อสังหาฯเดือด!แห่เปิดตัวบ้าน-คอนโด กระทุ้งยอดโค้งสุดท้าย

อสังหาฯเดือด!แห่เปิดตัวบ้าน-คอนโด กระทุ้งยอดโค้งสุดท้าย

ไตรมาส4/2567 อสังหาฯยังคงเผชิญความท้าทายจากปัจจัยลบ ไม่ว่าจะเป็นการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ อัตราดอกเบี้ยที่ยังสูงภาวะเงินเฟ้อและปัญหาหนี้สินครัวเรือนส่งผลให้ค่ายอสังหาฯแห่เปิดตัวโครงการบ้านและคอนโดใหม่ทิ้งทวนหวังกระทุ้งยอดช่วงโค้งสุดท้ายปี 2567

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  บริษัทยังเตรียมเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาครวม 10 โครงการ มูลค่า13,730 ล้านบาท แบ่งเป็น 6 โครงการแนวราบ และ 4 โครงการคอนโดมิเนียม โดยไฮไลท์ที่น่าสนใจคือการเปิดตัวโครงการคอนโด4 แบรนด์ ที่มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว บนทำเลศักยภาพ อาทิ  ศุภาลัย ธาม เจริญนคร, ศุภาลัย บลู สาทร-ราชพฤกษ์, ศุภาลัย เซนส์ เขารัง ภูเก็ต และศุภาลัย คราม เขาเต่า และโครงการแนวราบระดับลักซ์ชัวรี่  ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์, ศุภาลัย พรีมา วิลล่า ถนนอุทยาน, ศุภาลัย แกรนด์วิลล์ สุขุมวิท-บางนา ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขายให้เติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้


สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนของปี 2567 ศุภาลัยถือว่าประสบความสำเร็จทั้งด้านรายได้และกำไร โดยสามารถทำรายได้ 22,792 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 และรายได้รวมของไตรมาส 3/2567 เท่ากับ 9,985 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2566 แบ่งเป็นรายได้โครงการแนวราบ 64% และโครงการคอนโด 36% ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการเปิดตัวโครงการใหม่ และกระแสตอบรับที่ดีในกลุ่มสินค้าสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ 

อสังหาฯเดือด!แห่เปิดตัวบ้าน-คอนโด กระทุ้งยอดโค้งสุดท้าย

โดยมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) 13,216 ล้านบาท ณ วันที่ 30 ก.ย.2567 โดยคาดว่าจะสามารถทยอยโอนให้ลูกค้าและรับรู้เป็นรายได้ในปี 2567 จำนวน 7,925 ล้านบาท และส่วนที่เหลือ 5,291 ล้านบาทในปี 2568 และ 2569 เพื่อรองรับการเติบโตด้านรายได้บริษัทในอนาคต

 
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า ไตรมาสสุดท้ายของปี บริษัทฯ เตรียมเปิดตัว 11 โครงการใหม่ มูลค่า17,590 ล้านบาท ส่งผลให้ปลายปีนี้บริษัทจะมีโครงการพร้อมขายใน กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดมากกว่า 192 โครงการ มูลค่ากว่า 135,580 ล้านบาท 

ส่วนผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมีอัตราการเติบโตที่โดดเด่น ด้วยรายได้รวมจากสินค้ากลุ่มแนวราบ กลุ่มคอนโดมิเนียม (100% JV) และธุรกิจอื่นๆ ที่สูงถึง 34,780 ล้านบาท และกำไรสุทธิเท่ากับ 3,727 ล้านบาท เฉพาะไตรมาส 3 มีรายได้รวม (100% JV) 13,650 ล้านบาท เติบโตขึ้น 18% และกำไรสุทธิ 1,450 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 14% จากไตรมาสก่อนหน้า 

อสังหาฯเดือด!แห่เปิดตัวบ้าน-คอนโด กระทุ้งยอดโค้งสุดท้าย

นายวิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า ไตรมาส4บริษัทจะเปิดตัวอีก 11 โครงการใหม่ในช่วงที่เหลือของปี จะส่งผลให้ยอดขายทั้งปีเป็นไปได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ สำหรับโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในช่วงที่เหลือของปีนี้ จะเน้นไปที่โครงการระดับไฮเอนด์ อาทิ NARINSIRI (ณริณสิริ) แบรนด์ใหม่ล่าสุด ใน 2 โครงการ, เศรษฐศิริ บางนา กม. 10 และงามวงศ์วาน รวมถึง THE TALES STORY ONE – BANGJO (เดอะ เทลล์ สตอรี่ วัน - บางโจ) พูลวิลล่าโครงการใหม่ในภูเก็ตซึ่งเป็น Strategic Location ที่ยังมีเรียลดีมานด์อย่างต่อเนื่องและลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี

ผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนปี 2567 รายได้รวมอยู่ที่ 28,877 ล้านบาท โตขึ้น 4.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นรายได้รวมเฉพาะไตรมาส 3/67 ที่ 9,415 ล้านบาท ทั้งนี้ รายได้จากการขายโครงการในไตรมาส 3 สัดส่วน 2 ใน 3 ยังคงมาจากโครงการแนวราบจากโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรีและซูเปอร์ลักซ์ชัวรี ทั้งการโอนต่อเนื่องของโครงการนาราสิริ กรุงเทพกรีฑา, บูก้าน กรุงเทพกรีฑา, เศรษฐสิริ ดอนเมือง, เศรษฐสิริ บางนา-สุวรรณภูมิ และ เศรษฐสิริ วงแหวน-จตุโชติ 

นอกจากนี้ ในส่วนของรายได้จากการขายคอนโดมิเนียมทยอยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น และมีอัตรากำไรขั้นต้นของคอนโดมิเนียมที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์แสนสิริที่มีมาอย่างยาวนาน รวมถึงคุณภาพและบริการที่เป็นที่ยอมรับ จนทำให้ระดับสินค้าพร้อมขายของคอนโดมิเนียม (Ready to Move) ณ สิ้นเดือนกันยายนเหลือเพียง 6,900 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่ต่ำมากหากเทียบกับสินทรัพย์รวมของบริษัท และต่ำที่สุดในตลาด 

อสังหาฯเดือด!แห่เปิดตัวบ้าน-คอนโด กระทุ้งยอดโค้งสุดท้าย

ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิรวม 9 เดือนที่ 4,009 ล้านบาท โดยเป็นกำไรสุทธิเฉพาะไตรมาส 3 ของปีนี้ อยู่ที่ 1,307 ล้านบาท จากกระแสตอบรับที่ดีจากโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ หรือ Ready to Move ของแสนสิริ ทั้งจากกลุ่มลูกค้าคนไทยและต่างชาติที่ต้องการคอนโดในเมืองและหัวเมืองท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีส่วนแบ่งกำไรจากโครงการ Joint Venture ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทั้งในไตรมาส 3 และรอบ 9 เดือน จากการโอนคอนโดมิเนียมเดอะ ไลน์ ไวบ์ มูลค่าโครงการ 4,400 ล้านบาท ภายใต้การร่วมทุนระหว่าง แสนสิริ และ แรบบิท โฮลดิ้งส์ ในกลุ่มบีทีเอส คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ที่มียอดขายแล้ว 75%  บนสุดยอดทำเลศักยภาพตรงข้ามเซ็นทรัลลาดพร้าว นับเป็นผลการดำเนินงานที่เติบโตตาม Business Direction ที่วางไว้

จากผลประกอบการที่รักษาระดับดีอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดหมุนเวียนด้วยสภาพคล่องกว่า 15,000 ล้านบาท เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจและจ่ายคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดปีนี้ โดยไม่จำเป็นต้องออกหุ้นกู้ชุดใหม่ สะท้อนถึงศักยภาพในการบริหารการเงินของบริษัทที่ดีได้เป็นอย่างดี