'แอสเซท ไฟว์' หรูหราและยั่งยืน กางแผน Carbon Neutrality ปักธงใช้วัสดุรักษ์โลก 80% ในปี 2030

"แอสเซท ไฟว์" ประกาศเจตนารมณ์บรรลุ Carbon Neutrality ภายในปี 2050 พร้อมตั้งเป้าใช้วัสดุรักษ์โลกถึง 80% ภายในปี 2030 ภายใต้กรอบ ESG
เมื่อปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมได้รับความสนใจมากขึ้น ความคาดหวังในตลาดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับหรู ไม่เพียงแต่จะต้องมีการออกแบบที่ยอดเยี่ยมและคุณภาพสูงเท่านั้น แต่ยังต้องให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตที่เขียวและยั่งยืน
แนวทางดังกล่าวสอดคล้องกับจุดยืนของ บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบ-แนวสูงระดับลักชัวรี โดยล่าสุดประกาศเจตนารมณ์ที่จะบรรลุ Carbon Neutrality ภายในปี 2050 ในงาน "A Better Planet for Sustainable Living" และตั้งเป้าหมายการใช้วัสดุรักษ์โลกถึง 80% ภายในปี 2030 ภายใต้กรอบ ESG ที่เสริมแกร่งด้วยการผนึกกำลังกับ 4 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ ธนาคารกรุงไทย, นิปปอนเพนต์, กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง และเอสซีจี ลีฟวิง แอนด์ เฮาส์ซิง โซลูชัน รวมทั้งเตรียมพร้อมก้าวขึ้น SET ESG Ratings ที่ร่วมกับ FTSE Russell ผู้ให้บริการดัชนีระดับโลก ภายในปี 2569-2570
Sustainability is Legacy
ศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า A5 มุ่งสร้างสมดุลระหว่าง "ความหรูหรา" และ "ความยั่งยืน" เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้ชีวิตในบ้านที่สะท้อนถึงความสำเร็จ ในขณะเดียวกันก็มีส่วนร่วมในการสร้างโลกที่ยั่งยืน
"มีคำพูดนึงที่ A5 ใช้บ่อยๆ คือ LUXURY is Details เพราะเราใส่ใจในการเลือกใช้ทุกวัสดุ ต้องเป็นวัสดุที่อยู่ได้นาน ช่วยเสริม Well-Being & Wellness ในทุกมิติ และที่สำคัญต้องดูหรูหราสวยงาม ภายใต้หลักการ Greatness Inspired by LOVE ทั้งนี้ A5 มีเป้าหมายหลักที่จะเป็นองค์กรที่ทำธุรกิจอย่างยั่งยืนที่จะคงอยู่ได้ 100 ปีในโลก ดังนั้นการเดินตามหลัก ESG ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล จึงสำคัญ และบริษัทฯ ได้ส่งเสริมแนวคิดนี้ให้กับทุกคนในองค์กร โดยเริ่มจากระดับบริหารสู่ระดับปฏิบัติการ เพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งมองว่า Sustainability is Legacy (ความยั่งยืนคือมรดกสำหรับอนาคต)"
ตั้งเป้าใช้วัสดุยั่งยืน 80%
ศุภโชค กล่าวด้วยว่า เมื่อ A5 เลือกที่จะใช้กรอบ ESG ทำให้บ้านหนึ่งหลังมีองค์ประกอบมากมายที่ต้องยั่งยืนและลดผลกระทบ แน่นอนว่า A5 ไม่สามารถทำเรื่องนี้คนเดียวได้ แต่ต้องร่วมมือกันผู้อื่นที่มีวิสัยทัศน์เดียวกันเพื่อไปถึงเป้าหมาย โดยล่าสุดจึงก็ได้พาร์ตเนอร์กับ 4 องค์กรที่มีความเชียวชาญและประสบการณ์ ทั้งในด้านวัสดุ นวัตกรรม และการเงิน
"เราใส่ใจคัดเลือกวัสดุเป็นพิเศษ และหลังจากนี้ทุกองค์ประกอบของบ้านที่ A5 พัฒนาจะต้องสอดคล้องกับ ESG ทั้งหมด เราจึงตั้งเป้าใช้ Sustainability Material 80% ในปี 2030 เช่น การเลือกใช้สีทาอาคารนวัตกรรมคุณภาพสูงสุดเกรดอัลตร้าพรีเมียมของ Nippon Paint ที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนและสะท้อนความร้อนพร้อมสร้างสุขภาพดีที่แก้ผู้อยู่อาศัย การติดตั้งโซลาร์รูฟของ Gunkul เพื่อผลิตพลังงานสะอาดสำหรับบ้านและพื้นที่ส่วนกลาง การติดตั้งระบบเติมอากาศบริสุทธิ์ยกระดับคุณภาพอากาศภายในบ้านของ ONNEX by SCG Smart Living พร้อมทั้งยังได้รับการสนับสนุนวงเงินสินเชื่อ Transition Loan เพื่อใช้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์จากธนาคารกรุงไทยอีกด้วย"
โครงการบ้านยั่งยืน CINQ ROYAL
ศุภโชค พูดถึงความพิเศษของ แซงค์ รอยัล ดิ เอททีน บางนา กม.7 ซึ่งเป็นโครงการหมู่บ้านใหม่ ว่า มีความยั่งยืนตั้งแต่เริ่มออกแบบก่อสร้าง เช่น การอบรมผู้รับเหมาให้เข้าใจถึงการใช้งานวัสดุทุกชนิด ใช้พลังงานหมุนเวียนและระบบจัดการน้ำ ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพิ่มพื้นที่สีเขียว ลดของเสียจากกระบวนการก่อสร้าง
"เราเริ่มติดตั้ง Junction Box ที่รองรับ EV Charger มาตั้งแต่โครงการ VANA ในปี 2018 และหลังคาทุกหลังคาบ้านสามารถติดตั้ง Solar Rooftop ได้ทุกหลัง โดยโครงการที่เปิดตัวใน Q3-2025 เป็นต้นไป เราจะติดตั้งโซลาร์รูฟให้ทุกหลัง รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางและคลับเฮาส์ทุกโครงการนอกจากนั้น มีการนำน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วมาใช้รดน้ำต้นไม้ เลือกใช้สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ สิ่งสุดท้าย คือการแปรรูปและส่งต่อ เช่น การนำคอนกรีตเหลือทิ้งมาทำที่ห้ามล้อ ทำกระถางต้นไม้ โต๊ะ เก้าอี้ หรือการนำถังสีที่ไม่ใช้แล้วมาใช้ในสำนักงานก่อสร้างต่อไป ไม่เพียงแต่การก่อสร้าง A5 ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมและชุมชนอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการ A5 Run With Love และโครงการ A5 สร้างห้องเพื่อน้อง และบริษัทตั้งเป้าหมายได้รับการประเมินตามหลักเกณฑ์ SET ESG Ratings หรือ FTSE Russell ภายในปี 2569-2570"
สีสะท้อนความร้อน ลดคาร์บอน
วัชระ ศิริฤทธิชัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นิปปอนเพนต์มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการยึดลูกค้าและผู้ใช้งานทุกคนเป็นศูนย์กลาง ผลิตสีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ เช่น สีนวัตกรรมทาภายนอก "นิปปอนเพนต์ เวเธอร์บอนด์" สะท้อนความร้อนสูงสุด 99.5% และสีนวัตกรรมทาภายใน "นิปปอนเพนต์ แอร์แคร์" สีเพื่อสุขภาพรายแรกที่ได้ GREENGUARD GOLD Certification ช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์พร้อมกำจัดฟอร์มัลดีไฮด์และเชื้อโรคบนผนัง ซึ่งทั้งสองชนิดเป็นสีเกรดอัลตร้าพรีเมียม ทนทานกว่า 15 ปี ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้กว่า 25,000 กิโลกรัม เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 2,600 ต้น ซึ่งลูกบ้านของ A5 จะได้คุณภาพสีที่ปลอดภัยทุกหลัง
บ้านพลังงานสะอาด
นฤชล ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาด Luxury Real Estate มีผู้เล่นหลากหลายแต่ว่าสิ่งนึงที่ทำให้กันกุลทำงานร่วมกับทาง A5 ได้ดี คือความเอาจริงในด้าน Sustainability และการดำเนินอย่างต่อเนื่อง
"อสังหาริมทรัพย์ถือเป็นอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่แค่ใกล้ชิดกับตัวผู้บริโภคแต่เป็นผู้ที่จะอยู่ข้างๆ ไปอีกนาน บ้านหลังหนึ่งไม่ได้อยู่แค่ 2-3 ปี แต่เป็นการลงทุนระยะยาว เช่นเดียวกับ พลังงานสะอาด โดยพลังงานสะอาดที่ผลิตได้ของทั้งโครงการใน 1 ปีเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้กว่า 2,510 ต้น หรือลดคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าราวๆ 54,000 กิโลกรัมคาร์บอน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการประมาณปลายปี 2569"
นวัตกรรมบล็อกและกรองฝุ่น
เกริก ยิ้มพรพิพัฒน์ผล Smart Home Director บริษัท เอสซีจี ลีฟวิง แอนด์ เฮาส์ซิง โซลูชัน กล่าวเสริมว่า SCG ACTIVE AIR QUALITY ภายใต้แบรนด์ ONNEX by SCG Smart Living ที่ช่วยบล็อกและกรองฝุ่น PM 2.5 ตั้งแต่ต้นทาง มาใช้ในโครงการ CINQ ROYAL The Eighteen Bangna KM.7 รวมถึงโครงการอื่นในอนาคต เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพอากาศภายในบ้าน ซึ่งช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี
เปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจสีเขียว
สุรธันว์ คงทน ประธานผู้บริหาร Wholesale Banking ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารกรุงไทยสนับสนุนธุรกิจที่ให้ความสำคัญ ESG และขับเคลื่อนองค์กรและประเทศสู่ Net Zero Emission จึงสนับสนุนทางการเงินแก่ A5 ผ่านสินเชื่อ Transition Loan ที่ออกแบบเพื่อธุรกิจสามารถเปลี่ยนผ่านจากธุรกิจดั้งเดิม (Brown) ไปสู่ธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Less Brown) และธุรกิจสีเขียว (Green)
"ธนาคารฯ ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของ A5 ในการนำแนวคิดเรื่อง ESG มาใช้ในการดำเนินงาน ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ สอดคล้องกับการดำเนินงานของธนาคารฯ ในการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับประเทศ และยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดีขึ้น"