พัฒนา 3 โซน 3 สไตล์ ประกอบด้วย
โซนแรก Parade คอนเซปต์ “A World of Choice Without Limits” พื้นที่เช่า 85,000 ตร.ม. จำนวน 9 ชั้น รวมมิตร Shop-Play-Work-Eat รวมร้านค้าแบรนด์ดังในไทย ซูเปอร์มาร์เก็ตจำหน่ายสินค้าจากทั่วทุกมุมโลกและไม่เคยมีมาก่อนในไทย รวมทั้งมีดิวตี้ฟรีคอนเซปต์จำหน่ายสินค้าปลอดภาษีครั้งแรกในศูนย์การค้ากลางใจเมืองกับ “คิง เพาเวอร์” ในรูปแบบใหม่ ซิตี้ บูติค ที่ไม่เคยมีมาก่อน ขนาดพื้นที่ประมาณ 5,000 ตร.ม. พร้อมร้านหนังสือขนาดใหญ่
โซนที่สอง THE STOREYS คอนเซปต์ “Tell Your Own Story at THE STOREYS” แพลตฟอร์มแห่งความคิดสร้างสรรค์ จุดบรรจบของเทรนด์โลกใหม่ๆ พื้นที่เช่ารวม 5 ชั้น 35,000 ตร.ม. โดยดึงร้านค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ที่มีเรื่องราวความเป็นมาที่น่าสนใจ ผสานกลิ่นอายวัฒนธรรมท้องถิ่นร่วมสมัย และคอนเซปต์สโตร์สุดฮิป นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร บาร์แอนด์บิสโทร และแหล่งแฮงเอ้าท์ยามค่ำคืน
โซนที่สาม POST 1928 คอนเซปต์ “Go Beyond Luxury” ก้าวข้ามนิยามความเป็นลักชัวรีไปอีกขั้นด้วยพื้นที่ชอปปิงรูปแบบใหม่ มีพื้นที่เช่า 5 ชั้น 40,000 ตร.ม. อีกหนึ่งไฮไลต์ที่น่าสนใจ คือ Retail Loop การรวมพื้นที่ชอปปิงขนาดใหญ่มากกว่า 900 ร้านค้า เชื่อมทุกส่วน Food Loop ส่วนร้านอาหารยาวกว่า 1.5 กิโลเมตร จาก 250 ร้านค้า Art Loop สร้างแรงบันดาลใจผ่านการเสพงานศิลป์ มีศูนย์รวมงานศิลปะและวัฒนธรรมระดับโลกโดยรอบโครงการกว่า 2 กิโลเมตร โซนนี้วางแผนเปิดในปี 2568 และในพื้นที่รีเทลจะดึงแบรนด์ใหม่เข้ามาเปิดประมาณ 20%
นอกจากนี้ยังเตรียมทำถนนชอปปิง (Shopping Street) แห่งแรกในกรุงเทพฯ ที่รวบรวมร้านค้าแฟลกชิปสโตร์แบรนด์ดังระดับโลก ในรูปแบบสแตนอะโลน 2 ฝั่งถนน ตั้งแต่ซูเปอร์แบรนด์แฟชั่น วอช แอนด์ จิวเวลรี่ และสตรีทแวร์พรีเมียม
โดย 2 โซนคือ Parade และ THE STOREYS กำหนดเปิดให้บริการเดือน ต.ค.นี้ ส่วน POST 1928 เปิดให้บริการปี 2568 คาดมีจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการรวมไม่ต่ำกว่า 90 ล้านคนต่อปี เป็นคนไทยและกลุ่มเอ็กซ์แพต (Expat) 60% นักท่องเที่ยว 40%