The Empire ไลฟ์สไตล์ออฟฟิศกับโมเดล Co-living เชื่อมการใช้ชีวิตดิจิทัลแบบครบครัน
AWC เปิดตัว "The Empire Residence" บนชั้น 53 ของอาคาร "เอ็มไพร์" ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายให้พนักงานของทุกองค์กรในอาคาร ผ่านพื้นที่ Co-Living Space เชื่อมการใช้ชีวิตดิจิทัลต่อเนื่องอย่างครบครัน
บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดประสบการณ์ "Co-Living Collective: Empower Future" ยกระดับอุตสาหกรรมอาคารสำนักงานรูปแบบใหม่ให้เป็นไลฟ์สไตล์ออฟฟิศที่ลงตัวกับนิยามการทำงานแบบบูรณาการการทำงานและการใช้ชีวิต (Work-Life Integration) ยุคใหม่ เปิดตัว "The Empire Residence" บนชั้น 53 ของอาคาร "เอ็มไพร์" ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายให้พนักงานของทุกองค์กรในอาคาร ผ่านพื้นที่ Co-Living Space ที่ไม่เหมือนที่ไหนในอุตสาหกรรมอาคารสำนักงาน สร้างพื้นที่แบ่งปันความรู้และมอบโอกาสใหม่ให้กับธุรกิจอย่างไม่รู้จบ พร้อมเปิดพื้นที่ไลฟ์สไตล์อีกมากมายตั้งแต่ "Cafe Pittore" คาเฟ่แบบ Lobby Lounge ชั้น G ถึง "EA Rooftop at The Empire" บน Rooftop ชั้น 55-60 พร้อมเตรียมปรับปรุงใหม่พื้นที่ชั้น 10 และ 11 เป็น Food Lounge และห้องประชุม รวมพื้นที่เพื่อไลฟ์สไตล์กว่า 39,000 ตารางเมตร เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอาคารสำนักงาน รองรับเทรนด์การทำงานในอนาคตสำหรับบริษัทชั้นนำ พร้อมส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นจุดหมายขององค์กรและพนักงานจากทั่วโลก (Workplace Destination)
มิติใหม่ของ อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ในการรวมประสบการณ์บ้าน-โรงแรม-อาคารสำนักงาน เข้าเป็นรูปแบบ Co-Living Collective: Empower Future ในการเพิ่มพลังการใช้ชีวิตและการทำงาน และเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้ประเทศไทยตอบโจทย์ Workplace Destination โดย AWC เปิดมาตรฐานใหม่ "The Empire Residence" พื้นที่บ้านให้กับทุกคนในอาคารเอ็มไพร์ ได้เชื่อมต่อประสบการณ์การทำงานและการใช้ชีวิตหลากหลายไลฟ์สไตล์อย่างครบครัน โดยการสร้าง Lobby Lounge พื้นที่ใหม่เพื่อการพบปะสังสรรค์ตั้งแต่ "Cafe Pittore" ร้านคาเฟ่ชั้น Lobby ที่ให้บริการระดับโรงแรมหรู เปิดบริการอาหารและเครื่องดื่มถึงเที่ยงคืน และเปิดพื้นที่นั่งพักและพบปะกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไปจนถึง "EA Rooftop at The Empire" จุดหมายปลายทางด้านอาหารและเครื่องดื่มบน Rooftop
นอกจากนี้ เป็นไปตามแนวคิด "Co-Living Collective: Empower Future" ของอาคารเอ็มไพร์ ที่สร้างสรรค์เพื่อรองรับเทรนด์อนาคตในการผสมผสานการทำงานและการใช้ชีวิตเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ ให้ผู้เช่าสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกร่วมกันภายในอาคาร เพิ่มพื้นที่ทำงานที่สร้างความสุข ซึ่งจะช่วยเชื่อมต่อองค์กร ผู้คน และชุมชนเข้าด้วยกัน สู่การเป็น Ecosystem แห่งการเรียนรู้และแบ่งปัน เพื่อการใช้พื้นที่ร่วมกันอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน หรือ Sustainable Living รวมถึงช่วยเพิ่มโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจได้อย่างไร้ขีดจำกัด ตอบโจทย์ความต้องการทั้งในปัจจุบันและอนาคตขององค์กรชั้นนำระดับโลกที่กำลังมองหาออฟฟิศยุคใหม่ใจกลางย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ และสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางขององค์กรและพนักงานจากทั่วโลก
