เศรษฐกิจฉุดรายได้โตไม่ทันบ้านเดี่ยวดันตลาด ‘บ้านแฝด-ทาวน์โฮม’ บูม

เศรษฐกิจฉุดรายได้โตไม่ทันบ้านเดี่ยวดันตลาด ‘บ้านแฝด-ทาวน์โฮม’ บูม

ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวฉุดรายได้โตไม่ทันบ้านเดี่ยวที่ขยับสูงขึ้นต่อเนื่อง กลายเป็นตัวแปรสำคัญมีผลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยจากบ้านเดี่ยวมาเป็นบ้านแฝด ส่วนกลุ่มที่มีกำลังซื้อจำกัดหันไปซื้อทาวน์โฮมส่งผลให้ตลาดบ้านแฝด-ทาวน์โฮมกลับมาบูมอีกครั้ง!

KEY

POINTS

  • ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้รายได้หดตัว
  • สวนทางกับราคาบ้านที่ขยับสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวที่สูงขึ้นทุกปี
  • กลายเป็นตัวแปรสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยจากบ้านเดี่ยวมาเป็นบ้านแฝด
  • กลุ่มที่มีกำลังซื้อจำกัดหันไปซื้อทาวน์โฮมทำเลอุตสาหกรรมแทนส่งผลให้ตลาดบ้านแฝดและทาวน์โฮมพลิกกลับมาบูมอีกครั้ง

เมธา รักธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจ กลุ่มสินค้าบ้านแฝดและทาวน์โฮม บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดอสังหาฯ คึกคักขึ้นมาจากมาตรการรัฐ ที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะตลาดบ้านแฝดและทาวน์โฮม สังเกตได้จากยอดขายไตรมาส 1/67 ดีกว่าไตรมาส 4/66 แต่อย่างไรก็ตามสุดท้ายต้องรอดูการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน

ทั้งนี้แนวโน้มยอดขายแต่ละสัปดาห์เพิ่มขึ้น และโครงการใหม่ที่เปิดตัว 2 โครงการในไตรมาสที่ผ่านมา ช่วงสัปดาห์แรกที่เปิดตัวยอดขายเป็นไปตามเป้าหมาย เช่น โครงการพลีโน่ สุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ60 ราคา 2.99-5.99ล้านบาท ยอดขาย 300 ล้านบาท ส่วนพลีโน่ ทาวน์ เพชรเกษม 81 ราคา 1.89-3.49 ล้านบาท ยอดขาย 200 ล้านบาท


 

“ตัวเลขยอดขายสะท้อนให้เห็นว่าตลาดบ้านแฝดและทาวน์โฮมดีขึ้น แม้ว่ายอดปฏิเสธสินเชื่อหรือกู้ไม่ผ่านแนวราบของเอพีสูงขึ้น 40% ช่วงไตรมาส 1/67 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอัตราดอกเบี้ยสูงก็ตาม”

เศรษฐกิจฉุดรายได้โตไม่ทันบ้านเดี่ยวดันตลาด ‘บ้านแฝด-ทาวน์โฮม’ บูม

ส่วนทิศทางของเอพีปีนี้มีที่ดินพร้อมพัฒนาโครงการแล้ว ปัจจุบันเตรียมซื้อที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการไตรมาส 1/68 ในทำเลที่ไม่มีซัพพลายหรือซัพพลายหมด เนื่องจากบริษัทได้เปลี่ยนแนวทางการทำงานใหม่เพื่อลดความเสี่ยงในการพัฒนาโครงการในไตรมาส 4 เหมือนทุกปีที่ผ่านมา หลังเผชิญปัญหาการพัฒนาโครงการไม่ทันตามกำหนด จึงเปลี่ยนมาพัฒนาโครงการตั้งแต่ไตรมาสแรก เพราะหากมีปัญหาจะสามารถแก้ไขได้ทัน

ล่าสุดในไตรมาส 2/67 เปิดบ้านแฝดและทาวน์โฮม 13 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 10,560 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกระจายพอร์ตสินค้าครอบคลุมทุกเซกเมนต์ความต้องการของตลาด ตั้งแต่ราคาที่คุ้มค่าจนถึงโครงการระดับลักชัวรี เจาะทุกทำเลคุณภาพทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล แบ่งเป็นบ้านแฝด 5 โครงการ มูลค่า 3,670 ล้านบาท ทาวน์โฮม 8 โครงการ มูลค่า 6,890 ล้านบาท

เมธา กล่าวต่อว่า ปัจจุบันตลาดบ้านแฝดมีศักยภาพ เนื่องจากลูกค้ายอมรับมากขึ้น และกลุ่มที่มีรายได้ไม่พอซื้อบ้านเดี่ยวหันมาซื้อบ้านแฝดมากขึ้นส่งผลให้ตลาดเติบโตขึ้นต่อเนื่อง เอพีจึงหันมาโฟกัสมากขึ้น ส่วนตลาดทาวน์โฮม ให้ความสำคัญกับทำเลนิคมอุตสาหกรรม อาทิ ลาดกระบัง -ฉลองกรุง , บางปู, เพชรเกษม-สาย 4 เนื่องจากกลุ่มลูกค้าเป็นพนักงานประจำที่มีฐานเงินเดือนที่สามารถกู้ได้ และอนาคตมีแผนจะขยายไปยังนิคมนวนคร

