นิปปอนเพนต์ พลิกโฉมวงการสีสู่มหานครแห่งอนาคตในงานสถาปนิก’68

นิปปอนเพนต์ พลิกโฉมวงการสี เปิด ‘The Future City’ ในงานสถาปนิก’68 จุดประกายอนาคตด้วยนวัตกรรมที่มากกว่าสี จากพัดสี สู่มหานครแห่งอนาคต
หากใครเคยคิดว่าสีทาอาคารเป็นเพียงผิวสัมผัสสุดท้ายของงานออกแบบ งานสถาปนิก’68 ปีนี้อาจเปลี่ยนความคิดนั้นไปตลอดกาล เพราะ "Nippon Paint" แบรนด์สีชั้นนำจากญี่ปุ่นที่ครองอันดับ 1 ในเอเชียเกือบสิบปี กำลังเปลี่ยนวิธีที่เรามอง “สี” ให้กลายเป็นแรงขับเคลื่อนอนาคตแห่งการออกแบบ ผ่านพาวิลเลียนสุดล้ำภายใต้ชื่อ “The Future City” ที่ไม่ได้เป็นเพียงบูธจัดแสดงผลิตภัณฑ์ แต่เป็น “มหานครสีแห่งอนาคต” ที่พูดคุยกับทุกจินตนาการของนักออกแบบไทย
นี่คือครั้งแรกของนิปปอนเพนต์ในเวที ASA Expo แต่ไม่ใช่การเปิดตัวแบบธรรมดา เพราะพวกเขาเลือกเข้าร่วมในระดับ Thematic Pavilion พื้นที่โชว์เคสขนาดใหญ่ที่ต้องการส่งสารระดับแนวคิดและวิสัยทัศน์อย่างลึกซึ้ง ต่างจากการวางบูธแสดงผลิตภัณฑ์ทั่วไป
“The Future City” – มหานครที่ออกแบบด้วยพัดสี
แรงบันดาลใจของพาวิลเลียนนี้เริ่มจากของเรียบง่ายที่คุ้นมือสถาปนิกทุกคน — “พัดสี” หรือ Colour Fandeck อุปกรณ์ที่ดูธรรมดาแต่เป็นดั่งแผนที่แห่งความคิดสร้างสรรค์ ทีมออกแบบจาก pbm สตูดิโอชื่อดังที่คว้ารางวัลระดับนานาชาติ ได้หยิบความเคลื่อนไหวของพัดสีเมื่อถูกกางออก มาสร้างเป็นเส้นสายของพาวิลเลียนที่สูงถึง 7 เมตร ขาวสะอาดตา เสมือนผืนผ้าใบเปล่าที่เชื้อเชิญผู้ชม “ระบายจินตนาการ” ลงบนมัน
ภายในพาวิลเลียนยาว 18 เมตร ผู้เข้าชมจะได้เดินเข้าสู่โลกสีที่ไม่ใช่แค่ให้ “เห็น” แต่ให้ “สัมผัส” ผ่านระบบ Immersive Experience ที่ผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับความรู้สึก พร้อมจัดเต็ม 4 โซนเนื้อหา ได้แก่
Painting the Future: เปิดโลกแห่งสีด้วยเทคโนโลยีอินเทอร์แอคทีฟ
Colour of Citizen: วิเคราะห์คลื่นสมองเพื่อค้นพบ “สีที่ใช่” สำหรับคุณ
Inspired by You: พื้นที่แลกเปลี่ยนไอเดียสำหรับนักออกแบบ
Inspiring Café: คาเฟ่สุดสร้างสรรค์ที่เสิร์ฟแรงบันดาลใจพร้อมเครื่องดื่มจาก “สีในใจคุณ”

สี…ที่เปลี่ยนโลก ไม่ใช่แค่เปลี่ยนผนัง
เบื้องหลังพาวิลเลียนที่งดงามคือความตั้งใจของ นิปปอนเพนต์ ที่จะสื่อสารว่า “สี” ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามอีกต่อไป แต่มันคือ “โซลูชันเพื่อโลกอนาคต” ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมสีที่ช่วยลดคาร์บอน เช่น UltraGuard สีภายนอกระดับพรีเมียมที่ทนทาน 20 ปี ลดการทาสีซ้ำจึงลดรอยเท้าคาร์บอนได้จริง หรือ Nature Care สีจากน้ำยางพาราไทยที่ทั้งยั่งยืน ปลอดภัย และช่วยเศรษฐกิจเกษตรกรยังไม่หมดเท่านั้น เพราะยังมีนวัตกรรมสีที่เหมือนหลุดจากโลกไซไฟ เช่น
Conductive Paint สีที่เปลี่ยนพื้นผิวให้ “นำไฟฟ้าได้”
Lumi-Extra สีที่เรืองแสงในความมืด
Peelable Coating สีลอกได้แบบไม่ทิ้งคราบ
ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่เพียงทำให้สีเป็นมากกว่าความสวยงาม แต่เป็น “เครื่องมือแห่งอนาคต” สำหรับงานออกแบบที่ยั่งยืน ฉลาด และเปี่ยมความคิดสร้างสรรค์ จุดตัดของเทคโนโลยี ดีไซน์ และวิสัยทัศน์เพื่อโลก
วัชระ ศิริฤทธิชัย ผู้จัดการทั่วไปของนิปปอนเพนต์ประเทศไทย ให้มุมมองว่า นี่คือช่วงเวลาที่แบรนด์มีความพร้อมที่สุด ทั้งในแง่การรับรู้ในตลาดและนวัตกรรม จึงกล้าเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบในงานสถาปนิก’68 ครั้งนี้ เพื่อส่งสารถึงกลุ่ม B2B อย่างสถาปนิก นักออกแบบ ผู้พัฒนาโครงการ และเจ้าของธุรกิจว่า Nippon Paint ไม่ใช่แค่แบรนด์สี แต่เป็นพาร์ตเนอร์ทางความคิดสร้างสรรค์ ที่สามารถยกระดับทุกโปรเจกต์ได้จริง
โครงสร้างของพาวิลเลียนเองยังออกแบบให้สามารถ “ถอดประกอบ” ได้ เพื่อรีไซเคิลใช้ซ้ำ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนทั้งในเชิงผลิตภัณฑ์และการออกแบบโครงสร้าง
ปลุกแรงบันดาลใจในทุกย่างก้าว
งานนี้ไม่ใช่เพียงนิทรรศการสี แต่คือพื้นที่ทดลองจินตนาการอย่างเสรี เชื่อมโยง “เทคโนโลยี x สี x ความยั่งยืน” เข้าด้วยกันอย่างทรงพลัง พาวิลเลียน “The Future City” จึงไม่ใช่แค่โชว์ แต่มันคือ แนวคิดใหม่ในการออกแบบเมือง สี และชีวิต ที่นักออกแบบไม่ควรพลาด