"The Empire Residence" ตั้งอยู่บนชั้น 53 ของอาคารเอ็มไพร์ ด้วยพื้นที่แบบ Co-Living กว่า 1,500 ตารางเมตร ที่มีขนาดใหญ่และไม่เหมือนที่ไหนในอุตสาหกรรมอาคารสำนักงานในประเทศไทย พร้อมด้วยวิวงดงามของกรุงเทพฯ จากมุมสูง ที่เปิดโอกาสให้ผู้เช่าทุกรายสามารถเข้าถึงพื้นที่สร้างสรรค์แห่งนี้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ในการบูรณาการชีวิตและการทำงานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ด้วยพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกอันทันสมัยผ่าน 4 องค์ประกอบของการใช้ชีวิตมาไว้ในที่เดียว ประกอบไปด้วย
- Live-"Ploen Room" พื้นที่อเนกประสงค์สำหรับทุกคนที่ออกแบบมาเพื่อรองรับกิจกรรมต่างๆ ทั้งการแสดงสินค้า โรงภาพยนตร์ขนาดเล็ก และห้องซ้อมเต้น รวมถึง "Eatery Bar" พื้นที่รับประทานอาหารพร้อมห้องครัวส่วนกลางที่ทุกคนสามารถมารวมตัวเพื่อแบ่งปันช่วงเวลาดีๆ ร่วมกัน "Drink Bar" เติมเต็มชั่วโมงแห่งความสุขหลังเลิกงานพร้อมด้วยวิวคุ้งน้ำบางกระเจ้ายามเย็น และ "Live Lounge" พื้นที่ Lounge สังสรรค์ในบรรยากาศห้องนั่งเล่นสำหรับการพักผ่อน
- Play-"Karaoke Room" บอกลาความเหนื่อยล้าและผ่อนคลายไปกับเสียงดนตรีที่ห้องคาราโอเกะ รวมถึง "Game Room" พื้นที่แห่งความสนุกสนานและความบันเทิงกับเครื่องเล่นวิดีโอเกม และกิจกรรมสันทนาการที่ทุกคนสามารถเพลิดเพลินไปด้วยกันกับเพื่อนร่วมงาน "Kids’ Room" พื้นที่ความสนุกสำหรับหนูๆ และครอบครัว ที่ผู้ปกครองสามารถให้ลูกๆ มาพักผ่อนนั่งรอหลังเลิกเรียนได้อย่างไร้กังวล "Own Time" ห้องโยคะและฝึกสมาธิสำหรับใช้เวลาอยู่กับตัวเอง และ "Pets’ Room & Pets’ Bedroom" พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสัตว์เลี้ยงแสนรัก ไม่ว่าจะเป็นที่นั่ง อ่างน้ำ เฟอร์นิเจอร์ และพื้นที่วิ่งเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยง
- Share-"Mini Gym" พื้นที่ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอด้วยลู่วิ่งแบบ Interactive เพื่อคนรักสุขภาพ รวมถึง "Nap Lounge" Lounge สำหรับการพักผ่อน ในบรรยากาศที่เงียบสงบและผ่อนคลาย เพื่อการชาร์จพลังในระหว่างวัน และ "Gents’ Room & Girls’ Room" ห้องล็อกเกอร์สำหรับชาย หญิง พร้อมสัมผัสประสบการณ์การอาบน้ำด้วยเทคโนโลยีวารีบำบัดเพื่อเพิ่มความสดชื่น รวมถึงห้องซาวน่า และห้องสตีม หรืออบไอน้ำ
- Work-"Sook Room, Sanook Room, Saran Room & Mini Zone" ห้องประชุมหลากหลายขนาดตั้งแต่ห้องส่วนตัวขนาดเล็กไปจนถึงห้องประชุมขนาดใหญ่เพื่อรองรับทุกความต้องการ พร้อมรองรับการจองห้องประชุมล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน "Pikul" รวมถึงพื้นที่ "Team Zone" นำเสนอพื้นที่การทำงานที่ยืดหยุ่นเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือร่วมกันผ่านสายงานที่หลากหลาย รวมถึงการจัดสัมมนา และ "Peace Lounge" พื้นที่ทำงานอันเงียบสงบในสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบาย ผ่อนคลาย เพื่อมุ่งความสนใจให้กับการทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
