CCP เปิดแผนปี68เพิ่มศักยภาพ คอนกรีต-คลังสินค้าเขต Free Zone

CCP เปิดแผนธุรกิจปี68 พัฒนานวัตกรรมคอนกรีตสำเร็จรูปเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์โลกยุคใหม่พร้อมขยายธุรกิจ Free Zone รองรับตลาดโลจิสติกส์ ชูนโยบาย ESG
อาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการของ CCP กล่าวว่า หนึ่งในกลยุทธ์หลักของ CCP คือการพัฒนา นวัตกรรมผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป ที่ไม่เพียงแค่ตอบสนองความต้องการด้านงานโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐและเอกชน แต่ยังต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco-friendly) ช่วยลดการปล่อยคาร์บอน และทำให้การก่อสร้างมีความรวดเร็วและประหยัดต้นทุนในระยะยาว
ในปี 2568 บริษัทฯ วางงบลงทุน 150 ล้านบาทในการปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ พร้อมทั้งขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ เช่น ผู้ประกอบการในธุรกิจ Landscape ขนาดกลางและเล็กทั่วประเทศ ซึ่งจะสามารถใช้คอนกรีตสำเร็จรูปในการก่อสร้างได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากธุรกิจคอนกรีต CCP ยังมองเห็นโอกาสการเติบโตในธุรกิจ คลังสินค้า Free Zone ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพสูงในการรองรับการขยายตัวของตลาดโลจิสติกส์ โดยมีบริษัทย่อยอย่าง ชาลี ท็อป โลจิสติกส์ โซลูชัน ซึ่งได้เปิดดำเนินการเฟสแรกของโครงการและมีการเช่าพื้นที่เต็ม 100% แล้ว ทำให้มีแผนขยายพื้นที่เพิ่มเติมในไตรมาสที่ 2 ของปี 2568
สำหรับเป้าหมายในธุรกิจคลังสินค้า Free Zone นี้ CCP ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในส่วนนี้ที่ 10% โดยเปรียบเทียบกับปี 2566 เพื่อรองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นของตลาดทั้งในภาครัฐและเอกชน
การมุ่งเน้นนโยบาย ESG ไม่เพียงแต่เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าและสังคม แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยในปี 2568 CCP วางแผนให้สัดส่วนรายได้จากลูกค้าภาครัฐคิดเป็น 60% และจากลูกค้าเอกชน 40% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการมุ่งเน้นที่การพัฒนาธุรกิจที่ยั่งยืน และการรักษา Backlog ไว้ไม่ต่ำกว่า 1,850 ล้านบาท
“การให้ความสำคัญกับ ESG เป็นการสร้างความแตกต่างให้กับบริษัทฯ โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านการตลาดและการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้ให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้”