ออกเดิน...เจริญกรุง

ก่อนประกาศ พรก.ฉุกเฉิน เราออกไปเดินเที่ยวเล่นในหลาย ๆ ย่านในกรุงเทพฯ เริ่มต้นที่ถนนสายเก่าแก่ที่สุด "เจริญกรุง-ตลาดน้อย" ซึ่งเงียบมาก หวังว่าเมื่อเหตุการณ์ไวรัสสงบ ย่านนี้คงกลับมาคึกคักอย่างเคย..
แดดยามบ่ายราวต้นเดือนมีนาคม ยังคงร้อนแรง...เหมือนทุก ๆ ปี เหมือนทุก ๆ ครั้ง เหมือนทุก ๆ ฤดูกาล บ้านเราในวันที่มีแดดนั้นก็มักเป็นแดดที่มีคุณภาพ แรงกล้า ไม่เกรงกลัวว่าใครจะเป็นอะไร...พร้อมจะแผดเผาทุกชีวิตให้เต้นเร่า ๆ ยามที่เผลอต้องเปลวแดด...
แต่ยามนี้เราไม่กลัวแดดอยู่แล้ว ยิ่งจะรักแสงแดดเมืองไทยมากยิ่งขึ้นไปอีก ก็สถานการณ์ไวรัสที่กำลังระบาดอยู่นั้น ว่ากันว่าเจ้าไวรัสตัวนี้มันกลัวความร้อนและแสงแดด แล้วทำไมเราจะไม่ออกไปฆ่ามันให้แดดิ้นไปกับแดดยามบ่ายที่ร้อนจ้านี่เสียเลยล่ะ
ในเมื่อวิกฤติที่มากับโควิด 19 นี้ ทำให้การท่องเที่ยวซบเซา ไม่มีใครกล้าเข้าหรือออกนอกเขตแดนตัวเองกันเท่าไรนัก ขนาดยังไม่ประกาศปิดประเทศหลายคนก็ปิดตัวเองอยู่นิ่ง ๆ ไม่ออกไปไหนต่อไหนเช่นที่เคย แต่เราว่าการขังตัวเองไว้อย่างนั้นก็ไม่ใช่เรื่องพึงจะทำ เพราะจริง ๆ แล้วแม้จะน่ากลัว แต่ถ้าเรารู้ว่าจะป้องกันอย่างไรและใช้ชีวิตอย่างมีสติ ก่อนออกจากบ้านก็แค่เตรียมตัวให้พร้อม มีหน้ากากผ้า เจลล้างมือ แว่นตากันลมกันแดด หมวก ร่ม รองเท้าที่ปิดส้นมิดชิด...
น่าดู-น่าเดิน...เจริญกรุง
ยังคงเป็นที่น่าจับตาและมาแรงสำหรับถนนสายแรกของประเทศไทยที่ชื่อว่าเจริญกรุง จากเมื่อก่อนที่ถนนสายสุขุมวิทไปถึงสีลมนั้นคือย่านที่รถติดหนักมาก ทำให้ผู้คนจากย่านอื่น ๆ จะเดินทางไปในแถบเจริญกรุง บางรัก สี่พระยา ไม่ใช่เรื่องง่าย จะไปก็ต่อเมื่อมีธุระสำคัญ หรือไม่ก็มีร้านอาหารใดที่เรียกร้องอยากให้ตรงดิ่งไปจริง ๆ ทว่าตั้งแต่มีรถไฟฟ้าที่ทำให้การเดินทางมาแถบเจริญกรุงนี้ง่ายดายมากขึ้น สถานที่ต่าง ๆ ในย่านนี้ก็เลยพลอยเป็นที่รู้จักมากขึ้น หลายแห่งมีการแต่งเนื้อแต่งตัวให้ดูดีขึ้น แต่สิ่งที่มีเสน่ห์และทำให้คนอยากมาเยือนย่านนี้ น่าจะเป็นเพราะการที่เจริญกรุงยังมีความเป็นเจริญกรุงในแบบเดิม ๆ อยู่มาก แต่สิ่งที่มีการตกแต่งเพิ่มเติมขึ้นมาก็ยังดูเป็นสีสันที่ดึงดูดคนรุ่นใหม่ ๆ ให้อยากมาค้นหาบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ในย่านเก่าแห่งนี้ ดังนั้นเมื่อลองมองให้ดี หลายมุมในเจริญกรุงก็ยัง...ดูแล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน
อาคารอีสต์เอเชียทิก รอการปรับปรุง
สิ่งที่ดึงดูดให้เราไปย่ำเดินย่านเจริญกรุงอยู่บ่อยครั้ง น่าจะเป็นเพราะในหลายตรอกหลายซอยยังเต็มไปด้วยตึกเก่า ๆ ที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบที่หาดูได้ยาก ไม่ว่าจะเป็น อาคารไปรษณีย์กลาง ที่หลายคนคุ้นตาดีหากได้เคยผ่านไป แต่ความเป็นมาของอาคารรูปทรงทันสมัยใหม่สุด ๆ ในยุค จอมพลป. พิบูลสงคราม แห่งนี้ ก็ยังดูทรงพลัง สง่างาม น่าเกรงขาม และเป็นหนึ่งในอาคารที่โดดเด่นในย่านนี้ ถัดเข้าไปในซอยเจริญกรุง 38 มีตึกเก่าที่เคยเป็นอาคารศุลกสถาน หรือ โรงภาษีร้อยชักสาม ในตำนาน ตึกโบราณที่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายในอดีตแห่งนี้ปัจจุบันกำลังปิดปรับปรุงซ่อมแซมและจะกลับมาเผยโฉมให้คนได้เข้าชมอีกครั้งในอีกราว 6 ปีข้างหน้า ระหว่างนี้ ก็เดินลัดเลาะ ไปถ่ายภาพสวย ๆ และชม สตรีทอาร์ต ในงานเจาะผนังโดยศิลปินชาวโปรตุเกสที่หน้าสถานทูตโปรตุเกสกันไปก่อน นี่คืองานศิลปะที่บ่งบอกถึงความเสรีภาพทางจิตวิญญาณที่แฝงอยู่ของชาวโปรตุเกสที่อยากจะบอกกับทุกคนบนโลก เพราะดูเหมือนทุกคนที่เดินผ่านไปมาก็ไม่มีใครอดจะหยุดมองด้วยความชื่นชมในงานชิ้นนี้ไม่ได้เลย
ย่านนี้ยังมีสถานที่ให้ไปเดินเที่ยวได้อีก ทั้ง Warehouse 30 โกดังเก่าที่กลายมาเป็นสโตร์เก๋ ๆ มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ข้าวของมีดีไซน์ และแม้แต่งานไม้ งานเฟอร์นิเจอร์ มีอาคาร OP.Place ที่เมื่อก่อนคือห้างสิงโต ยังคงรูปลักษณ์ของอาคารเก่าสีขาวที่เต็มไปด้วยร้านของเก่า งานศิลปะ และแกลเลอรี่ และใครชอบเที่ยววัด ลองไปชมกุฏิทรงขนมปังขิงที่เราไม่ได้เห็นบ่อยนักที่ วัดสวนพลู หรือไปนั่งกินโรตีและชาที่ขายอยู่ด้านหน้า มัสยิดฮารูณ มัสยิดเก่าแก่ที่จัดว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญในย่านเจริญกรุง
ชิมเพลิน...ในเจริญกรุง
นอกจากชื่อเสียงทางด้านอาคารสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ที่ยังมีอีกมากในย่านนี้แล้ว ในส่วนของอาหารการกินนั้น ก็ต้องบอกว่ามีของอร่อยมากมายไม่แพ้ย่านไหนเลย ร้านเด็ด ๆ อย่าง เป็ดประจักษ์ ไปกี่ครั้งรสชาติก็ยังขลังและเข้มข้นเหมือนเดิม ยังมี ร้านแสนยอด เป็ดย่างในตำนานที่รสชาติไม่เคยตกเช่นกัน แต่จะว่าไปยังมีก๋วยเตี๋ยวเป็ดร้านเล็ก ๆ ที่เป็นรถเข็นขายในซอยตอนประมาณสี่ห้าโมงเย็นถึงจะออกมาขาย เจ้านี้ก็ใช่ย่อย อร่อยเบา ๆ แต่เร้าใจมากสำหรับมื้อเย็น
เก๋าแต่เท่
อาหารการกินของที่นี่ ตามซอกตามซอยต่าง ๆ ยังมีมากมาย แบ่งเป็นสองรอบการขาย ถ้ามากลางวันอาจจะไม่เจอบางร้านที่จะเริ่มเปิดขายตอนเย็น สี่โมงบ้าง ห้าโมง หกโมงบ้าง แล้วแต่เจ้า ทำเอาเราต้องวิ่งรอกมาที่นี่หลายรอบ เพื่อจะรอชิมบางร้านให้ได้ อย่าง โจ๊กปรินท์ ในตำนาน นี่ก็เช่นกัน แต่ร้านนี้เปิดทั้งสองรอบ เช้าและเย็น เพียงแต่ถ้าเป็นชั่วโมงเร่งด่วนของการกิน บางทีก็ต้องคอยคิวกันยาว ๆ เลย
อาหารอินเดียร้าน อินเดีย ฮัท
ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัดม่วงแค ก็เป็นอีกร้านที่จัดจ้านในเรื่องก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ใครสายเนื้อก็ต้องไปลอง ส่วนใครสายอาหารมุสลิม มีร้านอาหารมุสลิมเก่าแก่ ตั้งโดดเด่นอยู่บนถนนสายนี้มายาวนานเช่นกัน อาหารอินเดียก็มีในซอยเดียวกับสถานทูตฝรั่งเศส หรือถ้าเป็นร้านหรู ๆ หน่อย แต่อร่อยจนทำให้หลายคนรักอาหารอินเดียไปเลย