โยคะ...คุณแม่

ก่อนหน้าตั้งครรภ์ คุณแม่หลายๆคนจะมีวินัยในการรับประทานอาหาร เน้นการออกกำลังกายควบคู่กันไป แต่เมื่อตั้งท้องแล้ว ใครแนะนำว่ารับประทานอะไรแล้วดีกับลูก ก็จะบำรุงทุกอย่าง กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็มีน้ำหนักตัวและสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างน่าใจหาย คุณแม่จึงมักบ่นว่า มีลูกแล้วอ้วน ลดยาก แต่พอต้องลดน้ำหนัก ก็กลัวว่าสิ่งนั้นจะส่งผลกระทบแง่ร้ายกับลูก

ส่วน ว่าที่คุณแม่ ผู้กำลังจะตั้งครรภ์ก็กลัวว่าการออกกำลังกายหนักๆจะส่งผลร้ายให้แท้งลูกหรือลูกจะได้รับอันตรายได้หรือเปล่า
หลากหลายความคิด ทัศนคติถูกผิดบ้าง ทำให้คุณแม่หลายคนกลัวการออกกำลังกายไปเสียฉิบ

แต่มีหนึ่งความหวังเข้ามาแทนที่ เมื่อ "โยคะ" เป็นทางออกที่ดีสำหรับทั้งว่าที่คุณแม่ และคุณแม่เต็มตัว และยังรวมไปถึงผู้หญิงทุกกลุ่มที่ร้องยี้การออกกำลังกายหนักๆ แต่ก็อยากมีสุขภาพดี

โยอิชิ โยคะ (YOICHI YOGA) เป็นโยคะที่ผสมผสานรูปแบบการฝึกพลังลมปราณของศาสตร์โยคะและไทชิ โดยเน้นการเดินลมปราณเปิดจุดสำคัญ 7 จุดในร่างกาย เพื่อกระตุ้นการทำงานของไมโครเซลล์ ซึ่งเป็นเซลล์พิเศษของสมองให้สร้างพลังงาน ส่งไปยังการทำงานทุกส่วนของอวัยวะในร่างกาย เช่น กระตุ้นการขยายหลอดเลือด การทำงานของฮอร์โมน ต่อมไร้ท่อ และระบบประสาททั่วๆไป

หลังการฝึกจะช่วยลดความเครียดและผ่อนคลาย รู้สึกสดชื่น มีพลังชีวิตเพิ่มขึ้น หากฝึกอย่างต่อเนื่อง จะเกิดสมดุลของสุขภาพและร่างกายแข็งแรง

ว่าที่คุณแม่ น้อยๆค่อยๆไป
ครูแชมป์-จีระพิมพ์ เลิศโกมลสุข ประจำสถานบริหารร่างกายและความงามครบวงจรสำหรับสุภาพสตรี ฟิลิป เวน เล่าให้ฟังว่า สิ่งสำคัญของการเริ่มโยคะ คือการหายใจให้ถูกต้อง หายใจเข้า ท้องต้องพองออก หายใจออก ท้องจะแฟบ ซึ่งท้องนั้น คือบริเวณเหนือสะดือ ซึ่งเราสามารถเอามากำหนดลมหายใจได้ โดยให้เริ่มที่ปลายจมูก ไปที่คอ ไปที่อก ลงสุดท้อง แล้วเมื่อหายใจออกให้เริ่มที่ท้อง ไปที่อก ต่อที่คอ แล้วสิ้นสุดที่จมูก เวียนไปอย่างนี้เรื่อยๆ
ส่วนปัจจัยสำคัญที่ตามมาคือ ต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่าหักโหม เพราะนั่นอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บ หรือบางทีกลับไปเป็นไข้ก็มี

สำหรับว่าที่คุณแม่ หรือผู้หญิงก่อนตั้งครรภ์ หรือท้องอ่อนๆ เป็นช่วงที่ฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลงมาก ต้องจับมานั่งสมาธิก่อน ให้อยู่กับลมหายใจเข้าออก เพื่อสร้างพลังธาตุน้ำให้ไปหล่อเลี้ยงบริเวณท้องน้อย

จากนั้นอาจเริ่มด้วยท่าโยคะเพื่อกระตุ้นการทำงานของอวัยวะภายในด้วยการกระแทกลม ทำร่วมกับพลังลูกสูบ โดยการนั่งขัดสมาธิ ยืดแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ แล้วกำมือ กระชากแขนลงมาที่หน้าอก พร้อมหายใจออกและเป่าลมออกที่ปาก ร้องโฮะ ทำซ้ำหลายๆครั้ง

