เปิดเวทีรับรู้งานประกันสังคม สร้างหลักประกันความมั่นคงผู้ประกันตน
รมว.สุชาติ มอบ ที่ปรึกษาฯ เปิดเวทีสร้างการรับรู้งานประกันสังคม จ.สมุทรสงคราม สร้างหลักประกันความมั่นคงผู้ประกันตน พร้อมประสานงานระหว่างลูกจ้าง นายจ้าง สถานพยาบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
วันนี้ (23 พ.ค. 2565) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานกล่าวเปิดการประชุมชี้แจง ให้ความรู้งานประกันสังคมในจังหวัดสมุทรสงคราม รุ่นที่ 1 โดยมี หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดสมุทรสงคราม ให้การต้อนรับ ณ โรงแรม โคโค่วิว อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม
นางธิวัลรัตน์ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ให้ความสำคัญและมีความห่วงใยพี่น้องผู้ใช้แรงงานที่เป็นผู้ประกันตนทุกคน กระทรวงแรงงาน
- คุ้มครองแรงงาน สร้างหลักประกันความมั่นคงผู้ประกันตน
โดยสำนักงานประกันสังคม ซึ่งมีภารกิจหลักในการให้ความคุ้มครองแก่ลูกจ้าง ผู้ประกันตนที่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ และเสียชีวิตที่ไม่เนื่องจากการทำงาน
รวมถึงการคลอดบุตร สงเคราะห์บุตร ชราภาพและการประกันการว่างงาน เพื่อสร้างหลักประกันและความมั่นคงในการดำรงชีวิตให้แก่ประชาชน โดยเฉลี่ยทุกข์ เฉลี่ยสุข ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคม มีหลักการสำคัญ ที่มุ่งให้ประชาชนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ช่วยเหลือตนเองและครอบครัวในยามที่ไม่มีรายได้ รายได้ลดลงหรือมีรายจ่ายเพิ่มมากขึ้น โดยไม่เป็นภาระให้ผู้อื่นและสังคม การประกันสังคมจึงถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ก่อให้เกิดความมั่นคงในชีวิต
- ประสานงานนายจ้าง ลูกจ้าง สถานพยาบาล และผู้ที่เกี่ยวข้อง
นางธิวัลรัตน์ กล่าวต่อว่า การที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดสมุทรสงครามจัดการประชุมในวันนี้ นับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะจะทำให้ทุกท่านได้มีความรู้ ความเข้าใจในแนวปฏิบัติ
หลักการของประกันสังคม ตั้งแต่ขั้นตอนการปฏิบัติงานของนายจ้าง แนวทางการขอรับสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตน และสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นในแต่ละกรณี รวมถึงช่องทางการให้บริการของสำนักงานประกันสังคม ที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งจะเป็นการสร้างเครือข่าย การประสานงานระหว่างนายจ้าง ลูกจ้าง สถานพยาบาล และผู้ที่เกี่ยวข้อง สามารถติดต่อประสานงานที่ดีต่อกันได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ทำให้การทำงานเพื่อช่วยเหลือพี่น้องผู้ประกันตน มีประสิทธิภาพมากขึ้น เกิดประโยชน์สูงสุดต่อนายจ้าง ลูกจ้าง และผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป