'บันยันกรุ๊ป' ผนึก 'อุรัสยา พร็อพเพอร์ตี้' เปิดลักชัวรี่วิลล่าสิชล นครศรีฯ

นายเคพี โฮ ประธานกรรมการบริหาร บันยันทรี โฮลดิ้งส์ (Banyan Tree Holdings) กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมกับ “อุรัสยา พร็อพเพอร์ตี้” (Urasaya Property) นักพัฒนาคลื่นลูกใหม่ มุ่งบุกเบิกโครงการอสังหาริมทรัพย์ในทำเลที่แตกต่าง ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ พัฒนาโครงการ “บันยันทรี เรสซิเดนซ์ สิชล” (Banyan Tree Residences Sichon) โครงการที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี่แห่งใหม่ ครั้งแรกของการลงทุนในอำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมชาติ ชูทำเลที่อยู่อาศัยที่มีศักยภาพซึ่งนับเป็นเป็นอัญมณีใหม่ในประเทศไทย พร้อมนำเสนอรูปแบบการพัฒนาโครงการแบบเน้นความยั่งยืน

ทั้งนี้ได้เปิดให้ผู้ลงทุนทั่วโลก ได้เข้ามาร่วมลงทุนในโครงการนี้ พร้อมได้รับอภิสิทธิ์จากบันยันกรุ๊ปทั่วโลก รวมถึงโอกาสในการลงทุนกับโปรแกรมการเช่าระยะยาวแบบพิเศษใหม่ของบันยัน ที่เรียกว่า Banyan Living (บันยัน ลิฟวิ่ง)

 

นายราวี ชานดราน กรรมการบริหาร อุรัสยา พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า โครงการ “บันยันทรี เรสซิเดนซ์ สิชล” สร้างขึ้นบนพื้นที่ริมชายหาด บนเนื้อที่ 15.5 ไร่ สามารถใช้เวลาขับรถเพียง 35 นาทีจากสนามบินนานาชาตินครศรีธรรมราชแห่งใหม่ ประกอบด้วย คอลเลกชั่นพูลวิลล่า 4 ห้องนอน พร้อมการตกแต่งภายในแบบเปิดโล่งที่แสดงถึงการออกแบบร่วมสมัย สิ่งอำนวยความสะดวกล้ำสมัย ผสานศิลปะแบบไทยภาคใต้ รังสรรค์โดยศิลปินและช่างฝีมือท้องถิ่น

ทั้งนี้ผู้พักอาศัยทุกคนจะได้รับสิทธิพิเศษทั้ง บริการผู้ช่วยส่วนตัว การใช้เรือส่วนตัว คลับเฮาส์ระดับ 5 ดาว ที่มีสระว่ายน้ำริมทะเล ฟิตเนส สปา และร้านอาหารที่นำเสนออาหารซิกเนเจอร์ และบาร์ริมชายหาดที่เป็นจุดศูนย์กลางของการสังสรรค์

 

สำหรับ สิชล เป็นเมืองจุดหมายปลายทางที่กำลังได้รับความสนใจจากทั่วโลก ด้วยภูมิภาคสวยงาม ธรรมชาติสมบูรณ์ มีชายหาดงดงามที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 10 ชายหาดชั้นนำของประเทศไทยโดย Lonely Planet ใกล้กับอุทยานแห่งชาติเขาหลวง เส้นทางเดินป่า ปั่นจักรยาน น้ำตก ถ้ำ อีกทั้งสามารถนั่งเรือเร็วไปเกาะ สมุย เพื่อเล่นกอล์ฟที่ สันติบุรี คันทรี คลับ ซึ่งอาจจะได้พบเห็นโลมาสีชมพูอันเป็นเอกลักษณ์ของสิชลได้ด้วย

“หากไปสำรวจพื้นที่สิชลเป็นอัญมณีที่ซ่อนอยู่อย่างแท้จริง เป็นโอเอซิสทางระบบนิเวศและวัฒนธรรมที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นภาคใต้ของประเทศไทยเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ห่างไกลจากฝูงชนและความแออัดของย่านรีสอร์ต รวมทั้งการเปิดอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศแห่งใหม่ที่สนามบินนครศรีธรรมราชที่ผ่านมาเมื่อเร็ว ๆ นี้”