JLLชูเทคโนโลยี AI โซลูชั่น นวัตกรรม บริการอสังหาฯสู่ยุค‘อุตสาหกรรม5.0’

JLLชูเทคโนโลยี AI โซลูชั่น นวัตกรรม บริการอสังหาฯสู่ยุค‘อุตสาหกรรม5.0’

JLL ฉลองครบรอบ35ปี ชูเทคโนโลยี AIโซลูชั่น นวัตกรรม บริการอสังหาฯก้าวสู่ยุค‘อุตสาหกรรม5.0’ ผ่าน 4 แผนงานหลักเน้นแนวทาง ESGเพื่อสร้างความยั่งยืน

ปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุคปัจจุบันก้าวเข้าสู่ยุค‘อุตสาหกรรม5.0’หรือที่เรียกว่าการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 5 ที่สอดรับการทำงานระหว่างคนกับเครื่องจักรหรือหุ่นยนต์ และยังรวมเอาความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์และความแม่นยำของหุ่นยนต์เข้าด้วยกันเพื่อสร้างความยั่งยืน

ไมเคิล แกลนซี่ กรรมการผู้จัดการ เจแอลแอล ประจำประเทศไทยและอินโดนีเซีย กล่าวว่า ในโอกาสการฉลองการดำเนินงานในประเทศไทย 35 ปี เราไม่เพียงแค่มองย้อนกลับไปถึงความสำเร็จของเราเท่านั้น หากยังมุ่งหน้าสู่อนาคตที่เรากำลังสร้างสรรค์ต่อไป ความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน การนำเทคโนโลยีมาใช้ในภาคอสังหาริมทรัพย์ และโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลของเจแอลแอล ทำให้เรากลายเป็นแนวหน้าของวิวัฒนาการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของวันนี้
    
    

เจแอลแอลกำลังปรับปรุงรูปแบบการนำเสนอบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการที่กำลังเปลี่ยนแปลงของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผ่าน 4 แผนงานหลัก ได้แก่ บริการด้านกลยุทธ์การจัดพื้นที่สำนักงานและการบริหารการเปลี่ยนแปลง (Workplace Strategy & Change Management) เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้สำนักงานสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่และสนับสนุให้การเปลี่ยนแปลงดำเนินไปอย่างราบรื่น ผ่านการจัดลำดับความสำคัญของความต้องการที่แท้จริงของพนักงานและการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปรับเปลี่ยนได้ที่ช่วยเพิ่มกำลังผลผลิต นอกจากนี้ เจแอลแอลยังได้นำเสนอบริการด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Energy & Sustainability Services: ESS) เพื่อสนับสนุนลูกค้าบนเส้นทาง ESG โดยนำเสนอโซลูชันที่ออกแบบมาอย่างเหมาะสม เพื่อพัฒนาแนวทางปฏิบัติงานที่ยั่งยืนและชี้แนะถึงวิธีการบรรลุเป้าหมายด้าน ESG อย่างเป็นรูปธรรม 

    ฝ่ายปรับปรุงและพัฒนาสินทรัพย์ (Asset Enhancement) จะช่วยแก้ไขกลยุทธ์การบริหารสินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่ามาตรฐานตลาด โดยปรับปรุงประสิทธิภาพและปรับคุณสมบัติให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เช่าที่กำลังเปลี่ยนแปลง ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มมูลค่าพอร์ตโฟลิโอให้สูงสุดภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันสูงนี้ และเพื่อสนับสนุนบริการเหล่านี้ บริการให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี (Tech Advisory) ของเจแอลแอลจะช่วยให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจเลือกเทคโนโลยีสำหรับนำไปปรับใช้ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการดำเนินงานและการบริหารทรัพย์สิน
 

แผนงานทั้ง 4 สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเจแอลแอลในการนำเสนอนวัตกรรมที่พร้อมรับมือกับอนาคตเพื่อเพิ่มมูลค่าในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเจแอลแอลวางตำแหน่งบริษัทฯ ในฐานะผู้นำด้านการตอบสนองความต้องการที่หลากหลายและการเปลี่ยนแปลงไปของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ผ่านการนำเสนอบริการที่ครอบคลุมซึ่งตอบโจทย์ด้าน กลยุทธ์ในที่ทำงาน ความยั่งยืน การยกระดับสินทรัพย์ และการใช้งานเทคโนโลยีที่เหมาะสม 

พร้อมกันนี้บริษัทได้เตรียมพร้อมสู่การ"ปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 5" ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของ"เทคโนโลยี"ในการกำหนดรูปแบบอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ในอนาคต โดยเฉพาะ"ปัญญาประดิษฐ์" หรือ (AI) ซึ่งเป็นสิ่งที่กำลังให้ความสนใจอย่างมาก เนื่องด้วยบริษัทตระหนักดีว่าการใช้ประโยชน์จากเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและ AI ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถช่วยให้นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการปฏิบัติงานและยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งานทั่วไปได้จริง 

 สำหรับความสำเร็จของเจแอลแอล ประเทศไทย ในภาคธุรกิจตลาดทุน บริษัทได้ให้คำแนะนำด้านการลงทุน การปล่อยเช่าและซื้อขายอสังหาริมทรัพย์มูลค่ารวมกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 45,123 ล้านบาทในช่วงปี 2559-2566  สามารถปิดการขายที่มีความซับซ้อนและมูลค่าสูงได้สำเร็จหลายโครงการในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สำหรับลูกค้าที่กำลังต้องการซื้อที่ดินหรือสินทรัพย์ การขายและปล่อยเช่าสินทรัพย์ มองหาพันธมิตรร่วมทุน และบริการจัดหาแหล่งเงินทุนสำหรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์

 ส่วนภาคธุรกิจโลจิสติกส์และอุตสาหกรรม เจแอลแอลได้ปิดการขายที่ดินหลายแปลงขนาดรวมประมาณ 1,600 เฮกเตอร์ (10,000 ไร่) ในช่วงปี 2561-2566 ขณะที่ธุรกิจโรงแรมได้เป็นตัวแทนซื้อขาย โรงแรมถึง 54 แห่ง รวมมูลค่ากว่า 66,000 ล้านบาทนับตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งรวมถึงการเจรจาซื้อขายโรงแรมมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ตอกย้ำในด้านความเป็นผู้นำ ความเชี่ยวชาญ 

 นอกจากนี้ เจแอลแอลได้บริหารพอร์ตโฟลิโอสินทรัพย์รวมมากกว่า 7.1 ล้านตารางเมตรทั่วประเทศไทย ซึ่งรวมถึงโครงการระดับโลกที่เพิ่งเปิดใหม่ไปเมื่อไม่นานมานี้อย่าง One Bangkok  ขณะที่แผนกงานบริการวิจัยและให้คำปรึกษาของบริษัทได้รับรางวัล SEA Research Team of The Year ประจำปี 2567 จากทาง RICS (Royal Institution of Chartered Surveyors) และได้ให้คำปรึกษากับโครงการมากกว่า 360 โครงการ มีมูลค่าโครงการรวมเกินกว่า 500,000 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2558 ถึงปัจจุบัน