โบทานิก้า เผยปี 68 ผุดวิลล่า คอนโดภูเก็ตมูลค่า 1.2 หมื่นล้านตั้งเป้า 6 พันล้าน
โบทานิก้า เปิดเผยปี 68 โฟกัส 5 ทำเลภูเก็ตผุดวิลล่า-คอนโด โซนฉลอง ราไวย์ ภูเก็ตทาว์น อ่าวปอ บางเทามูลค่า 1.2 หมื่นล้านตั้งเป้า 6 พันล้านโต 50%
นายอรรถสิทธิ์ อินทรชูติ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โบทานิก้า ลักซูรี่ ภูเก็ต จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมจังหวัดภูเก็ตมีศักยภาพสูงและเป็นเมืองดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก รวมถึงภาครัฐกำลังเร่งผลักดันจังหวัดภูเก็ตให้เป็นเดสติเนชันระดับเวิลด์คลาสเบอร์ต้นของโลก โดยตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตช่วงปี 2567 มีมูลค่าตลาดเฉพาะกลุ่มวิลล่าที่อยู่ระหว่างการขายมีมูลค่าสูงถึง 1.6 -1.7 แสนล้านบาท และมีการโตแบบกระโดดจากปีก่อน มีจำนวนโครงการเพิ่มขึ้นจาก 30-40 โครงการต่อปี มีโครงการวิลล่ามากกว่า 170 โครงการในปัจจุบัน
ภูเก็ตบูมหนัก ต่างชาติรัสเซีย-ยุโรป แห่ซื้อเป็นบ้านหลังที่สองและลงทุน
ขณะที่ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 ได้เปิดตัววิลล่าใหม่กว่า 1,285 ยูนิตจาก 65 โครงการ มูลค่ารวม 3.6 หมื่นล้านบาท ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปีที่จำนวนการเปิดตัวของวิลล่าสูงกว่าจำนวนคอนโดมิเนียม โดยตลาดวิลล่าในภูเก็ต ขยายตัวต่อเนื่องจากความต้องการจากผู้ซื้อชาวรัสเซียและยุโรป มักซื้อเพื่ออยู่อาศัยเป็นบ้านหลังที่สองหรือเป็นการลงทุน
สำหรับพื้นที่ที่ขายวิลล่า มากที่สุด 4 อันดับแรกในปี 2566 ได้แก่ เชิงทะเล 210 ยูนิต, พรุจำปา 180 ยูนิต, บางโจ 31 ยูนิต และลายัน 28 ยูนิต โดยปัจจุบัน วิลล่าในทำเลกมลาและบางเทา มีราคาสูงที่สุดบนเกาะ โดยราคายูนิตสูงสุดอยู่ที่ 296.2 ล้านบาทและ 270 ล้านบาทตามลำดับ ทำเลในช่วงราคารองลงมาได้แก่ เชิงทะเลและพรุจำปา ที่กำลังเป็นทำเลมาแรง โดยมีราคากลางอยู่ที่ 114.7 ล้านบาทและ 56.3 ล้านบาทตามลำดับ ส่วนแนวโน้มในอนาคต ราคาวิลล่าในพื้นที่กมลา เชิงทะเล บางโจ พรุจำปา และลายัน จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยดีมานด์ที่แข็งแกร่งจากตลาด
แผนปี 68 รุกหนักวิลล่าหรู - คอนโดมิเนียมไฮเอนด์
สำหรับแผนในปี 2568 พร้อมขยายโครงการลงทุนใหม่ในภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง ทั้งวิลล่าหรูใหม่บน 4 ทำเล เช่น ฉลอง ราไวย์ ภูเก็ตทาวน์ และอ่าวปอ และ 2 โครงการคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ในย่านบางเทา-เชิงทะเล โครงการแรก “HYTHE by Botanica (ไฮท์ บาย โบทานิก้า)” ในพื้นที่ “โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว” เมกะโปรเจกต์ใจกลางลากูน่าภูเก็ต ย่านเชิงทะเลใกล้หาดบางเทา ทำเลศักยภาพสูงของแหล่งที่พักอาศัยระดับลักชัวรี มูลค่าโครงการกว่า 12,000 ล้านบาท เจาะกลุ่มผู้ซื้อชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการคอนโดมิเนียมตากอากาศและคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุน ในปัจจุบันสร้างยอดกว่า 40% ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งในปี 2568 ตั้งเป้ายอดขายสำหรับโครงการ HYTHE by Botanica ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท
รวมถึงมีคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ ตั้งอยู่ใจกลางย่านเชิงทะเล หรือโซนทองหล่อของภูเก็ต บนพื้นที่ดินรวมกันกว่า 60 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 18,000 ล้านบาท เจาะกลุ่มผู้ซื้อชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการคอนโดมิเนียมตากอากาศและคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุน ที่มีระยะเดินถึงหาดบางเทาเพียง 500 เมตร โดยทยอยเปิดตัวอย่างเป็นทางการปลายปี 2568 และตั้งเป้ายอดขายกว่า 500 ล้านบาท
