‘ณุศาศิริ’ ปรับโหมดธุรกิจปี 67 สู่อสังหาฯ ด้านสุขภาพเต็มรูปแบบ
“ณุศาศิริ” ปรับโหมดธุรกิจปี 2567 สู่อสังหาริมทรัพย์ด้านสุขภาพเต็มรูปแบบ รองรับตลาดผู้สูงอายุ เปิดตัว รพ.พานาซี มายโอโซน เขาใหญ่ ตั้งเป้าเป็นหนึ่งด้านป้องกัน-รักษามะเร็ง สร้างเครือข่ายพันธมิตรโรงแรมเชนระดับโลก พัฒนาโครงการบ้านหรู พร้อมสนามบินภายในโครงการ
บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) โดยนายวิษณุ เทพเจริญ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนางศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจรวมถึงโครงการสำคัญของณุศาศิริ ที่กำลังปรับโหมดไปสู่อสังหาริมทรัพย์ด้านสุขภาพเต็มรูปแบบ
โดยนางศิริญา ระบุว่า แม้ณุศาศิริจะยังพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก แต่ในปี 2567 นี้จะเน้นต่อยอด และเสริมศักยภาพอสังหาริมทรัพย์เดิมที่มีอยู่ทั่วประเทศ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยจะปรับโหมดให้เป็นอสังหาริมทรัพย์ด้านสุขภาพให้มากขึ้น เช่น การนำสต็อกคอนโดมิเนียมมาพัฒนารองรับกลุ่มผู้สูงอายุ การพลิกโฉม PARC EXO โครงการที่มีอยู่แล้ว มาปรับเป็นคอนโดมิเนียมรองรับผู้สูงวัย จนประสบความสำเร็จ ขายหมด 200 ยูนิตในเวลารวดเร็ว พร้อมทั้งจะมุ่งเน้นสร้างเครือข่ายพันธมิตรให้กว้างขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะพันธมิตรโรงแรมที่มีความสนใจในตลาดผู้สูงอายุ
เปิด รพ.พานาซี มายโอโซน สาขาเขาใหญ่
นางศิริญา กล่าวอีกว่า จากความตั้งใจที่จะให้ มายโอโซน เขาใหญ่ พื้นที่กว่า 1,200 ไร่ ให้เป็นสถานที่ที่เป็นศูนย์รวมความสมบูรณ์แบบของการใช้ชีวิตเพื่อสุขภาพ ณุศาศิริจึงเปิดโรงพยาบาลพานาซี สาขามายโอโซน เพื่อย้ำแนวทาง “ก้าวใหม่สู่สุขภาพที่ดีไปกับ PANACEE”
โดยวางกลยุทธ์สำหรับคนรักษ์สุขภาพ และต้องการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมไปกับพานาซีที่เชี่ยวชาญในการใช้เวชศาสตร์ชะลอวัย ผนวกเข้ากับเทคโนโลยีด้านการแพทย์ที่ทันสมัยจากประเทศเยอรมนี
ทั้งนี้ พานาซี มายโอโซน เขาใหญ่ จะเน้นเป็นศูนย์รับผู้ป่วยที่ส่งต่อจากสาขาอื่นๆ ของพานาซี ที่ต้องการพักรักษาและฟื้นฟูสุขภาพ
ด้วยยึดแนวคิดหลักคือ การให้ธรรมชาติช่วยบำบัดรักษาผู้ป่วยในสถานที่ซึ่งมีอากาศบริสุทธิ์ ท่ามกลางความเขียวขจีของต้นไม้ ล้อมรอบด้วยหุบเขา พร้อมห้องพักระดับพรีเมียม และเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน โดยมีทีมแพทย์พยาบาลให้การดูแลสุขภาพตลอด 24 ชั่วโมง
ตั้งเป้าสู่ความเป็นหนึ่งด้านรักษามะเร็ง
นางศิริญา กล่าวต่อว่า ด้วยการเล็งเห็นว่ามะเร็งคือโรคร้ายอันดับ 1 ที่คร่าชีวิตคนทั้งโลก โรงพยาบาลพานาซี จึงได้ตั้งเป้าสู่ความเป็นหนึ่งในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคมะเร็ง จึงได้ทำโครงการ Panacee Cancer early care รู้เท่าทันมะเร็ง รู้ก่อน รักษาก่อน เป็นทางเลือก สู่ทางรอด
โดยผู้เป็นสมาชิกของบัตร Panacee Cancer early care จะได้รับการตรวจลึกถึงรหัสพันธุกรรม ctDNA ในเลือด โดยจะส่งข้อมูลที่เก็บไว้ไปตรวจวิเคราะห์ที่ประเทศเยอรมนี เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ความเสี่ยงที่จะเกิดโรคมะเร็งได้ถึง 5 จุดสำคัญ คือ ตับ เต้านม ปอด กระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
อีกทั้งจะมีทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ ร่วมกันดูแลบูรณาการร่างกายของสมาชิก ด้วยโปรแกรมการฟื้นฟู ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม จากภายในสู่ภายนอกครบทุกขั้นตอน เพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดีเพื่อเป็นภูมิต้านทานการเกิดโรค หรือหากอยู่ระหว่างการเป็นสมาชิกของ Panacee Cancer early care แล้วป่วยด้วยโรคมะเร็งโรงพยาบาลพานาซี จะมอบเอกสิทธิ์การรักษาภายใต้การรักษาโรคมะเร็งตามแผนของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของพานาซี ด้วยมูลค่า 1 ล้านบาท เพื่อตอกย้ำโครงการ Panacee Cancer early care ดูแลก่อน ป้องกันมะเร็งได้
