สิวารมณ์ หนีรีเจกต์เรตรุกตลาดบ้านหรู
สิวารมณ์ พลิกกลยุทธ์หนีปัญหารีเจกต์เรตพุ่งครึ่งปีหลังเบนเข็มหันมารุกตลาดบ้านหรูเริ่มต้นราคาตั้งแต่ 16-20 ล้านหวังขยายฐานลูกค้าไฮเอนด์ดันยอดรายได้โตตามเป้า
นายรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบกับทุกอุตสาหกรรมไปทั่วโลก บริษัทในฐานะผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ส่งผลให้บริษัทต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน ภายใต้แนวคิดที่จะขยายกลุ่มลูกค้าใหม่โดยการพัฒนาสินค้าในระดับราคาที่สูงกว่า 2 ล้านบาทขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายการเติบโตให้กับธุรกิจ
โครงการแรกที่มีการขยายฐานลูกค้าใหม่ในปี 2564 แกรนด์ สิวารมณ์ จำนวน 222 ยูนิต ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวขนาด 40-60 ตารางวา ที่ระดับราคา 4-6 ล้านบาท ซึ่งได้การตอบรับที่ดีจากลูกค้า จากความสำเร็จดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทได้มีการซื้อที่ดินรองรับโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการ สิวารมณ์ ปาร์ค (วงแหวน-ประชาอุทิศ 76) มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว จำนวน 91 ยูนิต ที่ระดับราคา 6-7 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวได้มีการเปิดขายตั้งแต่ต้นปี 2567ล่าสุดมียอดโอน12 ยูนิต และคาดว่าตั้งแต่ พ.ค. จะมีการโอนเฉลี่ยแต่ละเดือนละ 4-5 ยูนิตขึ้นไป
จากช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 สินค้าของบริษัทอยู่ที่ระดับราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งยอมรับว่าในช่วงวิกฤตโควิด-19 ลูกค้าในกลุ่มนี้ ได้รับผลกระทบสูงสุด เนื่องจากสถาบันการเงินมีการคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อ ส่งผลให้อัตราการถูกปฏิเสธสินเชื่อในลูกค้ากลุ่มดังกล่าวสูงเกินกว่า 50%
ดังนั้นการยกระดับสินค้าเพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อมากยิ่งขึ้น และเพื่อเป็นการรักษาฐานลูกค้าใหม่ส่งผลให้บริษัทเร่งขยายโครงการในทำเลใหม่ เพื่อพัฒนาโครงการระดับ 4-6 ล้านบาท ล่าสุดบริษัทได้ซื้อที่ดินเพิ่มบริเวณติดกับโครงการแกรนด์ สิวารมณ์ เพื่อขยายโครงการแกรนด์ สิวารมณ์ เฟส 2 ในช่วงปลายปี 2567 นี้เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ ที่มีกำลังซื้อและยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันบริษัทก็ยังคงมองหาที่ดินในทำเลใหม่เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการในระดับราคา 6-7 ล้านบาทเพิ่ม หลังจากประสบความสำเร็จจากโครงการสิวารมณ์ ปาร์ค (วงแหวน-ประชาอุทิศ 76) มาแล้ว พร้อมทั้งยกระดับการพัฒนาโครงการสู่ระดับไฮเอนด์ในครึ่งปีหลังภายใต้โครงการสิวารมณ์ ไฮด์ (บางแค-สาทร) ซึ่งเป็นบ้านระดับราคา 16-20 ล้านบาทต่อยูนิต โดยจะเปิดขายในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 นี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์
มากขึ้น
“ 3 ปีต่อจากนี้ บริษัทฯ ได้กำหนดเป้าหมายอัตราการเติบโตของรายได้เฉลี่ย 35% ต่อปี ส่งผลให้บริษัทต้องเร่งเตรียมความพร้อมในการหาที่ดิน ซื้อที่ดิน โดยบริษัทจะมีการตัดสินใจซื้อที่ดินล่วงหน้าก่อนพัฒนาโครงการประมาณ 3 ปี เพื่อสร้างโครงการใหม่รองรับความต้องการของผู้อยู่อาศัย ”