‘บ้านกุงแกง เดอ ปาย’ สีสันแห่งวันสบาย

ชื่อแปลกแต่เก๋ คาแรกเตอร์เท่แต่สวย เป็นนิยามที่ไม่ได้มีใครตั้งให้มาตั้งแต่เก่าก่อน ทว่าเป็นสิ่งที่สัมผัสได้ทันทีเมื่อเข้ามารู้จักที่นี่
บ้านกุงแกง เดอ ปาย รีสอร์ท (Baan Kungkang De Pai Resort) มีที่มาจากภาษาถิ่นของเมืองปาย ‘กุง’ แปลว่า เนิน ส่วน ‘แกง’ หมายถึงส้มแกง หรือในภาษากลางคือมะขาม รวมกันเป็นเนินต้นมะขามหรือ ‘กุงแกง’
ถึงจะเห็นเป็นที่พักสุดสวย เต็มไปด้วยแมกไม้นานาพรรณ แต่แรกเริ่มเดิมทีที่นี่ไม่ได้ถูกวางไว้เป็นรีสอร์ทที่พักแต่อย่างใด จุ๊ - อรอนงค์ ตันโสภณ เจ้าของบ้านกุงแกง เดอ ปาย รีสอร์ท บอกว่าเกิดจากความหลงใหลในความเงียบสงบและวิถีธรรมชาติของแม่ฮ่องสอน จนเกิดความฝันที่จะมีบ้านพักหลังเล็กๆ ไว้ได้พักผ่อน และรองรับครอบครัวเพื่อนฝูงที่มาเที่ยวเยี่ยมเยือน
แต่วิถีชีวิตและหน้าที่การงานซึ่งผูกติดกับกรุงเทพฯ ไม่เอื้อต่อการดูแลการก่อสร้างบ้านเล็กๆ ดังกล่าว จึงเปลี่ยนแผนเป็นสร้างที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงรักเมืองปายเหมือนกับเธอ เธอทั้งได้บ้านในฝันและคนหัวใจเดียวกันยังได้ร่วมสัมผัสความอบอุ่นน่ารักนี้ด้วย
ที่ผนังขนาดใหญ่ตรงทางเข้าบ่งบอกได้ถึงความตั้งใจที่จะเนรมิตให้ ‘บ้านกุงแกงฯ’ เป็นดินแดนแห่งศิลปะโดยสอดแทรกมนต์เสน่ห์ของพื้นเมืองเอาไว้ บนผนังซึ่งเปรียบเสมือนกำแพงเมืองหน้าด่านได้รับการรังสรรค์ผลงานศิลปะเล่าถึงวิถีชีวิตของหลายชนเผ่าในแม่ฮ่องสอน ฝีมือของนักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แน่นอนว่าจุดนี้คือฉากหลังของภาพถ่ายความประทับของคนที่มาเยือนบ้านกุงแกงฯ รวมทั้งนักท่องเที่ยวอื่นๆ ที่มาเที่ยวปายแล้วต้องแวะ
“ปายเป็นเมืองศิลปะ นอกจากจะมีธรรมชาติ วิถีชีวิต วัฒนธรรมแล้ว แล้วตัวเองก็ชอบงานศิลปะ อาคารของเราเป็นความแข็ง ดอกไม้สร้างความอ่อนช้อย เรารู้สึกว่าว่าตามผนังตึก การภาพวาดต่างๆ จะเป็นอีกจุดเช็คอินหรือเป็นจุดถ่ายรูปที่น่าจะเพิ่มเสน่ห์ให้เมืองปายได้ เราเริ่มต้นจากน้องคนหนึ่งที่เป็นมะเร็งมาช่วยวาดจุดต่างๆ ในรีสอร์ท แล้วก็ยังมีพื้นที่ว่างหลายส่วน ล่าสุดเราให้น้องนักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาช่วยถ่ายทอดเสน่ห์ของชาติพันธุ์ต่างๆ และวิถีชีวิตชนเผ่า”
ตลอด 10 กว่าปีที่เปิดบริการมา บ้านพักหลากหลายสไตล์ทำหน้าที่ทั้งต้อนรับและเป็นการพักผ่อนสุดชิค เพราะการตกแต่งของห้องแต่ละประเภทไม่ซ้ำกัน ตั้งแต่สีสันยันของประดับ อรอนงค์เลือกสรรมาอย่างดีจากการเดินทางท่องเที่ยวในไทยและต่างประเทศ ของที่ระลึกเหล่านั้นถูกจัดวางอย่างมิกซ์แอนด์แมตช์ โดยไม่อิงกับแนวใดแนวหนึ่ง เธอบอกว่าจะเรโทรก็ไม่ใช่ จะไทยล้านนาก็ไม่เชิง จะวินเทจก็ไม่ขนาดนั้น จึงเป็นการตกแต่งแบบผสมผสานที่ลงตัวบ้างไม่ลงตัวบ้าง ทว่าดีต่อใจ
เจ้าของรีสอร์ทเล่าให้ฟังว่าตอนจะตกแต่งก็เปิดดูจากนิตยสาร จากหนังสือต่างๆ พอชอบหน้าไหนก็เสียบกระดาษคั่นหน้านั้นไว้ แล้วให้น้องที่รู้จักกัน เรียนจบด้านการออกแบบ ได้มาฝึกฝนกับสถานที่จริง ส่วนวัสดุอุปกรณ์รวมถึงของตกแต่ง เธอขึ้นลงเองทั้งกรุงเทพทั้งเชียงใหม่ เพื่อสรรหาสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดมาสร้างรีสอร์ทนี้
จากพื้นที่เดิมเพียง 4 ไร่ กับความตั้งใจแรกที่จะสร้างบ้านรับรอง ขยับขยายมาจนถึงตอนนี้มีเนื้อที่ร่วม 10 ไร่ ทว่าอาณาจักรบ้านกุงแกงแห่งนี้ไม่ได้เต็มไปด้วยอาคารหรือห้องพักจำนวนมาก แต่ให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งทุกคนจะได้ใช้เวลาร่วมกัน ได้ดื่มด่ำกับความงดงามของไม้ดอกไม้ประดับอันเป็นสีสันของบ้านกุงแกง
“บรรยากาศของรีสอร์ทเราปลูกดอกไม้ทั้งปี ทั้งฤดูร้อน ฤดูฝน ฤดูหนาว ให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเข้ามาสัมผัสตลอดทั้งปี พื้นที่จึงไม่ได้เป็นที่พักอย่างเดียว ส่วนหนึ่งเป็นสวนดอกไม้ สวนผัก และส่วนหนึ่งเป็นที่พัก”
สำหรับห้องพักมีทั้งหมด 25 ห้อง แบ่งเป็น 5 ประเภท แบ่งเป็น สวีทตี้ ห้องขนาดใหญ่ถึง 25 ตารางเมตร มี 1 เตียงสำหรับสองคน มีห้องนั่งเล่นแยกเป็นสัดส่วน พร้อมทีวีจอแอลซีดี 32 นิ้ว และช่องเคเบิลทีวี มีทั้งสิ้น 2 ห้อง, ฮันนี่ ห้องขนาดใหญ่ 25 ตารางเมตรเช่นกัน แต่มีทั้ง 1 เตียงสำหรับสองท่าน หรือ 2 เตียงเดี่ยว สิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนกันคือ ห้องนั่งเล่นแยกเป็นสัดส่วน พร้อมทีวีจอแอลซีดี 32 นิ้ว และช่องเคเบิลทีวี มีทั้งสิ้น 6 ห้อง ห้องประเภทนี้จะอยู่อาคารเดียวกับ Information Center ซึ่งสร้างด้วยอิฐ ความน่าสนใจคืออิฐทุกก้อนชาวบ้านมาช่วยกันทำ
ถัดมาคือห้องประเภท แคนดี้ ห้องแนวหวานแหวว พื้นที่ใช้สอย 25 ตารางเมตร เหมาะกับครอบครัวเพราะหน้าห้องมีสนามหญ้า เด็กๆ วิ่งเล่นกันได้ ส่วนห้องประเภท เลิฟลี่ ตกแต่งอย่างเรียบง่าย โทนสีสบายตา มีวิวภูเขาให้พักผ่อนสายตา และประเภทสุดท้าย คือ คิวตี้ มีให้เลือกทั้ง 1 เตียงสำหรับสองท่าน หรือ 2 เตียงเดี่ยว เป็นโซนที่สร้างใหม่ล่าสุด เต็มไปด้วยสีสัน ห้องมีระเบียงเห็นได้ทั้งภูเขา สระว่ายน้ำ
นอกจากห้องพักและบรรยากาศจะดีแล้ว อาหารฝีมือแม่ครัวท้องถิ่นก็เป็นอีกจุดขายของบ้านกุงแกงที่ไม่ควรพลาด ตั้งแต่เรื่องวัตถุดิบสดใหม่ ปลูกเองในสวนของรีสอร์ท ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย เมื่อบวกกับเสน่ห์ปลายจวักของแม่ครัวทำให้ทุกเมนูรสชาติถึงใจ แม้กระทั่งเมนูธรรมดาอย่างผัดกะเพรา กลายเป็นว่าหลายคนติดอกติดใจ เหตุผลหนึ่งเพราะกะเพราก็ปลูกเองและเป็นกะเพราแดง พริกก็ปลูกเอง มีเพียงเนื้อสัตว์เท่านั้นที่ต้องซื้อจากแหล่งอื่น
“แม่ครัวของเรามือหนัก รสชาติเลยถึงใจ” อรอนงค์บอก
ใครที่ได้มาบ้านกุงแกงจะเห็นว่าสีสันและการตกแต่งโดดเด่นมาก แต่ยังอยู่ในจุดที่ ‘พอเหมาะ’ เพราะด้วยแนวคิดของอรอนงค์ที่ว่าต้องถนอมพื้นที่เดิมไว้ ความเป็น Green Zone ของปาย จะเป็นตัวคุมโทนไม่ให้สีสันไปไกลกว่าที่เป็นอยู่ ต้องไม่แปลกแยกจากวิถีวัฒนธรรมของเมืองปายจนเกินไป ด้วยทำเลขนาดนี้ มีฉากหลังเป็นภูเขา องค์พระสีขาว และยอดพระธาตุแม่เย็น เพียงเติมรายละเอียดเล็กน้อย อาทิ กังหันลมสีเหลืองอันเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์ค ก็ครบองค์ประกอบแล้ว
“การจะอยู่กับเมืองท่องเที่ยวแล้วให้คนเข้ามา อย่างหนึ่งคือความแตกต่าง แต่ความแตกต่างต้องเคารพพื้นที่ ไม่ให้หวือหวาเสียจนไม่อิงธรรมชาติและวิถีชีวิต”
จากไม่ตั้งใจกลายเป็นความตั้งใจและมุ่งมั่นอย่างที่สุด รีสอร์ทแห่งนี้จึงเป็นเสมือนสิ่งยืนยันถึงความหลงใหลในเสน่ห์เมืองปายที่อรอนงค์สร้างมาสำหรับคนคอเดียวกัน
***
จุดเด่น : ใกล้ตัวเมืองปาย บรรยากาศดีตกแต่งสวยงาม เงียบสงบ มีสวนดอกไม้หลายชนิด และอาหารอร่อย
ที่ตั้ง : อยู่ที่ตัวเมืองปาย จ.แม่ฮ่องสอน ใกล้วัดกุงแกง
ราคา : 1,000-1,800 บาท แล้วแต่ฤดูกาล
ติดต่อ : โทร. 0 5306 4450, 08 6368 5556 หรือเฟซบุ๊ค baankungkangdepai