นอกจากนี้ ศูนย์มะเร็งบูรณาการพานาซี ยังนำนวัตกรรมนวัตกรรมการรักษาจากประเทศเยอรมนี ที่มีประสิทธิภาพสูงมาใช้เพื่อการรักษา อาทิ เครื่อง Oncothermia หรือการรักษามะเร็งด้วยคลื่นความร้อนที่ในประเทศไทยมีอยู่เพียง 2 เครื่อง ควบคู่กับการฟื้นฟูภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยให้แข็งแรงเพื่อเอาชนะโรคมะเร็ง เป็นการส่งเสริมซึ่งกันและกันจนก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการรักษาสูงสุด จึงเป็น ทางเลือก สู่ทางรอด ของผู้ป่วยมะเร็งอย่างแท้จริง
สร้างสนามบินรองรับโครงการ Ultra Luxury
ด้านนายวิษณุ เปิดเผยว่า ณุศาศิริฯ มายโอโซน กำลังจะพัฒนาโครงการบ้านหรูระดับ Ultra Luxury ขึ้นในเร็วๆ นี้ และการสร้างสนามบินภายในโครงการ มาย โอโซน จึงจะตอบโจทย์ให้มีความสมบูรณ์ครบองค์ประกอบมากยิ่งขึ้น และอีกส่วนหนึ่งที่เราสร้างรันเวย์ขึ้นมา ก็เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าของสนามกอล์ฟมายโอโซน รวมไปถึงเพื่อซัพพอร์ตโรงพยาบาลพานาซี ที่อาจต้องใช้เครื่องบินในการสนับสนุนการเดินทางของผู้ป่วย หรือผู้ที่ต้องการมาฟื้นฟูสุขภาพที่มายโอโซน หรือเพื่อส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลพานาซี สาขาในกรุงเทพฯ
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการบ้านในระดับ Ultra Luxury ลูกค้าที่มีเครื่องบินส่วนตัว บ้านในโซนนี้ก็จะตอบโจทย์ความสะดวกสบายของลูกค้าเราได้ การสร้างสนามบินจึงเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนามายโอโซนให้เต็มรูปแบบมากขึ้น โดยในขณะนี้เราได้ขอใบอนุญาตในการใช้สนามบิน เพื่อขออนุญาตให้เครื่องบินขึ้น-ลงที่นี่ได้ เรียบร้อยแล้ว
พัฒนาธุรกิจพื้นที่รองรับเชน รร.ระดับโลก
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า โครงการล่าสุดเมื่อ Nusa My Ozone จับมือร่วมกับเชนโรงแรมระดับโลกอย่าง Kempinski Hotels เตรียมเปิดตัว Kempinski Hotel & Residences Khao Yai ที่ตั้งอยู่ในมายโอโซน โดยโครงการนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาโครงการสุดหรูแห่งใหม่ในเมืองไทย เป็นการผสมผสานความเชี่ยวชาญของณุศาฯ ในการสร้างประสบการณ์ที่ทันสมัย ร่วมไปกับจุดโดดเด่นของ Kempinski ที่มีชื่อเสียงในวงการโรงแรม จึงมั่นใจได้ว่าการร่วมกันของ Nusa และ Kempinski จะเต็มไปด้วยความหรูหราที่น่าสนใจแบบไม่มีใครเหมือน ถือว่าเป็นมิติใหม่ของโรงแรมที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย
โดย “Kempinski Hotel & Residences Khao Yai” จะเป็นโรงแรมแห่งที่ 3 ที่ตั้งขึ้นในประเทศไทย และเป็นโรงแรมเพียงแห่งเดียวที่ตั้งอยู่นอกเขตพื้นที่กรุงเทพฯ โครงการนี้จึงมีความโดดเด่น สำหรับนักเดินทางจากนานาประเทศทั่วโลก ที่กำลังมองหาที่พักผ่อนที่หรูหราและสวยงามในสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร“การเปิดตัวโครงการที่ยิ่งใหญ่ และน่าสนใจเหล่านี้ รวมไปถึงการผสานความร่วมมือกับเหล่าพันธมิตรที่มีชื่อเสียงและได้รับความเชื่อมั่นทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ทำให้ณุศาศิริมั่นใจว่าจะสามารถก้าวต่อไปอย่างยิ่งใหญ่และมั่นคงอย่างแน่นอน” นายวิษณุ กล่าว
สำหรับ มายโอโซน เขาใหญ่ เนื้อที่กว่า 1,200 ไร่ ภายในพื้นที่เป็นที่ตั้งของโรงแรมอีก 2 แห่ง ทั้งเมอเวนพิค รีสอร์ท เขาใหญ่ และโรงแรม เบิร์ช แอ็พตัน เขาใหญ่ นอกจากนี้ ยังมีสนามกอล์ฟ มายโอโซน กอล์ฟ คลับ
