กวาดล้าง "น้ำสมุนไพร" ผสมสเตียรอยด์ บุก 6 จุดขอนแก่น-ระยอง จับอีก 6 คน
ตำรวจ ปคบ. ลุยจับกวาดล้างน้ำสมุนไพรผสมสเตียรอยด์ เฟส 3 กระจายกำลังค้น 6 จุด “ขอนแก่น-ระยอง” รวบผู้ต้องหา 6 คน ยึดน้ำสมุนไพรกว่า 2 พันขวดอุปกรณ์การผลิตอีกเพียบ พบยาบางตัวผลข้างเคียงภาวะโรคหัวกระดูกสะโพกขาดเลือด ด้านตัวแทน อย. ระบุ เหยื่อส่วนใหญ่คนแก่ซื้อยากินเอง ระยะแรกเห็นผล แต่ใช้ต่อเนื่องเกิดภาวะช็อกได้
ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.ปอท. รรท.รอง ผบก.ปคบ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. พ.ต.ท.สุพจน์ พุ่มแหยม รอง ผกก.4 บก.ปคบ. และ นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการทลายแหล่งผลิตน้ำสมุนไพร ผสมสเตียรอยด์ และแหล่งผลิตภัณฑ์สมุนไพรไม่ได้มาตรฐาน เฟส 3 หลังกระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่ จ.ขอนแก่น และ จ.ระยอง จำนวน 6 จุด จับกุมผู้ต้องหา 6 คน พร้อมตรวจยึดของกลางน้ำสมุนไพรบรรจุขวด จำนวน 2,600 ขวด, อุปกรณ์การผลิต และพยานหลักฐานอื่นๆ อีกหลายรายการ
พ.ต.อ.ธรากร กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นผลจากเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกันกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เข้าตรวจค้นแหล่งผลิต ผลิตภัณฑ์สมุนไพรผิดกฎหมายผสมสารต้องห้าม ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จำนวน 4 จุด จับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 4 คน พร้อมของกลาง
1. น้ำสมุนไพร กว่า 26,000 ขวด
2. ยาเม็ดในกลุ่มสเตียรอยด์ จำนวนกว่า 2,092,000 เม็ด
3. ยาเม็ดแก้ปวดไม่มีทะเบียน จำนวนกว่า 2,224,000 เม็ด
4. ยาเม็ดแก้แพ้ จำนวนกว่า 5,000 เม็ด
จากนั้นจึงเร่งขยายผลกวาดล้างให้หมดไปเพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้ถือเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค
พ.ต.อ.เนติ กล่าวว่า แม้จะมีการกวดขัน จับกุมอย่างต่อเนื่อง แต่ในทางสืบสวนยังพบว่ามีการลักลอบขายน้ำสมุนไพรผสมเสตียรอยด์ในแพลตฟอร์มออนไลน์ และได้รับการร้องเรียนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือน มิ.ย. 2565 พบว่ามีประชาชนบริโภคยากษัยเส้น ตราปู่แดง แล้วได้รับผลข้างเคียงจนเกิดภาวะโรคหัวกระดูกสะโพกขาดเลือด (Avascular necrosis) ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพื้นที่ จ.ระนอง จึงเร่งทำการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม จนทราบถึงแหล่งผลิต และสถานที่จำหน่ายในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และ จ.ระยอง จนนำมาสู่การเข้าตรวจค้นจับกุมได้พร้อมของกลาง
พ.ต.อ.เนติ กล่าวอีกว่า สำหรับจุดสำคัญที่เข้าตรวจค้นครั้งนี้ มีด้วยกัน 2 จุด จุดแรกเป็นอาคารที่ ม.1 ต.แวงใหญ่ อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น พบ นางนภารัตน์ (สงวนนามสกุล) แสดงตัวเป็นผู้ดูแล ตรวจค้นภายในอาคารพบเครื่องดื่มสมุนไพรยี่ห้อปู่แดง, เครื่องดื่มสมุนไพรยี่ห้อเทียนทองคู่, เครื่องดื่มสมุนไพรยี่ห้อนวโกลด์, เครื่องดื่มสมุนไพรตรางามดี และยาเม็ดกลุ่มเสตียรอยด์
พร้อมของกลางที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเครื่องดื่มผสมสมุนไพร จำนวน 33 รายการ ขณะที่จุดสำคัญที่ 2 เป็นอาคารที่หมู่ 2 ต.คอนฉิม อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น พบ น.ส.สุนิสา (สงวนนามสกุล) ตรวจสอบพบเครื่องดื่มสมุนไพรยี่ห้อช้างทอง และและยาเม็ดกลุ่มเสตียรอยด์พร้อมของกลางที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเครื่องดื่มผสมสมุนไพร เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดไว้ทำการตรวจสอบ
พ.ต.อ.เนติ กล่าวว่า จากการสอบสวน นางนภารัตน์ รับว่าซื้อยาสเตียรอยด์มาจาก น.ส.กนกลักษณ์ฯ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ แล้วนำมาผสมน้ำสมุนไพรก่อนนำไปจำหน่าย ส่วน น.ส.สุนิสา ให้การภาคเสธอ้างว่าจำหน่ายน้ำสมุนไพรดังกล่าวให้กับลูกค้าจริง แต่ยืนยันว่าผลิตภัณฑ์น้ำสมุนไพรของตนเองนั้นไม่มีส่วนผสมของยาสเตียรอยด์
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหา
- ผลิตและจำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์หรือมีสิ่งเจือปน
- ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต
- ขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา
- ขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอม
- ขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตํารับ
- ขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาต
- โฆษณาผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาต
ก่อนนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ด้าน นายแพทย์สุรโชค กล่าวว่า สรรพคุณของสเตียรอยด์ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและกดภูมิต้านทานของร่างกาย สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มีผู้ลักลอบนำไปใส่ในยาชุดหรือนำไปผสมกับสมุนไพรขายในรูปแบบต่างๆ ทั้งยาลูกกลอน ยาแผนโบราณ ยาประดง ยาผงสมุนไพร ยากษัยเส้น ใช้กลยุทธ์กล่าวอ้างเป็นสมุนไพรปลอดภัยใช้รักษาสารพัดโรค เหยื่อส่วนใหญ่มักเป็นคนแก่ที่หาซื้อยากินเอง เมื่อทานยาจะเห็นผลระยะแรกๆ แต่หากใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานานจะเริ่มแสดงอาการผิดปกติและเป็นอันตรายต่อร่างกายจนขั้นอาจทำให้เกิดภาวะช็อกได้