Secret of Champion เคล็ดลับความเป็นที่ 1 ของไมโล
นับตั้งแต่วันแรกที่ไมโลถูกคิดค้นขึ้น ไมโลเป็นเครื่องดื่มที่มีคุณค่าโภชนาการและให้พลังงาน
มาตลอดกว่า 82 ปี ปัจจุบันไมโลเป็นเครื่องดื่มช็อคโกแลตมอลต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากทั่วทุกมุมโลก และมียอดขายสูงเป็นอันดับ 1 ทั่วโลก และได้รับการยอมรับว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ให้พลังงานแก่ร่างกายให้กับผู้ดื่มใน 40 ประเทศทั่วโลก ซึ่งในแต่ละวันมีผู้บริโภคทั่วโลก ดื่มไมโลถึงวันละ 31 ล้านแก้ว หรือเท่ากับ 307 แก้วต่อวินาที หากเทียบปริมาณของไมโลที่ผลิตทั่วโลกในแต่ละปีแล้ว จะมีน้ำหนักเท่ากับหอคอยไอเฟล 20 อันรวมกัน
ทีนี้ลองมาทำความรู้จักกันว่าอะไรที่ทำให้ไมโลเป็นเครื่องดื่มช็อคโกแลตมอลต์ที่มียอดขายอันดับ 1 ทั่วโลก?
ไมโลแบรนด์ที่แตกต่าง จากรากฐานที่แข็งแรง
ไมโลถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1934 ที่ประเทศออสเตรเลียในช่วงเวลายุคที่เศรษฐกิจถดถอยตกต่ำ เวลานั้นเด็กๆ ต้องประสบภาวะขาดสารอาหาร “โทมัส เมน” นักวิจัยของเนสท์เล่จึงมีความมุ่งหวังที่พัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่มีคุณค่าทางสารอาหาร ให้กับเด็ก ๆ และกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับมายาวนานมากกว่า 80 ปี
ว่ากันว่า โทมัส เมน รักและชื่นชอบในผลิตภัณฑ์ที่เขาคิดค้นเป็นอย่างมาก และเขายังดื่มไมโลทุกวันจนกระทั่งเขาเสียชีวิตเมื่อมีอายุได้ 91 ปี
ไมโลกับความผูกพันในกีฬา
หลายคนอาจไม่รู้ว่าชื่อของผลิตภัณฑ์ไมโลนั้นถูกตั้งขึ้นตามชื่อของนักกีฬากรีกในตำนาน ผู้ซึ่งมีความเชื่อว่าการแบกลูกวัวไว้บนบ่าทุกวันจะทำให้วันหนึ่งเขาสามารถแบกวัวที่โตเต็มวัยได้ นอกจากนี้รูปภาพการแข่งขันกีฬาชนิดต่าง ๆ รวมถึงการแข่งขันโอลิมปิคในปี 1936 จะถูกนำมาใช้ในการสื่อสารถึงคุณประโยชน์ผลิตภัณฑ์ โดยใช้การเล่นกีฬาเป็นการสื่อสารถึงความพยายามและความสำเร็จในชีวิต
คุณประโยชน์ที่เหนือกว่า ด้วยส่วนประกอบที่แตกต่าง
นับตั้งแต่วันแรกที่ถูกคิดค้นขึ้น ไมโลถูกกำหนดให้เป็นเครื่องดื่มที่มีคุณค่าโภชนาการและให้พลังงาน ดังนั้นส่วนผสมที่นำมาใช้ในการผลิตจึงล้วนแล้วแต่เป็นส่วนผสมที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย
เชื่อหรือไม่ว่าไมโลทุกๆ แก้วที่เราดื่มตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ล้วนมีส่วนผสมพื้นฐานที่เหมือนกัน ได้แก่ มอลต์สกัดจากข้าวบาร์เล่ย์ นม โกโก้ น้ำตาล วิตามินและแร่ธาตุ ซึ่งส่วนประกอบสำคัญดังกล่าว ทำให้ไมโลได้รับการยอมรับเป็นเครื่องดื่มโภชนาการของคนทั่วโลก
รู้จัก “โปรโตมอลต์” ในไมโล มีประโยชน์อย่างไร?
“มอลต์” คือสารสกัดจากข้าวบาร์เล่ย์ ที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย จากกระบวนการเปลี่ยนแป้งเป็นกลูโคสและมอลโตส ซึ่งเป็นแหล่งของพลังงานที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ และมีคุณค่าทางสารอาหารที่น้ำตาลไม่สามารถให้ได้ เช่น วิตามิน แร่ธาตุ รวมถึงโพลีฟีนอล
ซึ่งด้วยกระบวนการสกัดมอลต์จากข้าวบาร์เล่ย์ อันเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของเนสท์เล่สวิสเซอร์แลนด์ จนได้เป็น “โปรโตมอลต์”
“โปรโตมอลต์” เป็นมอลต์ที่มีปริมาณของคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ได้แก่ โอลิโกแซคคาไรด์และโพลีแซคคาไรด์ ปกติพบในข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีต ธัญพืชเต็มเมล็ดต่างๆ ซึ่งมีกระบวนการเปลี่ยนจากแป้งเป็นน้ำตาลช้ากว่าคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว ทำให้ร่างกายได้พลังงานต่อเนื่องยาวนานกว่า และยังได้รับวิตามินแร่ธาตุด้วย โปรโตมอลต์จึงเป็นมอลต์ที่เก็บคุณค่าทางโภชนาการจากข้าวบาร์เล่ย์ได้อย่างดี
ที่สำคัญ “โปรโตมอลต์” มีอยู่เฉพาะในผลิตภัณฑ์ของเนสท์เล่ไมโลเท่านั้น! ซึ่งนอกจากคุณค่าโภชนาการที่เหนือกว่าแล้ว โปรโตมอลต์ยังมีรสชาติที่อร่อยและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์
ไมโลทุกๆ แก้ว เต็มคุณค่าด้วยส่วนผสมนม
การใช้ส่วนผสมจากนมนับเป็นข้อแตกต่างของผลิตภัณฑ์ไมโลเทียบกับเครื่องดื่มช็อคโกแลตมอลต์ทั่วๆไป นมเป็นแหล่งของโปรตีน ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโต และช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายและมีแคลเซียมอยู่ตามธรรมชาติ มีส่วนช่วยในการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง ทำให้ผู้ดื่มจึงได้รับคุณค่าสารอาหารที่มีประโยชน์จากส่วนผสมของนมในไมโล
อาทิเช่น ไมโลทรีอินวัน 1 แก้ว จะมีส่วนผสมของนมอยู่ถึง 28%หรือเทียบเท่ากับมีโปรตีนอยู่ถึง 4 กรัมต่อแก้ว และยังมีแคลเซียม 20% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน ในขณะที่ ไมโลยูเอชที ก็มีนมเป็นส่วนผสม โดยมีโปรตีนถึง 5 กรัม และมีแคลเซียม 25% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
ไมโลอุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุถึง 9 ชนิด
การบริโภคผลิตภัณฑ์ไมโล ยังทำให้ได้รับประโยชน์จากวิตามินและแร่ธาตุที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น วิตามิน บี2, บี3, บี6, บี12, วิตามินซี, วิตามินดี, เหล็ก, แคลเซียม และฟอสฟอรัส ซึ่งได้รับการคัดเลือกมาให้ช่วยส่งเสริมการให้ร่างกายมีการเผาผลาญพลังงานที่ได้รับอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูก การคัดเลือกและจัดสรรวิตามินและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ให้คุณค่าต่อร่างกายเหล่านี้เป็นผลพวงจากการค้นคว้าและวิจัยร่วมกันของ Nestle Research Center และศูนย์วิจัยและพัฒนาของเนสท์เล่ที่ประเทศสิงค์โปร์
“วิจัยและพัฒนา” เคล็ดลับสำคัญ สู่ความนิยมทั่วโลก
ด้วยมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและวางจำหน่ายอยู่ทั่วทุกมุมโลก และในฐานะบริษัทผู้ผลิตอาหารอันดับ 1 ของโลก เนสท์เล่จึงให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
โดยปัจจุบันเนสท์เล่ยังมีศูนย์วิจัยทั่วโลก และมีพนักงานด้านวิจัยและพัฒนากว่า 5,000 คนทั่วโลก ที่ทำหน้าที่ศึกษาความต้องการของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไปและโภชนาการที่เหมาะสมกับผู้บริโภค
สำหรับ “ไมโล” เป็นผลิตภัณฑ์ของเนสท์เล่ที่ได้รับการสนับสนุนด้านการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากศูนย์วิจัยและพัฒนาระดับภูมิภาคของเนสท์เล่ ที่ประเทศสิงค์โปร์ และโรงงานสกัดมอลต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกของเนสท์เล่ ที่ไม่หยุดยั้งพัฒนา ทั้งในด้านคุณค่าโภชนาการที่เหมาะสมมากยิ่งขึ้นกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน และทั้งในด้านรสชาติของผู้บริโภคในแต่ละประเทศ รวมถึงการศึกษาถึงแนวคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดต่อเนื่อง
ไมโลทุกแก้วมีปริมาณน้ำตาลที่เหมาะสม กับโภชนาการของคุณหนูๆ
ไมโลเป็นเครื่องดื่มช็อคโกแลตมอลต์ที่พัฒนามาเพื่อเหมาะกับเด็กอย่างแท้จริง จึงให้ความสำคัญกับส่วนผสมที่เหมาะสมกับหลักโภชนาการ โดยผลิตภัณฑ์ไมโลทั้งหมดมีปริมาณน้ำตาลเหมาะสม และเป็นไปตามมาตรฐานโภชนาการของเนสท์เล่ ซึ่งสอดคล้องกับมาตราฐานโภชนาการสากล
รู้จักไมโลมากขึ้นแล้ว ทีนี้ คุณมั่นใจได้ว่าไมโลทุกแก้วคือเครื่องดื่มให้พลังงานและคุณค่าอาหารที่สามารถดื่มได้เป็นประจำทุกวันได้อย่างแน่นอน