ทำเล EEC ฮอต! หนุนดีมานด์ที่อยู่อาศัยโอกาสทองนักลงทุน

ทำเล EEC ฮอต! หนุนดีมานด์ที่อยู่อาศัยโอกาสทองนักลงทุน

เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC เศรษฐกิจในพื้นที่ที่เติบโตแข็งแกร่ง ตลาดที่อยู่อาศัยจะยังคงเติบโตต่อเนื่อง หนุนดีมานด์ที่อยู่อาศัย กลายเป็นโอกาสทองนักลงทุน

ประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด (LWS) บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่่ EEC ขยายตัวต่อเนื่อง ผลสำรวจของ LWS เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยในทำเลนี้ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และ ระยอง ทั้งสิ้น 75 โครงการ จำนวน 26,526 หน่วย เป็นอาคารชุดพักอาศัย 27 โครงการ 15,160 หน่วย ที่พัฒนาตั้งแต่ปี 2560 ถึงปัจจุบัน มียอดเหลือขายอาคารชุด 4,330 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 28.56% ของจำนวนหน่วยที่เปิดขายทั้งหมด เป็นส่วนของบ้านพักอาศัยทั้งสิ้น 48 โครงการ 11,366 หน่วย มีหน่วยเหลือขาย 4,834 หน่วย สัดส่วน 42.5% ของจำนวนเปิดขายทั้งหมด

“จะเห็นว่า ความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมในพื้นที่ EEC มีมากกว่าบ้าน ระดับราคาที่ได้รับความสนใจไม่เกิน 2 ล้านบาท ส่วนบ้านพักอาศัยอาศัยที่ได้รับความสนใจและอัตราการขายดีเป็นทาวน์เฮ้าส์ ราคาไม่เกิน 4 ล้านบาท”
 

ทำเลที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดพักอาศัย อยู่ในย่านนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี ซึ่งมีแรงงานสูงถึง 220,000 คน  มีรายได้ 12,000-120,000 บาทต่อเดือน เมื่อเทียบกับนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ชลบุรี มีแรงงาน 25,000 คน รายได้ 10,000-80,000 บาทต่อเดือน และนิคมอุตสาหกรรมบางปะกง แรงงาน 30,000 คน รายได้ 10,000-65,000 บาทต่อเดือน

การสำรวจโดยรอบทำเลอมตะซิตี้ พบว่า มีอพาร์ตเมนต์รวม 14 แห่ง มีห้องเพื่อปล่อยเช่ารวม 1,900 ห้อง ขนาด 25-28 ตารางเมตร มีอัตราการเช่า 93% ค่าเช่า 2,500-5,000 บาทต่อเดือน โดยที่ 6 ใน 14 อพาร์ตเมนต์ อัตราการเช่า 100% 
 

"ดีมานด์ดังกล่าว เป็นโอกาสสำหรับดีเวลลอปเปอร์ โดยเฉพาะอาคารชุดพักอาศัย จากการสำรวจเดือน ม.ค. อาคารชุดที่สร้างเสร็จก่อนขาย ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท เฉลี่ยขาย 900,000-1,200,000 บาทต่อยูนิต ขนาดห้อง 24-30 ตารางเมตร สร้างยอดขายเฉลี่ย 70-90% ของจำนวนหน่วยที่เปิดขาย มีผู้ซื้ออยู่อาศัยเองและซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า ที่ระดับราคา 5,500-8,000 บาทต่อยูนิต หรือมีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 5-7% ต่อปี สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากปัจจุบัน"

ทำเล EEC ฮอต! หนุนดีมานด์ที่อยู่อาศัยโอกาสทองนักลงทุน

รายงานของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ระบุว่า ยอดขายและให้เช่าใหม่ของพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรม มี 6,069 ไร่ เพิ่มขึ้น 52.7% (YoY) ในช่วง 9 เดือนแรกปี 2567 โดยยอดขายและให้เช่าที่ดินในนิคมฯ ยังคงอยู่ในภาคตะวันออกมากที่สุด ครอบคลุมพื้นที่ 5,481 ไร่ (90% ของยอดขายและเช่าใหม่ของพื้นที่นิคมฯ ทั่วประเทศ) เพิ่มขึ้น 55.3% 

สะท้อนศักยภาพ “ภาคตะวันออก” ที่ดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนมากที่สุดเทียบภูมิภาคอื่นๆ รองลงมา ได้แก่ ภาคกลาง (รวมกรุงเทพฯ และปริมณฑล) จำนวน 531 ไร่ (+ 47.5% YoY) ส่งผลให้ยอดขายและให้เช่าสะสม 9 เดือนแรกปี 2567 อยู่ที่ 132,430 ไร่ คิดเป็นอัตราการครอบครองพื้นที่ 80% เพิ่มขึ้นเทียบสิ้นปี 2566 ที่ 75.7% สอดคล้องกับยอดขายที่ดินและรายได้ของผู้ประกอบการนิคมฯ 2 รายใหญ่ AMATA และ WHA Group รวมกันที่ปรับเพิ่มขึ้น 34.6% และ 28.9% ตามลำดับ

ขณะที่มูลค่าโครงการที่ขอรับส่งเสริมการลงทุนทั่วประเทศปี 2567 อยู่ที่ 1,138.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.5% ในจำนวนนี้เป็นการขอรับส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ EEC เพิ่มขึ้น 36.6% คิดเป็นมูลค่า 504.9 พันล้านบาท หรือ 44% ของมูลค่าโครงการที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนอนุมัติทั้งหมด

“ย่านนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก โดยเฉพาะ อมตะ ซิตี้ มีกำลังซื้อและความต้องการที่อยู่อาศัยของแรงงานที่จะเข้ามาทำงานช่วงปี 2568-2570 เพิ่มขึ้น 5-10% ต่อปี"