สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านชี้ปี68เดือดผู้รับเหมาหั่นราคาชิงดีมานด์บ้านหรู
สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านเผยมูลค่ารวมยอดเซ็นสัญญาสั่งสร้างบ้านไตรมาส 4 ปี 67 ปรับตัวลดลงประมาณ 10% ระบุแนวโน้มปี 68 การแข่งเดือดผู้รับเหมาหั่นราคาหวั่งชิงดีมานด์บ้านหรูโตต่อเนื่อง
นายโอฬาร จันทร์ภู่ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในไตรมาส 4 ปี 2567 แนวโน้มค่อนข้างดีและเป็นไปในทิศทางบวกเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ทั้งนี้มาจากผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศ และขานรับต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ประกาศใช้ ทั้งมาตรการเงิน 10,000 บาทที่ส่งถึงมือประชาชนกลุ่มเป้าหมาย และแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยว ทำให้ผู้บริโภคที่วางแผนสร้างบ้านเริ่มกลับมาตัดสินใจสร้างบ้านอีกครั้งหลังจากชะลอแผนในช่วงที่ผ่านมา
โดยความต้องการสร้างบ้านที่มีสัญญาณฟื้นตัวที่ดีในไตรมาส 4 เป็นกลุ่มบ้านระดับราคา 5 – 10 ล้านบาท รองลงมาเป็นกลุ่มบ้านระดับราคา 20 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนจากยอดสั่งสร้างบ้านภายในงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2024 ครั้งล่าสุด
นอกจากนี้ ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีตลาดรับสร้างบ้านยังได้รับ"ปัจจัยบวก"จากแรงจูงใจด้านการลดหย่อนภาษีการสร้างบ้าน สำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้าน มูลค่า 1 ล้านบาท สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษี 10,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 1 แสนบาท (ราคาไม่ เกิน 10 ล้านบาท) โดยเป็นบ้านสั่งสร้างที่มีการเซ็นสัญญา และเริ่มก่อสร้าง
อย่างไรก็ตามจากสภาพเศรษฐกิจของประเทศที่ทำให้ผู้บริโภคยังขาดความเชื่อมั่น คาดว่ามูลค่ารวมยอดเซ็นสัญญาสั่งสร้างบ้านของบริษัทรับสร้างบ้าน (ที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ) ในสิ้นปี2567จะอยู่ที่ 11,000 ล้านบาท
ด้านแนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านปี 2568 โดยรวมสัญญาณค่อนข้างดีขึ้นจากปัจจัยสนับสนุน ทั้งการลดอัตราดอกเบี้ย ผู้บริโภคเริ่มมีความเชื่อมั่นจากนโยบายของรัฐบาล ซึ่งน่าจะมีข่าวดีจากโครการ ซ่อม สร้าง นอกจากนี้กลุ่มดีมานด์บ้านหรูยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในตลาดกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด รวมไปถึงปัจจัยภายนอกอย่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่จะมีความชัดเจนด้านนโยบายต่าง ๆ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยในภาพรวม
นายโอฬาร ระบุว่า แนวโน้มการแข่งขันในปี 2568 คาดว่าจะรุนแรงขึ้น จากการรที่ผู้รับเหมาในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่หันมารับงานสร้างบ้าน โดยเป็นการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ส่วนใหญ่ที่พบจะเน้นรับก่อสร้างบ้านในราคาที่ต่ำกว่าตลาดรับสร้างบ้าน จึงมีความกังวล ทั้งในประเด็นการแข่งขัน รวมไปถึงคุณภาพและมาตรฐานการสร้างบ้าน ที่จะส่งมอบถึงมือผู้บริโภค
“การรับสร้างบ้านในราคาที่ต่ำอาจส่งผลต่อคุณภาพงาน นอกจากนี้หากเป็นบุคคลธรรมดาที่ไม่ได้เข้าระบบภาษีมารับงาน อาจทำสัญญาที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของธุรกิจรับสร้างบ้านได้ ซึ่งสมาคมฯ เตรียมให้สมาชิกรับมือกับการแข่งขันที่เกิดขึ้น โดยเน้นที่การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาคุณภาพงานที่ดีและได้มาตรฐาน” นายโอฬาร กล่าว