ทั้งนี้ได้ตั้งเป้ายอดขายเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมในปี 2568 มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท และมีแผนทยอยเปิดตัวอีกหลายโครงการภายใน 3 ปีนี้
วางเป้า 5 ปี ครองผู้นำลักชัวรี เซกเมนต์ในใจลูกค้าอันดับต้นๆ
บริษัทได้ตั้งเป้าหมายของโบทานิก้าในอีก 5 ปีข้างหน้า มุ่งสู่การเป็น Top of Mind ในกลุ่ม Luxury Segment ด้วยการพัฒนาโครงการที่ยึดมั่นใน 4 แกนสำคัญทั้ง Ultra-Luxury Residences การพัฒนาโครงการเซกเมนต์บ้านพักอาศัยระดับซูเปอร์ลักชัวรี (Ultra-Luxury Residences) เพื่อจับกลุ่ม HNWI (High Net Worth Individual) และนักลงทุนไทยและต่างชาติ, Mixed-use Development โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างขึ้นเพื่อการอยู่อาศัย และพาณิชกรรมบนพื้นที่เดียวกัน
แผนในอนาคต มุ่งเน้นการพัฒนาโครงการ Mixed-use Development ที่ครบวงจร ทั้งโรงแรมระดับพรีเมียม (Hotel), แบรนด์ที่พักอาศัยสุดหรู (Branded Residences), พื้นที่ค้าปลีกเชิงพาณิชย์ (Commercial Retail Units) และคลับเฮาส์มาตรฐานระดับโลก (World-class Clubhouse) พร้อมด้วย Investment Properties อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ออกแบบมาเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน
นอกจากนี้มีโปรเจกต์ Botanica Art Museum พิพิธภัณฑ์ที่ไม่ได้จัดแสดงงานศิลปะเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ที่ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการเรียนรู้ ที่นี่จะกลายเป็นจุดหมายปลายทางแห่งแรงบันดาลใจสำหรับทั้งนักท่องเที่ยวและคนในชุมชน
ส่อง 2 ทศวรรษ พัฒนาโครงการรวม 27 แห่ง เจาะกลุ่มมั่งคั่ง
ภาพรวม โบทานิก้า ในช่วงเวลากว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ได้พัฒนาลักชัวรีพูลวิลล่า มุ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้ามั่งคั่ง โดยได้พัฒนาโครงการรวม 27 โครงการในภูเก็ต กระบี่ และหัวหิน ส่วนจังหวัดภูเก็ตมียูนิตที่อยู่อาศัยยอดสะสมตั้งแต่ปี 2547 ถึงไตรมาสที่ 3 ปี 2567 รวม 4,081 ยูนิต ซึ่งเป็นโครงการของโบทานิก้าเองถึง 1,095 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 51,000 ล้านบาท (อิงข้อมูลจาก Colliers Thailand เดือนกันยายน 2567)
สำหรับปี 2567 โบทานิก้า ได้เปิดตัวโครงการใหม่ ได้แก่ Botanica Wisdom, Botanica Hythe โปรเจกต์คอนโดมิเนียมหรูแห่งแรกของแบรนด์, Botanica Pru Jampa (พรุจำปา), Botanica Modern Sea Karon และล่าสุด Botanica Four Seasons ในโซนใหม่ Winter ทุกโครงการได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า รวมถึงได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนที่มีต่อแบรนด์ ทำให้ได้ปิดการขายได้ถึง 10 โครงการ ส่วนในเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ทุบสถิติยอดขายสูงสุดในเกาะภูเก็ต ด้วยยอด 1,200 ล้านบาทสำหรับเดือนมกราคมเพียงเดือนเดียว มาจากจุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญ ทำเลยุทธศาสตร์ที่มีความเป็นส่วนตัวและใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก ดีไซน์และคุณภาพ
อีกทั้งได้เปิดตัวสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ บนพื้นที่รวมกว่า 1,885 ตร.ม. ได้ออกแบบในคอนเซปต์ Eco Office วางเป้าหมายให้เป็นศูนย์กลาง One-Stop Service รองรับบริการครบวงจรสำหรับลูกค้าและนักลงทุนจากทั่วโลก โดย Head Office ตั้งอยู่ที่ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง