หนีโควิด-19  เล่นน้ำ...เขาหลวง

หนีโควิด-19  เล่นน้ำ...เขาหลวง

เข้าสู่ฤดูร้อน อากาศเริ่มร้อนอบอ้าว ต้องเข้าป่าหาธรรมชาติ คลายความร้อนรุ่มในจิตใจลงสักหน่อย

 

 

ร้อน.....บอกได้คำเดียวว่าร้อน เจออากาศที่นั่งเฉยๆ เหงื่อก็ยิ่งหยดติ๋งๆ  แบบนี้ เห็นทีจะอยู่ไม่ไหว  ขอออกไปหาป่า หาน้ำแช่ให้ชื่นใจดีกว่า จะขึ้นเหนือก็มีคนจุดไฟเผาป่า จนเจ้าหน้าที่เขาเหนื่อยล้ากันหมดแล้ว  จุดจนค่าหมอกควันไปถึงจุดอันตราย  คนจุดก็ยังไม่รู้สึกรู้สาอะไร ครั้นจะไปอีสาน ฤดูแล้งเป็นฤดูต้องห้ามในการไปเที่ยวอีสาน ดังนั้นเหลือแค่ใต้อย่างเดียว ที่เราจะหาสีเขียวๆ ของต้นไม้ น้ำใสไหลตกลงไปแช่เล่นได้

              

เขาหลวง  นครศรีธรรมราช คือจุดหมายปลายทางครั้งนี้...

              

เมื่อสองสัปดาห์ก่อน เพิ่งพูดถึงนครเลฯที่ขนอมไป  วันนี้มานครฯป่ากันบ้าง  นครศรีธรรมราชนั้น เนื้อที่ส่วนใหญ่จะเป็นป่าเขาเสียมาก  กว้างใหญ่ไพศาลกว่าส่วนที่เป็นทะเล  ในบรรดา 23 อำเภอ มีติดทะเลแค่ สิชล, ท่าศาลา, ขนอม, หัวไทร, ปากพนัง, เชียรใหญ่  นอกนั้นเป็นป่าทั้งหมด ยิ่งเชื่อมต่อกับป่าทางตอนใต้ของสุราษฏร์ธานีด้วย เป็นป่าผืนใหญ่ พื้นที่ชุ่มฉ่ำ ชื่นเย็นแทบทั้งปี

  5 ต้นประกำลังออกใบสีแดงช่วงเดือนมีนาคม.._resize

ต้นประ กำลังออกใบสีแดง

 

อุทยานแห่งชาติเขาหลวง คาบเกี่ยวกับพื้นที่ในหลายอำเภอ ทั้ง อ.เมือง อ.ลานสกา  อ.พิปูน  อ.ฉวาง อ.พรหมคีรี   ฟังชื่ออาจจะคิดว่าไปยาก แท้จริงแล้วไปง่ายมาก  ถนนหนทางค่อนข้างดี ขับรถเล่น เขียว ๆ เย็นตาเย็นใจ  ถ้าจะให้ดี แนะนำไปช่วงเดือนสิงหาคม  เพราะช่วงนั้นผลไม้ใต้จะออก ทั้ง มังคุด ทุเรียน ลองกอง เงาะ  สละ 

 

คนใต้เวลาพูดคุยเสียงดังเอะอะมะเทิ่ง พูดจาห้วนๆ แต่ใจดี ไปเที่ยวสวนผลไม้ทางใต้แทบไม่ต้องซื้อหา เงาะนี่ให้เด็ดกินเลย ถ้าเราเกรงใจเอาไปแต่น้อย เจ้าของสวนยังหักมาให้อีกช่อใหญ่ ใส่ในรถไว้กินระหว่างทาง  ผมไปเจอกับตัว ก็ซึ้งใจ  น้ำใจคนใต้ แม้กระทั่งทุเรียน กินกันไปเถอะ กินให้พอ 

 

ถ้าท่านผู้อ่านไปในช่วงเดือนมีนาคม จะมีลูกประ  ต้นประ เวลามันออกใบอ่อนจะสีแดง ๆ ตอนแรกผมก็ไม่รู้  เอาลูกประมาต้ม ยังกะกินถั่วต้มเลย อร่อยมาก หรือเอามากินกับน้ำพริกก็ได้  ดองก็อร่อย แต่ผมยังไม่ได้ชิม

 

คราวนี้ผมจะชวนไปดับร้อนโดยการแช่น้ำ ต้องไปช่วงนี้ อุทยานแห่งชาติเขาหลวง เป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ พื้นที่ป่าเชื่อมติดกันหลายอำเภอเป็นผืนใหญ่ ลำห้วยลำธารไม่เคยแล้งน้ำ มีน้ำตกขนาดใหญ่  ถ้าน้ำตกใหญ่ขนาดนี้ ฤดูฝนจะน่ากลัว แต่ถ้าฤดูแล้งแบบนี้ กำลังพอดีกับการเล่นน้ำ แช่น้ำ

 

1.น้ำตกกะโรม_resize  

น้ำตกกะโรม             

 

ไปง่าย ไม่ว่าจะเดินทางด้วยรถไฟ รถทัวร์ หรือเครื่องบิน เริ่มต้นที่ตัวเมืองนครฯ  แล้วเช่ารถก็ได้ครับ วันหนึ่งก็เที่ยวหมด ที่แรกที่ต้องไปคือ น้ำตกกะโรม อยู่ในพื้นที่เดียวกันกับที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาหลวง 

 

ออกจากตัวเมืองไปทางตะวันตก  จะเจอสามแยกใหญ่ ที่มีท่ารถ นครฯ-ภูเก็ต  จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปตามถนน 4015  ถนนสายนี้พาเราไปฉวางได้  ก็ไปตามทาง ผ่านทางเข้าบ้านคีรีวง แล้วเลยไป จะเจอทางเข้าน้ำตกกะโรม เลี้ยวเข้าไป ขึ้นเนินไปนิดเดียวก็จะถึงที่ทำการฯ จอดรถที่ลานจอด เดินไป 100 เมตร จะเจอน้ำตก   น้ำตกกะโรม เป็นน้ำตกใหญ่ หน้าน้ำตกเป็นลานหินกว้าง น้ำตกตกลงมาจากภูเขา ไหลลดหลั่นลงมาเรื่อย ๆ แค่เดินขึ้นไปชั้นบน ๆ ก็เหนื่อยแล้ว

 

2. น้ำตกท่าแพ_resize

น้ำตกท่าแพ

              

ทีนี้เราย้อนออกมาใช้ถนน 4015 อีกครั้งหนึ่ง  เลี้ยวขวาไปทางฉวางอีกไม่ไกล จะเจอสามแยกทางเข้า น้ำตกท่าแพ ก็เลี้ยวเข้าไป อีกไม่ไกล จะเจอทางเข้า น้ำตกท่าแพ  เป็นน้ำตกขนาดใหญ่  เรียกว่าถ้ายืนมองห่าง ๆ จะเห็นเลยว่าตกลงมาจากบนภูเขา  แล้วไหลลาดลงมาเรื่อย ๆ บนลานหินกว้างชั้นใหญ่ ๆ  หลายชั้น  เห็นแล้ว แทนที่จะอยากเล่นน้ำ กลับรู้สึกว่าแค่มองเห็นก็ชื่นใจ เพราะน้ำตกมันยิ่งใหญ่อลังการจริง  ๆ แต่ถ้าจะเล่นน้ำ เขาก็มีที่ปลอดภัยให้ลงแช่ลงเล่นได้ 

              

เดินทางต่อไปในเส้นทางถนน 4015 กลับเข้ามาในเมือง มาเริ่มที่ สามแยกท่ารถนคร-ภูเก็ต อีกครั้ง  ใครที่คิดว่า ไหน ๆ ไปทางกะโรมแล้ว จะแวะเที่ยวบ้านคีรีวงซะเลยก็ได้   แต่ภารกิจครั้งนี้ผมจะพาท่านผู้อ่านไปดู น้ำตกเขาหลวง จึงไม่แวะคีรีวง

              

เริ่มต้นที่สามแยกท่ารถนครฯ-ภูเก็ต ใช้ถนน 4016 ที่จะขึ้นไปทางเหนือ ไปนบพิตำ  ไปเรื่อย ๆ จะเจอทางเข้า น้ำตกพรหมโลก  เข้าไปทางขวา จนถึงลานจอดรถของหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ แล้วเดินนิดเดียวก็ถึงน้ำตก  น้ำตกพรมหมโลก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มาก ชั้นแรกที่เห็นคิดว่ายิ่งใหญ่อลังการแล้ว ทางอุทยานฯยังทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้เดินขึ้นไปยังน้ำตกชั้นบน ๆ ได้อีก   ซึ่งมีหลายชั้น ฟอร์มเดียวกับน้ำตกอื่น ๆ คือตกลงมาจากภูเขาสูง แล้วตลอดการเดินทางของสายน้ำเป็นชั้นน้ำตกต่าง ๆ ยิ่งผ่านลานหินกว้างด้วยแล้ว ยิ่งใหญ่สุดประมาณ

  4. น้ำตกอ้ายเขียว ชั้น3หนานบังใบ              

น้ำตกอ้ายเขียว

 

ยังไม่พอแค่นี้ เรายังมี น้ำตกอ้ายเขียว อีกที่หนึ่ง ออกมาใช้ถนน 4016 เลี้ยวซ้ายไปทางนบพิตำ สักพักจะเจอทางเข้าซ้ายมือ  เข้าไปจนถึงหน่วยพิทักษ์ฯแล้วเดินอีกนิดเดียว ก็จะถึง น้ำตกอ้ายเขียว จากครั้งแรกตอนที่เข้าไป จะเห็นเป็นแก่งน้ำขนาดใหญ่ ที่สายน้ำไหลลัดเลาะผ่านก้อนหินลงมา ไม่ได้ใหญ่โตเหมือนสามน้ำตกก่อนหน้านี้   แต่เมื่อได้เดินขึ้นไปชั้นบน ๆ จะเห็นว่า มันไม่แตกต่างกันเลย คือ เป็นน้ำตกใหญ่ที่ตกลงมาจากหน้าผาหินสูง

 

ถนนเส้นเดียวกันนี้ สามารถพาเราไปถึง น้ำตกกรุงชิงได้ แต่ผมขอยกไปไว้คราวต่อไป เพราะน้ำตกกรุงชิง เป็นเรื่องที่ต้องเล่ามาก ๆ คราวนี้เอาน้ำตกที่มาง่าย รถถึง เดินเพียงนิดเดียวก่อน  น้ำตกทุกที่ที่ว่ามานี้ ปกติถ้าไม่ใช่ช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาด จะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันมาก ตลอดทั้งวัน  เป็นน้ำตกที่เชิดหน้าชูตาเมืองนครฯ   แล้วยังมีน้ำตกอีกหลายแห่ง แต่ต้องเดินป่าเข้าไปไกล เอาไว้คราวต่อ ๆ ไป จะเอามาบอกเล่าให้ฟัง

              

ทีแรกกะว่าจะพาท่านผู้อ่านมาเล่นน้ำตก แต่ผมว่า แค่มาดูก็คุ้มค่า เย็นฉ่ำไปถึงใจ แม้ไม่ได้แช่น้ำ  ได้มาเห็นป่าเขียว ๆ ชุ่มฉ่ำ ก็ดีต่อใจแล้ว ฝากไปถึงคนที่อยู่ทางเหนือ ทางอีสาน ที่มีป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ในฤดูแล้งมันก็ผลัดใบแห้งอยู่แล้ว ยังจะไปเผาให้มันร้อนแล้ง เกิดมลภาวะทางอากาศทำไม แค่ไวรัสนี่ยังหนักไม่พออีกหรือ

 

รักบ้านเมืองก็อย่าเผาป่ากันเลย   ขอกันละ...