ก็ต้องร้านนี้ อินเดีย ฮัท ไม่ได้อยู่ถนนเจริยกรุงซะทีเดียว แต่ไปตั้งเดี่ยว ๆ อยู่ตรงหัวมุมสุถนนสุรวงศ์ก่อนขึ้นทางด่วนสีลมมานิดเดียว บอกเผื่อไว้ถ้าเผื่อใครไปย่านนี้แล้วอยากไปชิมก็ไม่ไกลกันมาก ที่ดีอีกอย่าคือมีข้อมูลบอกว่าการกินอาหารอินเดียที่อุดมไปด้วยเครื่องเทศนั้น ยังช่วยต้านทานเชื้อโควิด 19 นี้ได้ด้วย แต่ที่มาแนะนำนี่เพราะอยากบอกว่าอาหารร้านนี้รสชาติไม่ได้แรงเกินอย่างที่คิด เป็นอาหารอินเดียแบบที่ใครชิมครั้งแรกก็จะหลงรักได้เลย
ปานิปุริ อาหารว่างแบบอินเดีย
กุหลาบจามุน ของหวานแบบอินเดีย
สี่พระยา ตลาดน้อย...ยังคอยเธอ
ไหน ๆ ก็เดินมาจนเกือบถึงสี่พระยาแล้ว เดินเรื่อย ๆ ชมนก (พิราบ) ชม (บ้าน) ไม้แบบสมัยก่อน ชมวัดวาอาราม ตึกเก่าแบบย้อนยุคมีให้เห็นเป็นระยะ ๆ ในละแวกสี่พระยายังมีห้างเก่าแก่ที่อยู่ริมน้ำเจ้าพระยา มีลานโล่งให้นั่งเล่น รับลมเย็นโชยมาจากแม่น้ำ มีร้านเก่าแก่ที่ขายผลไม้ดองมาหลายสิบปี ลูกค้าประจำแวะเวียนมาไม่ขาด ถัดไปด้านในยังมีร้านเปิดใหม่ในสไตล์อาหารว่างอย่าง Feng Zhu เกี๊ยวซ่าหน้าเปิด ที่แม้เป็นร้านคูหาเล็ก ๆ มีโต๊ะนั่งไม่มากนัก แต่ก็มีคนแวะเวียนมาไม่ขาด ความอร่อยอยู่ที่มีไส้ให้เลือกมากทั้งแบบดั้งเดิม แกงฮังเลแห้ง หมาล่า หรือเห็ด 5 อย่าง และยังมีท็อปปิ้งให้เลือกได้ว่าจะเป็นเป็นชีส ไข่กุ้ง หรือข่แดงเค็ม เรียกว่าเป็นร้านเกี๊ยวซ่าที่มาสร้างสีสันให้กับย่าท่าเรือสี่พระยาได้อย่างแจ่มว้าวมาก
หน้าร้าน Feng Zhu
เกี๊ยวซ่าหน้าเปิด
เดินเลยไปจากสี่พระยาอีกสักประมาณ 2-3 ช่วงตึก ก็จะถึงตลาดน้อยแล้ว ย่านชุมชนชาวจีนเก่าอีกย่านที่มีความเป็นมายาวนาน ในชุมชนมีทั้งตลาด บ้านเก่า ท่าเรือ ศาลเจ้า และที่เป็นสีสันดึงดูดนักท่องเที่ยวมาได้เรื่อย ๆ คือ บ้านโซวเฮงไถ่ บ้านสไตล์จีนโบราณอายุกว่า 200 ปี ที่ยังคงความโบราณไว้ได้จริง และคนที่อยากเข้าไปชมก็ทำได้เพียงสั่งเครื่องดื่มเย็น ๆ สักแก้ว แล้วนั่งชื่นชมความเก่าแก่ที่เหมือนได้หลุดไปอยู่ในอีกมิติของโลกในอดีต
บ้านโซวเฮงไถ่
ในชุมชนยังมีร้านกาแฟรสชาติดีที่น่าไปเยือนคือ mother roaster ตัวร้านที่อยู่บนชั้นสองของบ้านไม้เก่า ส่วนชั้นช่างดูเป็นโกดังที่เต็มไปด้วยเศษเหล็กกอง ๆ อยู่ ดูแล้วไม่น่าเชื่อว่าชั้นบนคือร้านกาแฟ แต่ทุกคนที่ได้เดินมาจนถึงจุดนี้ก็ต้องสะดุดตากับภาพวาดสตรีทอาร์ตที่บอกเล่าวิถีชีวิตคนในชุมชน ที่มีความน่ารัก และเต็มไปด้วยกลิ่นอายของเรื่องราวที่ดูอบอุ่น
สตรีทอาร์ตย่านตลาดน้อย
ในวันที่แดดร้อนเปรี้ยง ๆ เราค่อย ๆ เดินเอียง ๆ หลบเข้าร่มเงาจากระเบียงตึก เส้นทางขากลับคือการค่อย ๆ รำลึก ถึงห้วงเวลา ของอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของถนนเส้นนี้
ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย...แม้ช่วงนี้จะยังงดออกเดินทางไกล ๆ แต่ในกรุงเทพฯ ยังมีอีกหลายย่านที่น่าไป เราจะไม่ยอมจำนนต่อโควิด 19 ตราบใดที่แดดยังแรง และยังมีแรงออกเดิน...