นอกจากนั้น อาคารเอ็มไพร์ยังได้เริ่มเปิดพื้นที่ EA Rooftop at The Empire จุดหมายปลายทางด้านอาหารและเครื่องดื่มบน Rooftop ที่ตั้งอยู่ชั้น 55-60 ของอาคาร ซึ่งประกอบไปด้วย EA Gallery ชั้น 55 แหล่งรวมไลฟ์สไตล์ร้านอาหารและคาเฟ่กับทัศนียภาพที่ดีของกรุงเทพฯ ที่ทยอยเปิดร้านคาเฟ่และร้านอาหารตั้งแต่ธันวาคม 2566 และจะเปิดเต็มรูปแบบในไตรมาสแรกปี 2567 และ "EA CHEF'S TABLE" ชั้น 56 ห้องอาหารไทยบน Rooftop และห้องอาหารจีนที่อยู่สูงในไทยที่สร้างสรรค์โดยเชฟมิชลินสตาร์ โดยเชฟต้น ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร และเชฟวิคกี้ เชง และ Nobu Bangkok ชั้น 57-58 และ Nobu Bangkok Rooftop Bar ชั้น 60 ห้องอาหารและบาร์ภายใต้แบรนด์ Nobu ในประเทศไทย ที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มไลฟ์สไตล์ให้กับลูกค้าและพนักงานภายในอาคารเอ็มไพร์ได้อย่างครบวงจร ภายในไตรมาสสามปี 2567 เช่นกัน
อาคารเอ็มไพร์ เปิดตัว Co-Living ที่ไม่เหมือนที่ไหนในอาคารสำนักงานในประเทศไทยให้ผู้เช่าในวันนี้ พร้อมด้วยสิทธิประโยชน์จาก "AWC Infinite Lifestyle" (AWI) และแอปพลิเคชัน "Pikul" ซึ่งเชื่อมโยงผู้เช่าและนักเดินทางเข้ากับเครือข่ายทั้งหมดของกลุ่มโรงแรมและหรือห้องอาหารในเครือ AWC ที่ลูกค้าจะสามารถเพลิดเพลินไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครันทั้ง "Office-Home-Hotel-Retail" ได้อย่างไร้รอยต่อในสัมผัสเดียว ไม่ว่าจะเป็นการเข้าอาคาร การจองห้องประชุม และข้อเสนอสุดพิเศษต่างๆ และอาคารยังเตรียมเพิ่มบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย อาทิ บริการนำรถไปจอด, เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำ, บริการ Room Service และแผนกต้อนรับลูกค้า เพื่อให้ทุกคนในอาคารสามารถใช้ชีวิตได้อย่างลงตัวและมีความสุข
การเปิดตัว "The Empire Residence" และพื้นที่ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ มากมายในอาคารเอ็มไพร์ ในวันนี้ไม่ได้เป็นเพียงการเปิดตัวแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของอาคารสำนักงานในกรุงเทพฯ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ใหม่ด้านการทำงานและไลฟ์สไตล์แต่เพียงเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของ AWC ทางด้านนวัตกรรมที่ไม่หยุดยั้งในการพัฒนาเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดี ที่จะสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า พร้อมมาตรฐานใหม่ให้อุตสาหกรรมอาคารสำนักงานในการเปิดประสบการณ์อาคารเอ็มไพร์ให้เป็นจุดหมายปลายทางการทำงานผสานไลฟ์สไตล์แบบ AWC's Lifestyle Workplace Destination ที่บูรณาการการใช้ชีวิตและการทำงานเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัวในรูปแบบที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน ซึ่งได้กลายมาเป็นไมล์สโตนครั้งสำคัญของมิติใหม่แห่งการใช้ชีวิตในเมือง ที่จะช่วยเสริมสร้างคุณค่าองค์รวมให้กับพนักงาน ลูกค้า ชุมชน สังคม และประเทศชาติ เพื่อช่วยสนับสนุนประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางขององค์กรและพนักงานจากทั่วโลกที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง