เฟรเซอร์ส-โรจนะ-เอเชีย อินดัสเตรียลลงขันผุดเมืองอุตฯไฮเทคใหญ่4.6 พันไร่

3 บิ๊กคอร์ปเมืองไทย “เฟรเซอร์ส-โรจนะ-เอเชีย อินดัสเตรียล เอสเตท” ร่วมทุน5 หมื่นล้านพัฒนาโครงการ “อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์”เมืองอุตสาหกรรมครบวงจบนถนนบางนา-ตราดเทคขนาด 4.6 พันไร่ ใหญ่สุดใน กทม.-ปริมณฑล
ในช่วงเวลาที่โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์และสงครามการค้า การลงทุนจากต่างชาติในประเทศไทยก็กลับเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากตัวเลขการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอในปี 2567 ที่เพิ่มขึ้นถึง 40% จากปีก่อนหน้า ท่ามกลางการลงทุนของจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น และยุโรปที่หลั่งไหลเข้ามา เพื่อสร้างฐานการผลิตและคลังสินค้าตามแนวโน้มการขยายตัวของอุตสาหกรรมใหม่
โครงการ “อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์” ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ 4,631 ไร่ บริเวณบางนา-ตราด กม. 32 จึงกลายเป็นโครงการเมืองอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล โดยบริษัท อารยะ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด ซึ่งเกิดจากการร่วมทุน3ทุนใหญ่ ได้แก่ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) ของกลุ่มเจ้าสัวเจริญ, สวนอุตสาหกรรมโรจนะ และ นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย
โดยมี 3 กลุ่มทุนใหญ่ ร่วมทุน (JV) ประกอบด้วยบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ของกลุ่มเจ้าสัวเจริญ ถือหุ้น 50%บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) ของกลุ่มวินิชบุตร ถือหุ้น 25%และบริษัท นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย จำกัด ของชาลี โสภณพนิช ถือหุ้น 25%
ซึ่งโครงการ ARAYA พัฒนาในรูปแบบ industrial township ตั้งอยู่บนพื้นที่ 4,631 ไร่ บริเวณบางนา-ตราด กม. 32 ซึ่งเป็นที่ดินที่ประมูลจากกรมบังคับคดี เดิมเป็นของกลุ่มกฤษดานคร ตั้งแต่ปี 2561 ซึ่ง ณ เวลานั้น ประมูลมา 4,315 ไร่ ในราคา 8,914 ล้านบาท และทยอยซื้อที่ดินรอบข้างเพิ่ม
ความพิเศษของที่นี่ คือ ทำเลยุทธศาสตร์ที่เชื่อมได้หลายเส้นทาง อาทิ ฝั่งตะวันออก ใช้เวลาไป EEC 60 นาที, ฝั่งตะวันตก ใช้เวลาไปศูนย์กลาง CBD กทม. 50 นาที และใช้เวลาเพียง 15 นาทีเชื่อมต่อกับสนามบินสุวรรณภูมิ
โอกาสในโลกเทคโนโลยีและโลจิสติกส์
"อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์" ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงและโลจิสติกส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรม เซมิคอนดักเตอร์ และ ดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงในแนวทางการลงทุนในไทย โดยเฉพาะในด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีความต้องการพื้นที่สำหรับการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด กล่าวว่าโครงการนี้ได้มีการลงทุนไม่ต่ำกว่า 50,000 – 60,000 ล้านบาท โดยบริษัทใช้เวลา 7 ปีในการพัฒนาและรวมที่ดินมาเป็นแปลงใหญ่เพื่อรองรับการพัฒนาในอนาคต
"บริษัทใช้เวลา 7 ปี ซุ่มพัฒนาที่ดิน และรวมแปลงที่ดิน เฉพาะค่าที่ดินและพัฒนาที่ดินผืนนี้ ใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 50,000 – 60,000 ล้านบาท ปัจจุบันสาธารณูปโภคในเฟสแรกเรียบร้อยแล้ว"
กมลกาญจน์ คงคาทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อารยะ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด เปิดเผยว่า โครงการ อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์ พัฒนาในรูปแบบ Industrial Tech Ecosystem บุกเบิกระบบนิเวศนวัตกรรม ด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงและโลจิสติกส์แบบครบวงจร อาทิ กลุ่มธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ ดาต้าเซ็นเตอร์ จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการลงทุนที่น่าเชื่อถือ เพื่อดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลกเข้ามาส่งเสริมเศรษฐกิจภายในประเทศ
แบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 เฟส
โครงการ อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์ ถูกแบ่งออกเป็น 3 เฟสใหญ่ เริ่มต้นด้วยเฟสแรกที่เป็น นิคมอุตสาหกรรม ใช้พื้นที่ 2,000 ไร่ ซึ่งมีงบลงทุนสูงถึง 20,000 ล้านบาท โดยเฟสนี้คาดว่าจะเสร็จภายใน 2-3 ปี และคาดว่าจะปิดการขายพื้นที่ได้ถึง 300-400 ไร่ในปี 2568 ซึ่งตอนนี้ลูกค้ากว่า 100 ไร่ได้จองพื้นที่แล้ว นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาในรูปแบบ Industrial Tech Ecosystem ที่จะสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์
สร้างระบบนิเวศน์เทคโนโลยีสู่อนาคต
โครงการนี้ได้จัดพื้นที่ออกเป็น 6 องค์ประกอบหลักที่เน้นทั้งการสร้างมูลค่าเพิ่มในด้านเทคโนโลยีและโลจิสติกส์ ได้แก่
Industrial Tech Campus: พื้นที่สำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงและบริษัทใหญ่ด้านเซมิคอนดักเตอร์ และศูนย์ข้อมูล
Logistics Park: พื้นที่สำหรับธุรกิจโลจิสติกส์และคลังสินค้า
ARAYA Industrial Estate: นิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในพื้นที่ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (IEAT) เพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีและการลงทุน
Lifestyle & Amenities: โซนบริการต่างๆ เช่น รีเทล และไลฟ์สไตล์
Community Services Centre: ศูนย์บริการชุมชน เช่น โรงเรียนนานาชาติและโรงพยาบาล
Residential Project: โครงการที่อยู่อาศัยสำหรับบุคลากรและผู้บริหารที่ทำงานในโครงการ
การลงทุนในโครงการ "อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์" ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างเมืองอุตสาหกรรมใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล แต่ยังเป็นการตอบโจทย์การเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศไทยที่มีศักยภาพสูง การที่มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ครบวงจรและมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่เชื่อมโยงธุรกิจในทุกภาคส่วน รวมถึงการดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก จะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนที่มีความน่าเชื่อถือและยั่งยืนในอนาคตในยุคที่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีและโลจิสติกส์กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว