ออริจิ้นผนึกพันธมิตรเคลมประกันแผ่นดินไหวให้ลูกบ้าน

ออริจิ้นผนึกพันธมิตรเคลมประกันแผ่นดินไหวให้ลูกบ้าน

ออริจิ้น ผนึกพรีโมจับมือ4 บริษัทประกันภัย เดินหน้าฟื้นฟูโครงการที่ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหวเร่งการเคลมประกันสะดวก รวดเร็ว ครอบคลุมทุกความเสียหาย

หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ส่งแรงสั่นสะเทือนครอบคลุมหลายพื้นที่ในประเทศไทย โดยเฉพาะในเขตเมืองที่มีอาคารสูงหนาแน่น ทำให้เกิดความเสียหายในบางโครงการคอนโดมิเนียม และสร้างความกังวลใจให้กับผู้อยู่อาศัย

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ และกลุ่มธุรกิจในเครือเร่งดำเนินการดูแลลูกบ้านอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะความเสียหายที่เกิดขึ้นกับพื้นที่ส่วนกลาง อาคาร และโครงสร้างจากแรงสั่นสะเทือน เช่น รอยร้าว ผนังหลุดร่อน หรือความเสียหายอื่น ๆ ซึ่งอยู่ภายใต้การคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยที่แต่ละโครงการได้จัดทำไว้ล่วงหน้า

สำหรับความเสียหายภายในห้องพักของลูกบ้าน บริษัทฯ ได้จัดตั้ง “ศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉิน” เพื่อให้ลูกบ้านสามารถติดต่อประสานงานได้ตลอดเวลา พร้อมให้ข้อมูลการแจ้งเคลมอย่างครบถ้วน
 

ประสานผ่านแอป PRIMO PLUS

นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า พรีโมจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างลูกบ้านและบริษัทประกันภัย เพื่ออำนวยความสะดวกตั้งแต่ขั้นตอนการยื่นเอกสาร จัดหาผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบความเสียหาย ไปจนถึงประเมินค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม

โดยลูกบ้านสามารถแจ้งความเสียหายและติดตามสถานะผ่าน PRIMO PLUS แอปพลิเคชันของบริษัท ที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมให้รองรับการส่งเคลมออนไลน์ ช่วยลดระยะเวลารอคอย และทำให้ทุกขั้นตอนโปร่งใส ตรวจสอบได้ผ่านพันธมิตรประกันภัย 4 รายเพื่อสร้างความมั่นใจ ได้แก่

บริษัท ชับบ์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน)

บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)

บริษัท อินทรประกันภัย จำกัด (มหาชน)

บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน)

พันธมิตรเหล่านี้จะร่วมดูแลลูกบ้านในโครงการของออริจิ้นทุกแห่ง โดยรับประกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติ พร้อมสนับสนุนกระบวนการเคลมให้ดำเนินการได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพการดำเนินการของออริจิ้นและพรีโมในครั้งนี้ ถือเป็นตัวอย่างสำคัญของการสร้าง “มาตรฐานใหม่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์” ที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่การขาย แต่เน้นถึงการดูแลหลังการอยู่อาศัย โดยเฉพาะในยุคที่ภัยธรรมชาติเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด