คอนโดหัวหินส่งสัญญาณฟื้น! วิวติดทะเลต่อตร.ม.ราคากว่า1.5แสนบาท
ไนท์แฟรงค์ เผยครึ่งแรกปี65 คอนโดหัวหินส่งสัญญาณฟื้น! ขายทะลุ 2.2 หมื่นยูนิต จากซัพพลาย 2.8 หมื่นยูนิต คอนโดวิวติดทะเลต่อตร.ม.ราคากว่า1.5แสนบาทลูกค้าหลัก 90% เป็นคนกรุงเทพฯ ที่เหลือจะเป็นคนไทยในจังหวัดอื่น และต่างชาติ
นายณัฎฐา คหาปนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีแรก 2565 เริ่มปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า เนื่องจากอุปทานคอนโดที่เหลือน้อย และมีการจัดรายการส่งเสริมการขายอยู่ตลอดเพื่อลดจำนวนยูนิตเหลือขาย
แต่อย่างไรก็ตามยังไม่พบโครงการฝั่งติดทะเลเปิดใหม่ในครึ่งปีแรกถึงแม้ว่า อุปทานในตลาดจะเหลือน้อยก็ตาม ทั้งนี้จากการสำรวจและรวบรวมข้อมูล พบว่าจะมีการเปิดตัวโครงการตึกสูงใหม่ ในไตรมาสที่ 3 ของ 2565 ภาวะการแข่งขันและความหลากหลายของตลาดคอนโดในหัวหิน
สำหรับอุปทานสะสมของคอนโดมิเนียมบริเวณชะอำ-หัวหิน-เขาเต่า ก่อนปี 2551 ถึงครึ่งปีแรก 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 28,307 ยูนิต ในครึ่งปีแรก 2565 มีอุปทานคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ จำนวน 1 โครงการ(เฮย์หัวหิน) จำนวน 252 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการฝั่งไม่ติดทะเล
อุปทานคอนโดส่วนใหญ่ตั้งอยู่บริเวณชะอำ57% รองลงมาคือบริเวณเขาตะเกียบและฝั่งไม่ติดทะเลมีสัดส่วน 13% และ 12% ตามลำดับ อุปทานคอนโดที่ตั้งอยู่ในบริเวณหัวหินคิดเป็นสัดส่วน 10% ส่วนคอนโดบริเวณเขาเต่า 8 % ส่วนใหญ่ไม่เห็นวิวทะเลคิด 55% และคอนโดที่เห็นวิวทะเล45% ของอุปทานทั้งหมด
ในครึ่งปีแรก 2565 คอนโดมิเนียมบริเวณชะอำ-หัวหิน-เขาเต่า มียูนิตขายแล้วทั้งสิ้น 22,344 หน่วย จากอุปทานทั้งหมด 28,307 ยูนิต คิดเป็น 79% โดยอัตราการขายปรับตัวดีขึ้นตัวเมื่อเทียบกับปี 2564 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ในครึ่งปีแรกของ 2565 มียูนิตขายได้ทั้งสิ้น 1,773 ยูนิต จากการสำรวจและรวบรวมข้อมูลพบว่า ภาพรวมจำนวนหน่วยเหลือขาย ครึ่งปีแรกของ 2565 มีจำนวนประมาณ 5,963 ยูนิต
โดยกลุ่มคนในกรุงเทพฯ ยังคงเป็นผู้ซื้อหลัก 90% ทั้งนี้ ที่เหลือจะเป็นคนไทยในจังหวัดอื่นๆ อีก 5% และต่างชาติอีก 5% ทั้งนี้อุปสงค์ค่อนข้างตอบรับได้ดีกับราคาขายเฉลี่ยที่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตร ลงมาซึ่งมีอัตราการขายที่ค่อนข้างดีและเป็นโครงการที่ไม่เห็นทะเลเป็นส่วนมาก
คอนโดบริเวณเขาตะเกียบมีอัตราการขายสูงสุด96% รองลงมาได้แก่คอนโดฝั่งไม่ติดทะเลและเขาเต่า มีอัตราการขาย93 %และ 91% ตามลำดับ ในส่วนอัตราการขายบริเวณหัวหินและชะอำมีอัตราการขาย 88 %และ69% ตามลำดับ
โดยบริเวณชะอำมีจำนวนหน่วยเหลือขายสูงสุด 5,078ยูนิต หรือ 85% ของอุปทานที่เหลือขายทั้งหมด ปัจจุบันที่ดินติดทะเลบริเวณหัวหินที่จะพัฒนาโครงการแทบไม่มีเหลือแล้ว ในส่วนของที่ดินที่ยังมีเหลือสำหรับการพัฒนาโครงการจะอยู่บริเวณชะอำแต่พื้นที่ในบริเวณโซนชะอำยังเป็นที่นิยมน้อยกว่าหัวหินเนื่องจากอยู่ค่อนข้างไกลจากสิ่งอำนวยความสะดวกหากเทียบกับคอนโดในหัวหิน
ทั้งนี้พบว่ายังพอมีที่ดินติดทะเลเหลือให้พัฒนาในโซนเขาตะเกียบโดยเมื่อเทียบกับโครงการติดทะเลล่าสุดจะพบว่าห้องมีราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรที่ประมาณ 150,000 บาท ในส่วนพื้นที่บริเวณฝั่งภูเขาที่ไม่ติดทะเลยังมีพื้นที่เหลือให้พัฒนาโครงการอีกมาก และน่าจะเป็นที่สนใจของนักลงทุนเนื่องจากอยู่โซนเขตตัวเมืองหัวหินและเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติ และยังสามารถทำราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรได้ต่ำกว่า 100,000 บาท
สำหรับราคาขายเฉลี่ยของคอนโดที่เห็นวิวทะเลในบริเวณนี้มีระดับราคาเสนอขายเฉลี่ยอยู่ที่ 143,000 บาทต่อตารางเมตร ราคาขายปรับตัวเพิ่มขึ้น 1% จากปี 2564 โดยโครงการใหม่ที่เห็นวิวทะเลมีระดับราคาขายต่อห้องเฉลี่ยสูงถึง 250,000 บาทต่อตารางเมตร ส่วนราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมที่ไม่เห็นวิวทะเลในบริเวณนี้มีระดับราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 69,800 บาทต่อตารางเมตร
ราคาขายค่อนข้างทรงตัวและลดลง 1.3% จากปี 2564 เนื่องจากโครงการที่ยังมีห้องว่างเหลือขายเกิน50 %ซึ่งอยู่บริเวณโซนชะอำ ผู้ประกอบการยังคงจัดโปรโมชั้นและส่วนลดอย่างต่อเนื่องเพื่อปิดการขายโครงการ และโครงการใหม่ที่ขึ้นฝั่งไม่ติดทะเลมีการทำราคาขายที่ประมาณ 52,000 บาทต่อตารางเมตร ทำให้ราคาเฉลี่ยโซนไม่เห็นทะเลนั้นปรับตัวลดลงเล็กน้อย
แนวโน้มตลาดคอนโดหัวหินในปี 2565 มีการฟื้นตัวที่ดีขึ้นและเริ่มมีกำลังซื้อมากขึ้นทำให้ยูนิตเหลือขายในตลาดลดน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโครงการติดทะเลที่มียูนิตเหลือขายไม่มาก และที่ดินในการพัฒนาโครงการติดทะเลในบริเวณตัวเมืองหัวหินหรือเขาตะเกียบก็เหลือน้อยและยากที่จะพัฒนาได้ ทั้งนี้หากมีการพัฒนาโครงการที่ติดทะเล ราคาขายจะมีทิศทางในการปรับตัวที่สูงขึ้น อาจจะมีราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรสูงกว่า 150,000 บาท เนื่องมาจากที่ดินที่เหลือน้อย และราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่โครงการโซนชะอำ อาจจะต้องใช้เวลาในการระบายหน่วยเหลือขาย บางโครงการจึงปรับราคาลง ขณะที่โครงการที่สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ในหัวหินต้นปี 2565 ยังคงมีการจัดรายการส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องเพื่อปิดโครงการ
สะท้อนให้เห็นว่าโครงการคอนโดชะอำ-หัวหิน-เขาตะเกียบอยู่ในภาวะที่สมดุลทั้งในแง่อุปทานและอุปสงค์ ทั้งนี้จากการสำรวจพบว่าแนวโน้มการการเพิ่มขึ้นของคอนโดมิเนียมกำลังขยายตัวไปยังบริเวณฝั่งที่ไม่ติดทะเลมากขึ้น เนื่องจากยังคงมีที่ดินเหลือให้พัฒนาอีกค่อนข้างมากและหากสามารถทำราคาขายรวมถึงการมีจุดเด่นของโครงการที่น่าสนใจอาจจะทำให้ผู้ซื้อให้การตอบรับที่ดีแก่โครงการมากขึ้น