ตามหาหัวใจ...ในไทเป

ทริปนี้ไม่ได้มือลั่นแบบไม่ตั้งใจ แต่การมาไทเปในฤดูฝนพรำ เป็นการวางแผนแบบตั้งใจที่จะออกเดินทางเพื่อตามหาอะไรบางอย่าง และอีกหลายอย่าง ที่ไม่อาจหาได้ที่ไหน...
ไทเป...มีทั้งภูเขา ทะเล น้ำตก และสตรีทฟู้ดโดนใจนักกิน เปิดปฏิทินหาวันว่างไปได้ทุกฤดูกาล
น้ำเต้าหู้ในตำนานที่คู่ควรกับการรอคอย
ชื่อเสียงในเรื่องอาหารการกินที่ขึ้นชื่อในความอร่อยในไทเปนั้น เคียงคู่สูสีมากับญี่ปุ่น ฮ่องกง จีน ประมาณนี้ได้เลย ใครชอบอาหารแนวสตรีทฟู้ด เต้าหู้ทอด เสี่ยวหลงเปา บะหมี่ ข้าวหน้าต่างๆ อาหารทะเลปิ้ง และอาหารอร่อย ๆ หลากหลายที่มีให้ชิมตามตลาดหรือสตรีท ฟู้ด ที่บางแห่งมารวมตัวกันมากมายจนยากจะเลือกว่าจะชิมอะไรก่อนดี มาไทเปรับรองถ้าใครไม่น้ำหนักขึ้นกลับไปขอให้มาใหม่อีกรอบได้เลย
เต้าหู้เหม็นในตำนาน
ดังนั้นถ้าหากใครอยากมาตามชิมอาหารอร่อย ๆ แนะนำว่าให้ค่อย ๆ ตามหาไปตามแต่ละที่ที่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวที่คุณอยากไปด้วยจะดีกว่า เพราะถ้าจะตามหาแต่ร้านอาหาร ของกินอย่างเดียว ซึ่งจากที่เราลองเสิร์ชหาดูก่อนออกเดินทางนั้นบอกได้เลยว่ามีมากมาย ที่แค่เห็นภาพ เห็นการรีวิวแล้วก็จะเกิดอาการตัดใจไม่ได้ อยากไปหมดทุกที่ แต่ในความเป็นจริงกระเพาะเราก็มีอยู่เท่านี้ จะเติมเต็มไปหมดทุกอย่างที่ต้องการคงไม่ได้ ก็เลยต้องเช็คให้ถ้วนถี่ว่าอะไรที่อร่อยแน่ หรืออยู่ในเส้นทางที่ต้องการไป เพื่อไม่ทำให้เสียเวลากับการหาร้านอาหารจนพลาดสถานที่ในโปรแกรมอื่น ๆ ที่วางไว้
แต่ในแง่ของความเป็นจริง บางครั้งการเดินทางก็อาจมีอะไรที่ไม่เป็นไปตามแผน อาจมีอะไรที่เราไปเจอโดยไม่คาดคิด หรืออาจมีอะไรที่เข้ามาหักเหความสนใจจนเรายอมเปลี่ยนโปรแกรมแบบกะทันหัน และบางคนก็อาจชอบที่อะไร ๆ จะเป็นแบบนี้ ได้ไปในที่ที่อาจไม่อยู่ในแผน แต่ก็ทำให้รู้สึกดี ได้ชิมอะไรที่ไม่อยู่ในลิสต์ที่เตรียมมา แต่ว่าก็อร่อยชะมัด เพราะถ้าไม่ชอบความตื่นเต้นเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้คุณก็คงท่องเที่ยวแบบซื้อทัวร์ที่จัดทุกอย่างให้แบบเป๊ะ ๆ ไม่ต้องตัดสินใจอะไรเพิ่มเติมอีก ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่ใครจะชอบแบบไหน
เสี่ยวหลงเปา
เราเลือกเที่ยวบินในเวลาที่มาถึงไทเปในเวลาเช้าตรู่ มื้อแรกของที่นี่ก่อนจะเอาของไปเก็บที่โรงแรมก็คือร้านอาหารในสนามบินซึ่งมีให้เลือกพอสมควร มีร้านราเมง ที่คนเยอะตลอดเวลา ร้านกาแฟ ฟาสต์ฟู้ด และอาหารจีนแนวข้าวหน้าเป็ด ข้าวหมูกรอบ แต่เช้า ๆ แบบนี้ เราก็เลยเลือกสั่งโจ๊กหมูเบา ๆ มารองท้องก่อนดีกว่า ก็พอจะไหวอยู่ สำหรับมื้อเช้า จากนั้นก็ออกเดินทางด้วยรถไฟฟ้า เพื่อไปสถานีปลายทาง ที่พักของโรงแรมที่จองไว้ ที่อยู่ไม่ไกลจากย่านตัวเมือง
เต้าหู้ทอด สตรีทฟู้ด ที่ไหนก็มีและอร่อย
หมึกย่างราดชีสเหนียวหนึบ
สำหรับมื้อเช้าวันถัดไป เราก็เริ่มออกไปตามหาร้านน้ำเต้าหู้เจ้าดัง ที่คอนเฟิร์มเลยว่าเป็นร้านอาหารเช้าที่ไม่ควรพลาดเลยล่ะ อาจจะต้องตื่นให้เช้าขึ้นอีกนิดเพื่อไปเข้าคิวรอเข้าร้านซึ่งคิวยาวจากร้านมาถึงริมฟุตบาททุกวัน แต่ก็ยังมีคนเต็มใจรอ น้ำเต้าหู้ที่นี่ไม่เหมือนที่ไหน ขนมปังต่าง ๆ ก็อบสดใหม่ร้อน ๆ ที่อร่อยจริงจัง คุ้มค่ากับการมารอคิว ร้านนี้ชื่อว่า ฟู่หังโต้เจียง (Fu Hang Dou Jiang) เปิดตั้งแต่ตีห้าครึ่งถึงเที่ยง ปิดวันจันทร์ ดังนั้นถ้าใครอยากเริ่มวันใหม่ด้วยของอร่อยดีต่อสุขภาพ ควรมาลอง salty soy milk น้ำเต้าหู้แบบเค็ม เนื้อคล้ายไข่ตุ๋นที่เหลวกว่า มีความเค็มของกุ้งแห้งตัวเล็ก ๆ และซุปมิโซะ กินคู่กับปาท่องโก๋ ได้รสชาติไม่ซ้ำใครที่ทำให้ปลายลิ้นยังจดจำได้มาจนถึงทุกวันนี้
ไทเปวันฝนพรำ...ความทรงจำที่ไม่เคยลืม
เราจะลืมได้อย่างไร ถ้าในฤดูฝนที่คนส่วนใหญ่ไม่ชอบออกไปไหน แต่นี่เรากำลังใส่เสื้อกันฝน เดินถือร่ม พร้อมสะพายกล้อง ท่องไปในสถานที่ต่าง ๆ ที่อยากไปในไทเปอย่างไม่ห่วงกังวลใด ๆ
ความจริงฝนก็ไม่ได้ตกตลอดเวลา เพียงแต่ว่าช่วงที่เราเดินหามุมถ่ายรูปที่ อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ก (Chiang Kai-Shek Memmorial Hall) ช่วงนี้แหละเจอฝนหนักสุด แต่ก็ยังเห็นนักท่องเที่ยวเดินถือร่มกันอยู่ประปราย ภาพร่มหลากสีในสถานที่อันเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของประเทศไต้หวันในที่นี้ มองไปแล้วก็ดูสวยมีเสน่ห์ไปอีกแบบ แม้การถ่ายภาพด้วย ถือร่มด้วย จะต้องใช้ทักษะมากขึ้นเล็กน้อย แต่สารภาพเลยว่า เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลา ที่รู้สึกดี โดยเฉพาะเมื่อก้าวขึ้นบันได 89 ขั้นเท่ากับอายุท่านขึ้นไปบนอาคารที่มีรูปปั้นอันเป็นอนุสรณ์สถานของท่านเจียงไคเช็กตั้งอยู่ และเป็นเวลาที่ทหารผลัดเปลี่ยนเวรยามพอดี เราจึงมีภาพนายทหารหนุ่ม ๆ ในชุดสีขาวกลับมาฝากด้วย ซึ่งกว่าจะถ่ายได้ ก็ต้องใช้กล้องซูมและหลบคนข้างหน้าที่ยืนชมพิธีการเปลี่ยนเวรยามของทหารหนุ่ม ๆ กันแน่นฮอลล์ เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่หากใครมาที่นี่ไม่ควรพลาดมาชม
หน้าประตูทางเข้าอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค
ร้านชาเก๋ ๆ ที่ต้องนั่งกระเช้าขึ้นไป
วันแดดแรงที่พิพิธภัณฑ์กู้กง
บะหมี่ซอสโชวยุที่ร้านชา
เมื่อชมแล้วก็ต้องชิม เป็นของคู่กัน ในอาคารอีกฝั่งของอนุสรณ์สถาน หากหันหน้าเข้าจะอยู่ด้านซ้ายมือ ภายใน National Concert hall ตรงชั้นล่างของอาคาร จะมีร้านชานมไข่มุกแก้วแรกของโลกกำเนิดขึ้นที่นี่ ร้านชื่อ ชุนสุ่ยถัง เปิดในปี 1983 ส่วน ชานมไข่มุก ที่กลายมาเป็นเครื่องดื่มยอดฮิต ก็เริ่มมีขึ้นในร้านนี้เป็นครั้งแรกในปี 1987 ด้วยความบังเอิญที่เกิดจากความชื่นชอบกินบัวลอยของเจ้าของร้านนี้ และเมื่อมีแก้วแรกที่บังเอิญทำกินเองและแจกจ่ายให้เพื่อนบ้านจนหลายคนชอบ ไม่นานก็มีเมนูนี้ในร้านและแพร่กระจายไปทั่วไต้หวัน และนอกประเทศตามที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะประเทศไทยในกาลต่อมา
ในร้านชานมไข่มุกร้านแรกของไทเป
นอกจากชานมไข่มุกที่มีทั้งร้อนและเย็นในตำรับดั้งเดิมแล้ว ที่นี่ยังมีอาหารอร่อยหลายอย่าง ถ้าอยู่ในเวลาของมื้ออาหารที่ใครได้มาพอดี ก็แนะนำเลยว่าไม่ควรพลาด เป็นอีกร้านอาหารและสถานที่สำคัญในไทเปที่ไม่ว่าจะฝนตกหรือแดดออก มีหรือไม่มีใครชวน...ก็ควรมา
วัดหลงซาน
ตามหาต่อไป...ตราบที่หัวใจยังเดินทาง
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเฉพาะในไทเปมีหลายแห่งมาก ถ้าใครวางแผนมาไต้หวันเพียงเมืองเดียว ใช้เวลา 3-4 วัน เท่านั้นก็เพียงพอ แต่ถ้าอยากสั้นกระชับ เลือกไปเฉพาะจุดสำคัญ เดินเที่ยวตลาดต่าง ๆ หาอาหารสตรีทฟู้ด ซึ่งอร่อยมากมาย อาหารตามร้าน ไปเดินย่านชอปปิ้ง และอีกหนึ่งหมุดหมายที่พลาดไม่ได้ โดยเฉพาะคนที่ยังโสดไม่มีใคร หัวใจว่างจนอยากตามหาคู่แท้มาเติมเต็ม เอาเข้าจริง นี่อาจเป็นจุดหมายที่แท้จริงของการมาเยือนไทเปของใครหลายคนเลยก็ว่าได้ ว่าแล้วเราก็รีบไปที่สถานี MRT ไปเที่ยววัด
ลูกชิ้นต้ม
วัดหลงซาน (Lungshan Temple) เป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่อายุเกือบ 300 ปี ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทเป ตั้งอยู่แถบย่านเมืองเก่า สร้างขึ้นโดยคนจีนชาวฝูเจี้ยนช่วงปีค.ศ. 1738 เพื่อเป็นสถานที่สักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวจีน แน่นอนว่าเมื่อเป็นวัดที่มีชื่อเสียงมาก นักท่องเที่ยวที่มาเยือนวัดนี้ก็มากมาย ทั้งคนไทย คนจีน และชาวเอเชียส่วนใหญ่ ที่ต้องการมาขอพร แต่ก็มีชาวยุโรป ต่างชาติที่เข้ามาชมสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่สวยงามมีความคล้ายวัดพุทธของจีนแต่ก็ผสมผสานความมีเอกลักษณ์ในสไตล์ที่โดดเด่นแบบไต้หวันเข้าไปด้วย
หอยปิ้ง สตรีทฟู้ดแถววัด
แรกเริ่มเดิมทีวัดหลงซานสร้างขึ้นเพื่อสักการะเจ้าแม่กวนอิมเป็นหลัก แต่ต่อมาก็มีเทพเจ้าองค์อื่น ๆ ตามความเชื่อของชาวจีนเพิ่มขึ้นมาอีกมากกว่า 100 องค์ และที่ขึ้นชื่อมากเพราะมีหลายคนที่ไปแล้วกลับมาเล่าว่าเทพที่ประทานพรให้นั้นนำความสมหวังในเรื่องความรักได้จริง ก็คือ ผู้เฒ่าจันทรา ที่เชื่อกันว่า เป็นเทพผู้ผูกด้ายแดงให้สมหวังด้านความรัก แน่นอนว่ามีหลายคนทีเดียวที่มุ่งหน้ามาหาผู้เฒ่าจันทรานี้โดยเฉพาะ แต่เรื่องแบบนี้ สำหรับเรา ก็เฉกเช่นเดียวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่มีอีกหลายที่ แต่ละที่ต่างก็ขึ้นอยู่กับความศรัทธาของผู้ที่ไป แต่ก็อย่าได้ท้าทาย แม้ใครที่สมหวัง หรือผิดหวังมาแล้ว บางคนอาจอยากจะเก็บเป็นความลับก็ได้...
ผลไม้เชื่อมหลากสี เสียบไม้ปิ้ง
เรื่องของหัวใจ บางทีเราว่า ก็ขึ้นอยู่ที่การตัดสินใจ ของเราเองด้วยนั่นแล