เอสซีเปิด15โครงการ2.8หมื่นล้านผุดบ้านราคา200ล้านเป้ายอดขาย2.6หมื่นล้าน

เอสซีเปิด15โครงการ2.8หมื่นล้านผุดบ้านราคา200ล้านเป้ายอดขาย2.6หมื่นล้าน

เอสซี ประกาศแผนปี68 เปิดตัว 15โครงการมูลค่า28,000ล้าน ชูไฮไลต์บ้านสุดหรูเริ่มต้นราคา 200ล้านแบรนด์ ซันเล (SONLE ) จำนวน 5 ยูนิต คาดสร้างยอดขาย26,000ล้าน เพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อน รายได้รวมจากทุกกลุ่มธุรกิจ25,000 ล้านบาทเติบโตขึ้น 11%

ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าในปี  2568 ยังคงเต็มไปด้วยความท้าทายทั้งจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ บริษัทจึงได้ปรับทัพใหม่ผ่านการ Reform เชิงกลยุทธ์ที่มี 3 จุดสำคัญ ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถรับมือกับอุปสรรคต่างๆ

ทั้งในเรื่องของหนี้ครัวเรือนที่สูง ความเชื่อมั่นที่ต่ำ และอุปทานอสังหาฯ ที่ล้นตลาด โดยการปรับพอร์ตโฟลิโอธุรกิจหวังกระจายความเสี่ยง เพิ่มโอกาส และสร้างความยืดหยุ่นจาก 3 กลุ่มหลัก อสังหาฯเพื่อขายผ่านบ้าน-คอนโด รายได้ประจำจากโรงแรม คลังสินค้า อาคารสำนักงาน และอพาร์ตเมนต์ให้เช่าในสหรัฐอเมริกาพร้อมธุรกิจใหม่ด้านเทคโนโลยีความยั่งยืน  
 

เอสซีเลือกที่จะปรับพอร์ตธุรกิจหลักออกเป็น 3 กลุ่มหลัก เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งมากเกินไป

Engine 1: อสังหาฯ เพื่อขาย (บ้านและคอนโด) – คาดการณ์ว่าโครงการใหม่ในปี 2568 รวม 15 โครงการ มูลค่ารวม 28,000 ล้านบาท โดยไฮไลต์สำคัญคือการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ ซันเล  (SONLE )ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวสไตล์ Sophisticated Modern Tropical ราคาเริ่มต้นที่ 200 ล้านบาทจำนวน5ยูนิต พร้อมการขยายตลาดคอนโดผ่านแบรนด์ Reference และ COBE

 

เอสซีเปิด15โครงการ2.8หมื่นล้านผุดบ้านราคา200ล้านเป้ายอดขาย2.6หมื่นล้าน

Engine 2: อสังหาฯ รายได้ประจำ – ปี2568 จะมีจำนวนโครงการทั้งหมด 19 โครงการ ครอบคลุมทั้งโรงแรม คลังสินค้า อาคารสำนักงาน และอพาร์ตเมนต์ให้เช่าในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะโรงแรมใหม่ 2 แห่ง และคลังสินค้าเพื่อเช่า 3 โครงการใหม่ในทำเลสำคัญที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจ

Engine 3: โอกาสใหม่ในธุรกิจเติบโต –  เตรียมมองหาธุรกิจใหม่ๆ ที่มีศักยภาพเติบโตในอนาคต เช่น การลงทุนในเทคโนโลยี หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคใหม่

การปรับโครงสร้างต้นทุนและค่าใช้จ่ายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้บริษัทสามารถรักษาความแข็งแกร่งในตลาดได้ในระยะยาว โดยเอสซีจะมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการให้สูงสุด ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไร ซึ่งจะสะท้อนถึงการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

ด้วยการปรับกลยุทธ์ที่มุ่งสู่การเติบโตที่ยั่งยืน เอสซีตั้งเป้าหมายรายได้รวมจากทุกกลุ่มธุรกิจในปี 2568 ไว้ที่ 25,000 ล้านบาทเติบโตขึ้น 11% จากปีที่ผ่านมา โดยคาดว่ายอดขายจะทำได้ถึง 26,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อน ในขณะที่การลงทุน 7,000 ล้านบาทจะถูกนำไปใช้ในการพัฒนาโครงการใหม่ เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจที่อยู่อาศัย(บ้านและคอนโด)

เอสซีไม่เพียงแค่เน้นการขยายตัวของธุรกิจหลัก แต่ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกมิติ โดยบริษัทมีแผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) อย่างมีนัยสำคัญมากกว่า 100,000 ตันคาร์บอนในช่วงปี 2025-2030 เพื่อร่วมสร้างอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับโลก