โควิดวันนี้ 10 จังหวัดติดเชื้อสูง กทม. 1,611 ราย จับตาปากน้ำ ชลบุรี โคราช
เช็กอัปเดตล่าสุด "โควิดวันนี้" 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด กทม. ยอด 1,611 ราย จับตาปากน้ำสมุทรปราการ ชลบุรี โคราชนครราชสีมา ขอนแก่น สกลนคร นครนายก ระยอง นครศรีธรรมราช บุรีรัมย์ และปทุมธานี
ที่นี่อัปเดต เกาะติดสถานการณ์ติดเชื้อ โควิดวันนี้ 21 กรกฎาคม 2565 เกาะติดความคืบหน้า สถานการณ์โควิดล่าสุด ติดเชื้อ COVID-19 จากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เช็ก 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด เช็กยอด กทม. มีผู้ติดเชื้อเพิ่มวันนี้ ยอด 1,611 ราย จับตาสมุทรปราการ ชลบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น สกลนคร นครนายก ระยอง นครศรีธรรมราช บุรีรัมย์ และปทุมธานี
วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม 2565 เวลา 11.30 น.
สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ
ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565
ผู้ป่วยรายใหม่ (รักษาตัวใน รพ.) จำนวน 2,607 ราย
ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,345,026 ราย
หายป่วยแล้ว 2,345,449 ราย
เสียชีวิตสะสม 9,375 ราย
----------------------------
ข้อมูลสะสมตั้งแต่ปี 2563
ผู้ป่วยยืนยันสะสม 4,568,461 ราย
หายป่วยแล้ว 4,513,943 ราย
เสียชีวิตสะสม 31,073 ราย
ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 - 20 กรกฎาคม 2565
มีผู้รับวัคซีน สะสมทั้งหมด จำนวน 140,891,107 โดส
----------------------------
วันที่ 20 กรกฎาคม 2565 มีผู้รับการฉีดวัคซีน
เข็มที่ 1 จำนวน 5,504 ราย
เข็มที่ 2 จำนวน 13,121 ราย
เข็มที่ 3 จำนวน 44,951 ราย
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19
ศูนย์ข้อมูลCOVID19
ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ
สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก
วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม 2565 เวลา 10.00 น.
ยอดผู้ติดเชื้อรวม 571,203,053 ราย
อาการรุนแรง 40,511 ราย
รักษาหายแล้ว 541,622,048 ราย
เสียชีวิต 6,395,753 ราย
อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด
1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 91,767,460 ราย
2. อินเดีย จำนวน 43,819,662 ราย
3. บราซิล จำนวน 33,454,294 ราย
4. ฝรั่งเศส จำนวน 33,258,481 ราย
5. เยอรมนี จำนวน 29,994,679 ราย
ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 27 จำนวน 4,568,461 ราย
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19
ศูนย์ข้อมูลCOVID19
สธ. เผย AstraZeneca, Pfizer, Moderna มีประสิทธิผลใกล้เคียงกัน ฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 และ 4 ป้องกันอาการรุนแรงและการเสียชีวิตจาก Omicron ได้
นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ผลการศึกษาประสิทธิผลของวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่เดือน ม.ค. 65 พบว่า การฉีดวัคซีน AstraZeneca, Pfizer หรือ Moderna เป็นเข็มกระตุ้นที่ 4 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสูตรไขว้ heterologous booster vaccination) จะมีประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อจากสายพันธุ์ Omicron ได้สูงถึง ร้อยละ 73 ร้อยละ 71 และร้อยละ 71 ตามลำดับ ซึ่งระดับประสิทธิผลนี้เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ได้รับวัคซีนเพียง 3 เข็ม โดยผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 เข็มกระตุ้นที่ 4 ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนชนิด mRNA หรือไวรัสเป็นตัวนำ มีประสิทธิผลไม่ต่างกันในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 สายพันธุ์ Omicron ในประชากรอายุ 18 ปีขึ้นไป ดังนั้น การสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับประชากรกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะกลุ่ม 608 รวมถึงหญิงตั้งครรภ์ จึงเป็นเป้าหมายสำคัญในการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ได้มากที่สุด ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ลดความเสี่ยงต่อการป่วยหนักและเสียชีวิต
ที่มา กระทรวงสาธารณสุข