"แผ่นดินไหว" ปัจจัยที่ต้องคิดถึงเมื่อซื้อคอนโดในกรุงเทพฯ

เหตุการณ์ "แผ่นดินไหว" 8.2 ริกเตอร์ จากรอยเลื่อนนอกประเทศ กลายเป็นปัจจัยใหม่ที่ต้องคิดถึงเมื่อซื้อคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ ทั้งประเทศ
เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ที่สั่นสะเทือนทั่วกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มาพร้อมกับความรุนแรงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของพื้นที่นี้ - ระดับ 8.2 ริกเตอร์ จากรอยเลื่อนนอกประเทศ จุดนี้เองที่ทำให้การซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ต้องคิดใหม่อีกครั้ง เพราะแผ่นดินไหวอาจกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อในอนาคต
สุรเชษฐ กองชีพ หัวหน้าฝ่ายวิจัย และที่ปรึกษา คุชแมน แอนด์ เวคฟีลด์ ประเทศไทย กล่าวว่า แม้ว่ากรุงเทพมหานคร จะตั้งอยู่บนดินที่อ่อนแอ และมีความเสี่ยงต่อแผ่นดินไหวอยู่แล้ว แต่กฎหมายการก่อสร้างอาคารในประเทศไทย มีการปรับปรุงมาตั้งแต่ปี 2522 เพื่อรองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว โดยเฉพาะอาคารสูงที่ต้องได้รับการออกแบบเพื่อรับมือกับแรงสั่นสะเทือนดังกล่าว แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้ทุกคนได้เห็นว่า แม้การออกแบบจะมีมาตรฐาน แต่ก็ยังไม่สามารถรับมือกับแรงสั่นสะเทือนที่รุนแรงขนาดนี้ได้ทั้งหมด
ในอดีต กรุงเทพฯ ยังไม่เคยเผชิญกับแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงถึงระดับ 8.2 ริกเตอร์มาก่อน ดังนั้น แม้ว่าการออกแบบอาคารในกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะสามารถทนทานต่อแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวระดับปานกลางได้ แต่การที่เกิดเหตุการณ์ที่มีแรงสั่นสะเทือนสูงเกินที่ได้คำนวณไว้ ก็ทำให้หลายคนเริ่มตั้งคำถามถึงความปลอดภัยในระยะยาว
ในปี 2564 กระทรวงมหาดไทย ได้ออกกฎกระทรวงเกี่ยวกับการออกแบบอาคารให้รองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวเพิ่มขึ้น โดยได้รวมกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลในพื้นที่ ที่อาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวระดับปานกลาง นั่นหมายความว่า อาคารที่สร้างใหม่ในพื้นที่เหล่านี้จะต้องมีการออกแบบให้รองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่เกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนี้ อาจจะยิ่งเพิ่มความกังวลให้กับผู้ที่กำลังจะซื้อคอนโดมิเนียมหรือบ้านในกรุงเทพฯ หลังจากที่ได้เห็นคลิปวิดีโอการสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นในอาคารสูง ซึ่งทำให้หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า อาคารที่เคยได้รับการรับรองมาตรฐานการออกแบบเพื่อรองรับแผ่นดินไหวแล้วนั้น จะสามารถทนทานต่อแรงสั่นสะเทือนที่รุนแรงขนาดนี้ได้จริงหรือไม่
การเกิดแผ่นดินไหวอาจทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ในทันที เช่น รอยร้าวในโครงสร้างของอาคาร หรือระบบภายในที่อาจจะได้รับความเสียหาย ซึ่งผลกระทบเหล่านี้อาจจะเกิดขึ้นในระยะยาวหลังจากเหตุการณ์ ดังนั้นการตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมในอนาคตจะต้องพิจารณาถึงปัจจัยนี้เป็นสำคัญ โดยเฉพาะอาคารเก่าที่อาจไม่ได้รับการออกแบบให้รองรับแผ่นดินไหวในระดับปัจจุบัน
"เมื่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวทำให้เกิดความเสียหายขึ้นหลังจากที่หมดประกันแล้ว ผู้ซื้ออาจพบว่าไม่สามารถขอการซ่อมแซมจากเจ้าของโครงการได้ ดังนั้น การเลือกซื้ออาคารใหม่ที่มีการออกแบบตามมาตรฐานล่าสุด และการเลือกประกันภัยที่ครอบคลุมภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวจึงเป็นสิ่งที่ผู้ซื้อควรพิจารณาอย่างจริงจัง"
เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้จะทำให้ผู้ซื้อบ้าน และคอนโดมิเนียมต้องมองหาปัจจัยใหม่ที่อาจจะกลายเป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นความมั่นใจในโครงสร้างของอาคาร การประกันภัยที่ครอบคลุม หรือการรับรองว่าอาคารนั้นสามารถรองรับการสั่นสะเทือนในระดับที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างปลอดภัย และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การทำความเข้าใจในความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในทุกๆ พื้นที่ของกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลที่ไม่มีข้อยกเว้น
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์