"ฝีดาษลิง" ยังไม่พบว่ามีการแพร่เชื้อทางอากาศ
กรมวิทย์เผยผลตรวจเพิ่ม 27 ตัวอย่างเชื่อมโยงผู้ป่วยฝีดาษลิงรายแรกในไทย ส่วนผลตรวจสิ่งแวดล้อมพบเป็นบวก เพาะเชื้อทดสอบกับภูมิฯ คนไทยเคยปลูกฝีดาษ ยันยังไม่พบว่ามีการแพร่เชื้อทางอากาศ ชง รมว.สธ.ปลดล็อกแล็บระดับ 2 ตรวจหาฝีดาษลิงได้
เมื่อวันที่ 25 ก.ค.2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงการตรวจหาเชื้อโรคฝีดาษวานร หรือฝีดาษลิงว่า ขณะนี้มีการส่งสิ่งตรวจมาให้กรมวิทย์ตรวจเพิ่มเติม 27 ตัวอย่างที่มีความเชื่อมโยงกับกรณีผู้ป่วยฝีดาษลิงยืนยันรายแรกของประเทศไทย โดยผลตรวจออกมาเป็นลบทั้งหมด ส่วนการตรวจสิ่งแวดล้อม อาทิ ลูกบิดประตู ผ้าปู ต่างๆ พบว่าผลเป็นบวก แต่ก็ยังบอกไม่ได้ว่า ที่เจอบวกนั้นสามารถแพร่เชื้อต่อได้หรือไม่
“การติดเชื้อฝีดาษลิงต้องมีความใกล้ชิดกันมากๆ ส่วนการสัมผัสสิ่งต่างๆ นั้น โดยปกติ ผิวหนังคนจะมีมาตรการป้องกันเชื้อเข้าสู่ร่างกายอยู่แล้ว ยกเว้นว่า บริเวณผิวหนังมีบาดแผล หรือตามเยื่อบุต่างๆ เช่น ตา จมูก อาจจะมีความเสี่ยงได้ แต่มาตรการที่ใช้ป้องกันโรคโควิด-19 นั้น สามารถป้องกันโรคฝีดาษวานรได้ ทั้งการล้างมือด้วยสบู่ และสเปรย์แอลกอฮอล์ เว้นระยะห่าง”นพ.ศุภกิจ กล่าว
นพ.ศุภกิจ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้มีการนำตัวอย่างเชื้อที่เก็บจากแผลของผู้ติดเชื้อรายแรกในประเทศไทย มาทำการเพาะเชื้อเพิ่มปริมาณ ก่อนนำไปทดสอบกับภูมิคุ้มกันของคนไทยที่เคยปลูกฝีดาษไปก่อนหน้านี้ว่าสามารถป้องกัน หรือทำลายเชื้อฝีดาษวานรได้หรือไม่ เบื้องต้นเชื้อไม่ค่อยขึ้น ขึ้นช้า จึงต้องรอเวลาอีกสักระยะหนึ่ง หากมีความคืบหน้ากรมวิทย์ จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
เมื่อถามว่า มีผู้ออกมาให้ข้อมูลว่า บางสายพันธุ์ของโรคฝีดาษวานร สามารถแพร่เชื้อทางอากาศได้ นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องฟังหูไว้หู ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีการแพร่เชื้อทางอากาศ แม้แต่โรคโควิด-19 ที่ก่อนหน้านี้ออกมาบอกว่ามีการแพร่ทางอากาศ แต่ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ซึ่งไวรัสก่อโรคโควิด-19 เป็น RNA ไวรัสมีขนาดเล็กมากด้วยซ้ำ ขณะที่เชื้อฝีดาษวานร เป็น DNA ไวรัส มีขนาดใหญ่กว่า ดังนั้น โอกาสกลายพันธุ์จะไม่เร็ว
นพ.ศุภกิจ กล่าวด้วยว่า สำหรับการตรวจหาเชื้อฝีดาษวานรในห้องแล็บนั้น ตามพ.ร.บ.เชื้อโรคและพิษจากสัตว์ กำหนดให้ต้องมีการตรวจในห้องปฏิบัติการชีวนิรภัยระดับ 3 (แล็บ) เท่านั้น กรมวิทย์จึงได้จัดทำประกาศเสนอให้รมว.สาธารณสุข ลงนามเพื่อปลดล็อก ให้โรคฝีดาษวานรสามารถดำเนินการตรวจหาเชื้อได้ในห้องแล็บระดับ 2 แต่ก็ต้องมีการเพิ่มมาตรการความปลอดภัยหรือจะเรียกว่า ระดับ 2 + (สองบวก) ทั้งนี้เมื่อรมว.สาธารณสุข ลงนามในประกาศแล้วก็จะทำให้แล็บทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นระดับ 2 หากจะตรวจหาฝีดาษวานรต้องมาทดสอบความสามารถในการดำเนินการจากกรมวิทย์ เพื่อให้การรับรองก่อน
ถามถึงกรณีมีคนเทียบฝีดาษวานรว่าเหมือนโรคอีสุกอีใส นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า แม้เป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคทางผิวหนังเหมือนกัน แต่ไวรัสคนละกลุ่มกัน มีความแตกต่างกัน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์