JLLเผยปี67ลงทุนซื้อขายโรงแรมในไทยมูลค่าทะลุ2หมื่นล้านพุ่ง300%
JLL คาดการณ์การลงทุนซื้อขายโรงแรมปี67มูลค่าแตะ2หมื่นล้านเพิ่มขึ้น 300% เทียบจากปี 66 ชี้ดีลโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท 5 พันล้าน เป็นการซื้อขายโรงแรมครั้งใหญ่สุดในประเทศไทย
KEY
POINTS
- ปี 2567 ถือเป็นอีกปีหนึ่งที่คึกคักสำหรับตลาดการลงทุนซื้อขายโรงแรมของไทย จากการที่นักลงทุนมีการแสดงความสนใจอย่างต่อเนื่อง
- JLL คาดการณ์การลงทุนซื้อขายโรงแรมปี67มูลค่าแตะ2หมื่นล้านเพิ่มขึ้น 300% เทียบจากปี 66
- ชี้ดีลโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท 5 พันล้าน เป็นการซื้อขายโรงแรมครั้งใหญ่สุดในประเทศไทย
นายนิฮาท เออร์แคน ประธานกรรมการบริหารภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก กลุ่มธุรกิจบริการการลงทุนด้านโรงแรมของ JLL กล่าวว่า ธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยมีสถานภาพที่โดดเด่นขี้นเรื่อยๆ ในการเป็นหนึ่งในจุดหมายการลงทุนที่น่าจับตามองมากที่สุดในโลก และยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติ
"เราภูมิใจที่สามารถช่วยลูกค้าของเราปิดการขายครั้งสำคัญนี้ได้สำเร็จ อีกทั้งยังมีความมั่นใจอย่างมากในสถานะที่แข็งแกร่งขึ้นของประเทศไทยในการเป็นหนึ่งในตลาดการลงทุนด้านโรงแรมที่สามารถดึงดูดเงินลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง"
เมื่อมองในภาพรวมแล้ว จะเห็นได้ว่าการขายโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิทครั้งนี้ เป็นการเพิ่มเงินลงทุนที่ไหลเข้ามาในภาคธุรกิจโรงแรมของไทยอย่างต่อเนื่อง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา JLL สามารถนำเงินทุนจากทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาในธุรกิจท่องเที่ยว และเราคาดว่านี่คือแนวโน้มที่ดีต่อไปในอนาคต
การซื้อขายในครั้งนี้นับเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากในตลาดโรงแรมระดับห้าดาวของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นตลาดที่มีเจ้าของจำนวนน้อยมากที่มีความประสงค์ที่จะขาย โดย JLL พบว่า โรงแรมซึ่งตั้งอยู่บนทำเลชั้นดี บนถนนใหญ่ ใจกลางศูนย์กลางธุรกิจ เช่น ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท แทบจะไม่มีการเสนอขาย และมีการตั้งราคาที่สูงมากเนื่องจากความสนใจจากนักลงทุนที่ต้องการซื้อเพื่อลงทุนระยะยาวและเพื่อลงทุนในเชิงกลยุทธ์
นายจักรกริช จักรพันธุ์ ณ อยุธยา หัวหน้าหน่วยธุรกิจการขายโรงแรมภาคพื้นอินโดจีน และรองกรรมการผู้จัดการภาคพื้นเอเชีย กลุ่มธุรกิจบริการการลงทุนด้านโรงแรมของ JLL กล่าวว่า การขายโรงแรมครั้งประวัติศาสตร์นี้ ตอกย้ำความเป็นผู้นำของ JLL ในการเป็นตัวแทนขายให้โรงแรมสำคัญๆ ในประเทศไทย โดยในปี 2567 JLL ปิดการขายโรงแรมที่สำคัญในประเทศไทยไปแล้วหลายรายการ ได้แก่ เดอะ ละไม สมุย รีสอร์ท แอนด์ สปา โรงแรมฮิลตัน การ์เด้น อินน์ ภูเก็ต บางเทา พอร์ตโฟลิโอเซอร์อพาร์ตเมนต์ 5 อาคาร ซึ่งมีห้องพักรวมกว่า 1,800 ห้อง และครั้งนี้ โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท นอกจากนี้ JLL ยังคงเชื่อมั่นในการลงทุนโรงแรมในประเทศไทย และคาดว่าจะเห็นการซื้อขายโรงแรมในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และเกาะสมุย เพิ่มเติมภายในสิ้นปีนี้
นายปวินท์ เลิศปัญญาโรจน์ ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชีย กลุ่มธุรกิจบริการการลงทุนด้านโรงแรมของ JLL กล่าวว่า โรงแรมห้าดาวระดับไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท เป็นที่ต้องการสูงมากในหมู่นักลงทุน แต่ไม่ได้มีออกมานำเสนอบ่อยนัก การซื้อขายครั้งนี้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ธุรกรรมนี้ยังเป็นการสร้างแรงกระตุ้นที่สำคัญให้ตลาดการลงทุนซื้อขายโรงแรมของไทยที่มีความร้อนแรงอยู่ก่อนแล้ว โดยเราคาดว่า การลงทุนซื้อขายโรงแรมของไทยในปีนี้จะมีมูลค่ารวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 300% จากปี 2566