ท่าต่อไปให้ยืดตัวและโค้งลงช้าๆ ไม่ต้องให้ท้องแนบสนิทติดกับพื้น กับท่าบิดตัวซ้าย-ขวาในท่านั่งขัดสมาธิ เพื่อสร้างออกซิเจน และทำให้เด็กในครรภ์ได้ผ่อนคลาย

สิ่งที่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ครูแชมป์ บอกว่า เรื่องการยืนแล้วโค้งก้มศีรษะลง อย่าให้กดที่ท้องมากเกินไป และควรหลีกเลี่ยงท่าโยคะที่ใช้หัวไหล่ หรือท่าที่เลือดลมในร่างกายต้องไหลย้อนกลับ

ท่าคลอดง่าย สบายหลังคลอด
ด้านคุณแม่ที่มีอายุครรภ์มากขึ้นแล้ว ให้เริ่มต้นที่การนั่งสมาธิทุกครั้ง เพื่อให้หายใจได้อย่างถูกต้อง จากนั้นให้ทำท่ากระแทกลมด้วยท่วงท่าอ่อนโยน แล้วยืนนวดท้อง โดยใช้ฝ่ามือถูกวนกลับไปกลับมาให้รอบๆบริเวณท้อง จนรู้สึกร้อน ต่อจากนั้นให้ยืดแขน บิดตัว โดยใช้ลมปราณช่วยให้ยืดแขนขึ้น

แต่สิ่งที่น่าสนใจสำหรับคุณแม่ที่ต้องการจะคลอดธรรมชาติ ครูแชมป์บอกว่า อย่าละเลยการขมิบช่องคลอด ในลักษณะขึ้น-ลง เพื่อให้ทารกคลอดง่ายขึ้นนั่นเอง บวกกับการใช้ท่าโยคะเพื่อเดินลมปราณอย่างสม่ำเสมอ คุณแม่ก็จะมีแรงแบ่งน้องออกมาได้มากขึ้น
ส่วนสิ่งที่ควรระวัง ครูแชมป์เผยว่า ท่วงท่าโยคะหนักๆนั้น ควรหลีกเลี่ยงและเปลี่ยนมาบริหารลมปราณให้มากขึ้นจะดีกว่า

เวลาผ่านไป 9 เดือนก็ถึงโอกาสทองของทารกตัวน้อยได้ลืมตาดูโลก ในขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสเหมาะที่คุณแม่จะเข้าคอร์สลดน้ำหนักและสร้างพลังเพื่อให้นมบุตร ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านโยอิชิ โยคะ บอกว่า ในกรณีคลอดธรรมชาตินั้น สามารถเริ่มเล่นโยคะได้ทันทีหลังจากคลอด หรืออยู่ไฟ โดยเน้นท่าโยคะลดสะโพก และหน้าท้องเป็นหลัก

แต่สำหรับคุณแม่ผ่าคลอด ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง เพราะท่าโยคะบางท่าอาจสร้างความเจ็บปวดแผลผ่าตัดได้ ครูแชมป์จึงแนะนำว่าให้เริ่มเล่นหลังจากคลอดประมาณ 3 เดือน และเมื่อเริ่มเล่นให้ใช้ท่าโยคะเบาๆก่อน โดยการยืดอก เหยียดมือไปประสานกันด้านหลัง แล้วกลับมายืดแขนและลำตัวไปด้านหน้า จากนั้นสลับมาบิดตัวไปทางซ้ายและขวา

หากเป็นคุณแม่ที่เคยเล่นโยคะมาก่อนอาจเป็นเรื่องง่ายที่จะลงมือทำ แต่ถ้าเป็นหน้าใหม่ ครูแชมป์แนะนำว่าควรหาสถานที่ฝึกที่เชื่อถือได้ และมีผู้เชี่ยวชาญด้านโยคะสำหรับหญิงตั้งครรภ์อย่างแท้จริง รวมทั้งควรเป็นที่ที่เน้นการสร้างพื้นฐานโยคะที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับคุณแม่และลูกน้อย แแต่ส่งผลพลอยได้ล้ำค่า คือสุขภาพที่ดีทั้งคุณแม่และคุณลูก