คอนโดอารมณ์เพนต์เฮ้าส์บูม!เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อรวมห้องขายยูนิตละ34ล้าน
'อีเดน เอสเตท' สบช่องคอนโดอารมณ์เพนต์เฮ้าส์บูม ปรับโครงการ'เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ' รวมห้องขายยูนิตละ34ล้าน ขยายขนาด111 - 198 ตร.ม.เริ่มต้น 3.4แสนต่อตร.ม.ซื้อเพื่อการลงทุน และเพื่ออยู่อาศัย รองรับกลุ่มลองสเตย์และผู้ประกอบการไทย
นางสาวธัญทิพ เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีเดน เอสเตท คอร์ปอเรชั่น จํากัด เผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับอัลตร้าลักชัวรีในไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ จากการเก็บข้อมูลและศึกษาพฤติกรรมลูกค้าที่สนใจโครงการ The Strand Thonglor พบว่า ส่วนใหญ่เน้นซื้อเพื่อการลงทุน 51% และซื้อเพื่ออยู่อาศัย 49% โดยห้องชุดขนาด 2 ห้องนอน ซึ่งมีพื้นที่มากกว่า 80 ตารางเมตร ได้รับความนิยมสูงถึง 83% โดยในจำนวนนี้แบ่งเป็นกลุ่มชาวต่างชาติที่มองหาพื้นที่สำหรับการพำนักระยะยาว (Long Stay) หรือประกอบธุรกิจในไทย 91% ขณะที่เป็นคนไทย 9% สะท้อนให้เห็นถึง Real Demand ที่มีต่อห้องชุดขนาดใหญ่ในย่านทองหล่อ กำลังเป็นที่ต้องการและเติบโตอย่างสูงในตลาดคอนโดมิเนียมมิกซ์ยูสระดับอัลตร้าลักชัวรี
ปัจจุบันจำนวนยูนิตที่มีขนาดใหญ่ในย่านทองหล่อ – เอกมัย หาได้ยากมากขึ้น บริษัทจึงได้เล็งเห็นโอกาสและช่องว่างในการเติมเต็มความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ ด้วยการนำเสนอห้องที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ในรูปแบบ Combined Unit เพื่อเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์และตรงกับความสนใจของลูกค้าผู้ที่ต้องการที่พักอาศัยที่มีพื้นที่กว้างขวางและมีความเป็น ส่วนตัวสูงอยู่ท่ามกลางแหล่งไลฟ์สไตล์ที่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างหลากหลาย และเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบายสำหรับคนเมือง
ทั้งนี้ โครงการ The Strand Thonglor คอนโดมิเนียมมิกซ์ยูสระดับอัลตร้าลักชัวรี ออกแบบด้วยการผสานสมดุลแห่งรูปลักษณ์และฟังก์ชันการใช้งานที่มาพร้อมความเรียบหรู ภายใต้แนวคิด 'Essentially More' โดดเด่นด้วยการตกแต่งสไตล์ Minimal Luxury ประณีตดุจงานฝีมือชั้นสูง และ Timeless คงความหรูหรา สง่างามเหนือกาลเวลา ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการสัมผัสสีสันชีวิตในเมืองอย่างมีระดับที่แท้จริง พร้อมทำเลที่โดดเด่น เพียง 5 นาทีจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีทองหล่อ ย่านทำเลหรูที่รองรับความเป็น Pet-Friendly สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มองหาที่อยู่อาศัยเพื่อสัตว์เลี้ยง
โดยการCombined Unit เติมเต็มเรียลดีมานด์ของตลาดอัลตร้าลักชูรี ในโครงการ The Strand Thonglor นำเสนอพื้นที่ห้องที่มีขนาดใหญ่ตั้งแต่ 111 ถึง 198 ตารางเมตร รูปแบบขนาด 2 - 4 ห้องนอน กับไฮไลท์อย่าง ห้องมุมคู่ (Double Corners) ที่รับวิวได้สองทิศทาง ทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถชมพาโนรามิควิวชั้นสูงของทองหล่อได้อย่างเต็มตา มอบประสบการณ์อยู่อาศัยแบบเพนต์เฮ้าส์หรู โดดเด่นด้วยการออกแบบให้สามารถปรับเปลี่ยนเลย์เอาท์ได้ตามความต้องการเพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย
เน้นความยืดหยุ่นในการออกแบบพื้นที่ใช้สอยและรองรับทุกรูปแบบฟังก์ชันการใช้งาน แตกต่างด้วยการเลือกใช้วัสดุตกแต่งภายในที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันช่วยเพิ่มสุนทรียภาพในการอยู่อาศัย อาทิ กระจกที่มีความสูงจรดเพดาน (Full Height) ช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติ และวัสดุคุณภาพพรีเมี่ยมที่สะท้อนถึงความหรูหราในทุกรายละเอียดของห้อง โครงการนี้ยังคงความเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง (Pet-Friendly) ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดขายที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการให้พื้นที่อยู่อาศัยรองรับความต้องการที่อยู่ร่วมกันได้ทั้งคนและสัตว์เลี้ยง
อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน รวมถึงจุดเด่นในเรื่องของทำเลที่ตั้งที่อยู่ต้นซอยทองหล่อที่สะดวกต่อการเดินทางทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถเชื่อมต่อกับย่านต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ ได้อย่างง่ายดาย โดย Combined Unit มีจำนวน 9 ห้อง ราคาเริ่มต้นที่ 340,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งมีขนาดใหญ่เทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับห้องเพนต์เฮ้าส์ในหลายโครงการภายในย่านนี้ ซึ่งมีระดับราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 300,000 ถึง 400,000 บาทต่อตารางเมตร
ปัจจุบัน ทำเลทองหล่อ มีอัตราผลตอบแทน (Rental Yield) สูงเฉลี่ย 3.9% - 5.8% ต่อปี โอกาสกับการลงทุนคอนโดมิเนียมย่านทองหล่อ – เอกมัย สามารถสะท้อนด้วยความต้องการของผู้เช่าที่มีเสมอมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จากข้อมูลของ TERRABKK ระบุไว้ว่าตัวเลขผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า Rental Yield ของคอนโดมิเนียม ในย่านนี้ เฉลี่ย 3.9% - 5.8% ต่อปี ค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 620 - 950 บาทต่อตารางเมตร
อัตราค่าเช่า 1 ห้องนอน พื้นที่ 30 - 60 ตารางเมตร อยู่ที่ 21,000 - 50,000 บาทต่อเดือน และ 2 ห้องนอน พื้นที่ 55 - 95 ตารางเมตร ประมาณ 48,000 - 85,000 บาทต่อเดือน และ 3 ห้องนอน พื้นที่ขนาด90 - 160 ตารางเมตร ค่าเช่าอยู่ที่ 80,000 - 120,000 บาทต่อเดือน
ทั้งนี้ รูปแบบห้องที่ได้รับความนิยมและสร้างผลตอบแทนได้สูง คือ ห้องประเภท 2 ห้องนอน ผลตอบแทนเฉลี่ย 4% - 6.5% ต่อปี รองลงมา คือ 1 ห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ ผลตอบแทนอยู่ที่ 3.99% - 6.1% ต่อปี เพราะกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ Expat ที่เข้ามาทำงานในไทย และกลุ่มผู้เช่าอีกส่วนหนึ่งมักนิยมอาศัยรวมกันเป็นครอบครัว ซึ่งกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ต้องการห้องขนาดใหญ่ โดยโครงการ The Strand Thonglor สามารถสร้าง Rental Yield เฉลี่ยสูงกว่า 5% ต่อปี ในทุกยูนิต
โครงการ The Strand Thonglor ถือเป็นโครงการที่เชื่อมต่อชีวิตไลฟ์สไตล์ที่ครบวงจร ทั้งทำงาน กิน เที่ยว ปาร์ตี้ที่มีสีสันทั้งกลางวันและกลางคืน เสมือนสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จและรสนิยมเหนือระดับ ที่พร้อมมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือกว่าให้กับผู้ที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างมีระดับใจกลางมหานครแห่งนี้ที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว