เพอร์เฟค พลิกวิกฤติรุกบ้านหรูรับแผ่นดินไหวคอนโดโลว์ไรส์ดันยอด

เพอร์เฟค พลิกวิกฤติรุกบ้านหรูรับแผ่นดินไหวคอนโดโลว์ไรส์ดันยอด

เพอร์เฟค พลิกวิกฤติ รุกเปิดบ้านหรูชูจุดขายนวัตกรรมรองรับแผ่นดินไหว จากญี่ปุ่นพร้อมคอนโดโลว์ไรส์ 8 ชั้นรองรับความต้องการลูกค้าตั้งเป้าไตรมาสสอง ยอดขาย 3,000 ล้าน

นายวสันต์ ศรีรัตนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในไตรมาส 2 ว่า บริษัทจะมุ่งทำการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายจากโครงการแนวราบ ซึ่งเป็นสินค้าหลักของบริษัท และไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ทั้งนี้คาดว่าจะมีกลุ่มลูกค้ามองหาที่อยู่อาศัยแนวราบมากขึ้น ประกอบกับเป็นช่วงที่มีการผ่อนคลายมาตรการ LTV (Loan To Value) ที่จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2568 ซึ่งจะช่วยขยายฐานลูกค้าและเพิ่มโอกาสในการขายบ้านหลังที่ 2 ของลูกค้าที่มีความต้องการอยู่อาศัยในโครงการแนวราบมากยิ่งขึ้น

บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายในไตรมาส 2 ไว้ที่ 3,000 ล้านบาท โดยมีแผนการตลาดที่เน้นโครงการบ้านหรูในทำเลที่มีศักยภาพสูง รวมทั้งการเปิดตัวบ้านนวัตกรรมจากประเทศญี่ปุ่นในโครงการ "ซิกเนเจอร์" ซึ่งเป็นบ้านที่ใช้เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย อาทิ ระบบกรองอากาศและป้องกันฝุ่น, ระบบกันความร้อน และผนังป้องกันเสียง ที่สำคัญที่สุด คือ โครงสร้างของบ้านที่ทนทานต่อแผ่นดินไหวสูงสุดถึง 7 ริกเตอร์ ซึ่งเชื่อว่าจะตอบโจทย์ลูกค้าที่มีความกังวลในเรื่องความปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ
 

นายวสันต์  กล่าวว่า  จะเน้นการตลาดเชิงรุกกับโครงการบ้านระดับไฮเอนด์ที่ยังคงมีกำลังซื้อสูงในปัจจุบัน เพื่อให้ได้ยอดขายจากโครงการในเซกเมนต์ระดับบน 1,500 ล้านบาท ทั้งโครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ ที่เตรียมเปิดบ้านตัวอย่างรุ่นใหม่ในทำเลกรุงเทพกรีฑา โครงการเลค เลเจ้นด์ บางนา-สุวรรณภูมิ และแจ้งวัฒนะ ที่มีคฤหาสน์ริมทะเลสาบ โครงการวิลล่าตากอากาศ เบลล่า เดล มอนเต้ เขาใหญ่ ที่ตั้งเป้าปิดการขายเฟส 1 และเปิดตัวพูลวิลล่าเฟส 2 ภายในไตรมาส 2 รวมทั้งบ้านหรู “ซิกเนเจอร์” ในทำเล กรุงเทพกรีฑา รามคำแหง และสุขุมวิท 77 ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับเซกิซุย เคมิคอล ประเทศญี่ปุ่น 


อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญคือการเปิดตัวแคมเปญ "สวยเลือกได้" สำหรับบ้านพร้อมเข้าอยู่ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนวัสดุและดีไซน์ต่างๆ ของบ้านให้ตรงกับความต้องการของตนเองได้ โดยจะสามารถเข้าอยู่ได้ภายใน 3 เดือนจากวันทำสัญญา ซึ่งโครงการนี้จะช่วยตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการบ้านใหม่ แต่ยังคงมีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งตามความชอบส่วนตัว
 

โดยลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนวัสดุ ตลอดจนสีตัวบ้าน และรูปแบบสวน และเข้าอยู่ได้ภายใน 3 เดือน ในโครงการเพอร์เฟค เพลส, เพอร์เฟค พาร์ค และ โมดิ วิลล่า รวม 25 โครงการ ทั้งในทำเลแจ้งวัฒนะ รามคำแหง กรุงเทพกรีฑา สุขุมวิท 77 ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์  รังสิต คาดจะสร้างยอดขายได้ 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังเตรียมเปิดเฟส 2 ของ “มาร์เก็ต อเวนิว แจ้งวัฒนะ–ราชพฤกษ์” โครงการอาคารพาณิชย์บนถนนหอการค้าไทย รับการเติบโตของทำเล จากการขยายถนนชัยพฤกษ์ด้านหน้าโครงการเป็น 10 เลน ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์

ด้านคอนโดมิเนียม จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมา โครงการของบริษัทได้รับผลกระทบน้อยมาก อย่างไรก็ดี บริษัทมีการตรวจสอบความปลอดภัยของทุกอาคารตั้งแต่วันแรกหลังเหตุการณ์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า  ทั้งนี้โครงการส่วนใหญ่ หรือจำนวน 23 โครงการ รวม 17,100 ยูนิต เป็นอาคาร Low Rise 8 ชั้น ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบ 

ปัจจุบันบริษัทมีโครงการคอนโดมิเนียมที่ก่อสร้างแล้วเสร็จอยู่ระหว่างเปิดขายทั้งหมด 7 โครงการ เป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise 4 โครงการ บริษัทมีแผนเร่งผลักดันยอดขายโครงการอยู่รวยคอนโด และ ไอคอนโด พัฒนาการ ซึ่งเป็นคอนโด Low Rise ในระดับราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย ที่ยังมีความน่าสนใจและยังเป็นที่ต้องการ เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้กับบริษัท โดยวางเป้าขายโครงการคอนโดมิเนียมในไตรมาส 2 ไว้ที่ 400 ล้านบาท