ปัจจุบันทาวน์โฮมราคา 2-3 ล้านบาทของเอพีมียอดโอนไตรมาสแรกเกือบ 100 ล้านบาท อัตราการปฏิเสธสินเชื่อต่ำ เพราะลูกค้ามีรายได้ประจำ ถือเป็น ”ช่องว่าง” ทางตลาดที่ค้นพบจากเดิมที่ไม่เคยสนใจ ล่าสุดได้ทำแคมปญเปลี่ยนค่าเช่าเป็นค่าผ่อนซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี ภายใต้แบรนด์พลีโน่ ทาวน์ในโซนอุตสาหกรรมมากขึ้น

“สมัยก่อนที่ดินต่ำกว่า 10 ไร่ เราไม่สนใจแต่ปัจจุบัน 8 ไร่ทำเลดี สามารถพัฒนาพัฒนาขายได้ในราคาต่ำกว่า เช่น คู่แข่งขาย 40-50 ล้านบาท เราขาย10 ล้านบาท ก็น่าสนใจที่เข้าไปพัฒนาโครงการ หรือโลเคชันโซนนิคมฯ ที่มีขนาดใหญ่พอจะพัฒนาโครงการได้ก็ทำ 30 ไร่ เปิดเป็นเฟสๆ”

ปัจจุบันตลาดทาวน์โฮม ไม่ค่อยมีใครลงมาเล่นโดยเฉพาะรายใหญ่เน้นบ้านเดี่ยวราคาแพง แต่จากประสบการณ์การพัฒนาทาวน์โฮมมานานเอพีได้เปรียบมากกว่าทั้งในเรื่องของโลเคชัน ราคาและคุณภาพที่แข่งขันได้ และปัจจุบันเอพีมีส่วนแบ่งตลาดบ้านแฝดและทาวน์โฮมอันดับ1

เศรษฐกิจฉุดรายได้โตไม่ทันบ้านเดี่ยวดันตลาด ‘บ้านแฝด-ทาวน์โฮม’ บูม

ธัญวรัตน์ ปัญญารัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัทศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทนำผลการศึกษาความต้องการลูกค้าโดยเฉพาะกลุ่มครอบครัว New Gen ที่มองหาบ้านหลังแรก หรือบ้านหลังใหม่ มาใช้เจาะตลาดบ้านแนวราบราคา 3-5 ล้านบาท โซนรามอินทราภายใต้แบรนด์  “พรีโม่” กับโครงการศุภาลัย พรีโม่ รามอินทรา 117 มีทั้งบ้านแฝด และทาวน์โฮม 120 ยูนิต บนพื้นที่กว่า 15 ไร่ มูลค่า 485 ล้านบาท มีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ ราคา 2.88 -4.75 ล้านบาท

โดยเฉพาะบ้านแฝดดีไซน์ใหม่มีความกว้างและฟังก์ชันเทียบเท่าบ้านเดี่ยว พื้นที่ใช้สอย 163 ตารางเมตร จำนวน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พร้อมห้องนอน ขนาดใหญ่ ชั้น 2 และห้องนอนล่างสำหรับผู้สูงวัยหรือปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามความต้องการ ห้องครัวพร้อมประตูบานเลื่อนแบ่งกั้นเป็นสัดส่วน ก่อสร้างแบบรักษ์โลกผ่านแนวคิดกรีนคอนเซ็ปต์

เศรษฐกิจฉุดรายได้โตไม่ทันบ้านเดี่ยวดันตลาด ‘บ้านแฝด-ทาวน์โฮม’ บูม

ขณะที่ก่อนหน้านี้ค่ายแสนสิริได้เปิดตัว “สิริ เพลส ลาดพร้าว 101” ทาวน์โฮมคอนเซ็ปต์ Dream Destination ที่มีแรงบันดาลใจจากมหานคร “นิวยอร์ก” ราคาเริ่มต้น 4.5 ล้านบาท กวาดยอดขายกว่า 100 ล้านบาท ในวันเปิดตัววันแรก และปิดโครงการในเฟสแรกที่เปิดขาย

เศรษฐกิจฉุดรายได้โตไม่ทันบ้านเดี่ยวดันตลาด ‘บ้านแฝด-ทาวน์โฮม’ บูม

ส่วนพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค พัฒนาเพอร์เฟค พาร์ค แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ ราคา 5.29-7 ล้านบาท ภายใต้คอนเซ็ปต์ Urban Life & Dream Ville ชีวิตในเมือง บนทำเลศักยภาพ มีฟังก์ชันที่ตอบรับความต้องการได้ครบถ้วน ในคอนเซ็ปต์ Modern Classic ดีไซน์ทันสมัยบรรยากาศแบบยุโรป เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่สำหรับบ้านหลังแรกและโครงการ เพอร์เฟค พาร์ค บางใหญ่ โครงการใหม่ ราคาเริ่มต้น 3.79 ล้านบาท