ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ จอมปราชญ์หมากล้อม
นักรบในสงครามค้าปลีก ขอเลือกศาสตร์ "หมากล้อม" เป็นเครื่องมือต่อกรกับ "กิเลส" ในตัวตน กับแนวคิดอันชาญฉลาดในการมองทะลุถึงหัวใจคน
ซีอีโอแห่งบริษัท ซี.พี. เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด (มหาชน) "ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์" นักรบในสงครามค้าปลีก ขอเลือกศาสตร์ "หมากล้อม" เป็นเครื่องมือต่อกรกับ "กิเลส" ในตัวตน กับแนวคิดอันชาญฉลาดในการมองทะลุถึงหัวใจคน มีอะไรในกระดานหมากขนาด 361 ตารางเมตร กับเม็ดกลมชิ้นเล็กๆสีดำ-ขาว... ชายผู้นี้มีคำตอบ
หากให้ร่ายประวัติของนักธุรกิจคนนี้ คงต้องใข้กระดาษยาวยิ่งกว่าหางว่าว แล้วถ้า0tให้พูดถึงภาระหน้าที่ ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะนอกจากจะดำรงตำแหน่งตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ อย่าง ซี.พี. เซเว่นอีเลฟเว่น แล้ว เขายังกุมบังเหียนองค์กรเล็กๆแต่ทว่ายิ่งใหญ่ทางปัญญา ในฐานะประธานชมรมและนายกสมาคมกีฬาหมากล้อมแห่งประเทศไทย เขาคือผู้ก่อตั้ง และเป็นผู้ผลักดันกีฬาหมากล้อมให้แพร่หลายในไทยมากกว่า 20 ปีแล้ว จนบางคนตั้งฉายาให้เขาเป็น "บิดาแห่งหมากล้อมไทย" ...อะไรที่ทำให้ศาสตร์การกีฬาระดับโลก อย่าง หมากล้อม หรือ โกะ สามารถสะกดใจผู้บริหารระดับบิ๊กได้ เขาพร้อมไขข้อข้องใจในเรื่องนี้
เริ่มต้นทำความรู้จักกับศาสตร์นี้ได้อย่างไร
จริงๆแล้วผมรู้จักมันตั้งแต่อยู่มัธยมแล้ว ผมอ่านภาษาจีนได้จึงเข้าใจมัน แต่ตอนนั้นการเล่นหมากล้อมยังไม่แพร่หลายในไทย แทบไม่มีอุปกรณ์ขายเลยด้วยซ้ำ เราก็เล่นกันง่ายๆเอากระดุมของแม่ที่มีสีดำและขาวมาแทนเม็ดหมาก เราเล่นกันเองในหมู่คนที่เล่นไม่เป็นเหมือนกัน มันเลยไม่สนุก ผมก็เลยหยุดไปพักใหญ่ๆเลย จนกระทั่งอายุประมาณ 26 ปีได้ทำงานแล้วย้ายไปอยู่ที่ฮ่องกง ผมจึงมีโอกาสได้เล่นหมากล้อมอีกครั้ง คราวนี้เล่นกันเองในหมู่คนไทยและคนจีนที่นั่น ประกอบกับมีอาจารย์ผู้รู้จริง เป็นมืออาชีพมาสอนให้ตัวต่อตัว ก็ยิ่งฝึกปรือฝีมือได้มากขึ้น
ตอนนั้นช่วงที่อยู่ฮ่องกง ผมเล่นได้ 5 ดั้ง (ระดับการเล่นของหมากล้อม) พอได้เรียนกับอาจารย์เฉิน เจีย เว่ย เรียนอยู่ 3 ปี จาก 7 ดั้งเป็น 9 ดั้ง ผมจะอยู่กับอาจารย์ครั้งละ 2 ชั่วโมง หรือไม่ก็เล่นให้จบเกม แล้วก็ให้อาจารย์ท่านเมตตาอธิบายเกมให้ แม้จะไม่ได้เล่นกับอาจารย์แล้ว แต่ทุกวันนี้ มือของผมก็ยังไม่ห่างจากตำราหมากล้อมเลย
หมากล้อมในต่างประเทศเป็นอย่างไร
บรรยากาศการเล่นหมากล้อมในหลายๆประเทศมีจุดที่ไม่เหมือนกันบ้าง ถ้าอยู่ที่ประเทศจีน พวกเขาจะเป็นมืออาชีพกันมาก ถึงขนาดที่คนเล่นเป็นนักกีฬาแห่งชาติ ส่วนที่ไต้หวันก็นิยมเล่นแต่เป็นแค่สมาคมเช่นเดียวกับที่ฮ่องกง ส่วนที่ญี่ปุ่นรายได้ต่ำสุดของเขา เท่ากับคนที่เรียนจบปริญญาตรีในบ้านเราถึง 3 เท่า สูงสุดได้มากปีละหลายสิบล้านเลยทีเดียว
พวกเขาเล่นหมากล้อมเป็นกีฬา ไม่ได้เล่นเอาพนัน แต่เป็นวิชาการจริงจัง ไม่ใช่แค่เกมที่เล่นกันสนุกๆ และหลายๆประเทศอย่างจีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลี พวกเขาเรียนหลักการหมากล้อมกันอย่างจริงจัง บรรจุในตำราเรียน ส่วนในประเทศไทย ก็เริ่มมีหลายคนให้ความสนใจ หลายสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาประมาณ 23 แห่งก็นำมาเป็นวิชาที่มีหน่วยกิต หรือบางแห่งก็ให้เริ่มเรียนกันตั้งแต่ระดับมัธยมแล้ว และสถิติล่าสุดคือคนไทยเล่นหมากล้อมติดอันดับที่ 5 ของเอเชีย
เสน่ห์ของหมากล้อมที่ดึงดูดใจผู้บริหารคืออะไร
มันเป็นเกมที่ยากที่สุด ซับซ้อนที่สุดในโลก เหมือนการเล่นหมากรุกพร้อมกัน 6 กระดาน มันเป็นสงครามที่มีหลายสนามรบ มีชายแดนปะทะรอบด้าน มันเป็นเกมจำลองสนามรบ ที่มีความยากและซับซ้อนเหมือนอยู่ในสงคราม
ความสนุกมันอยู่ที่ศิลปะเฉพาะตัวของแต่ละคน กับการได้รับรู้ถึงศาสตร์หลายสาขา ผมมองว่า หมากล้อม คือ ยุทธศาสตร์ เนื่องจากเป็นการรบประชันกำลังของกองทัพหมากดำและหมากขาว ในการช่วงชิงครอบครองชัยภูมิขนาด 361 ตารางเมตร โดยที่ต่างฝ่ายต่างมีกำลังทหารเท่ากัน และไม่มีฝ่ายใดอยู่ในสภาวะที่ได้เปรียบและเสียเปรียบก่อนการประจัญบาน
เด็กๆหลายคนชอบหมากล้อม เพราะได้ฝึก คณิตศาสตร์ เนื่องจากความสำคัญของเม็ดหมากและความได้เปรียบเสียเปรียบของกองกำลังหมากบนกระดานศึก แม้กระทั่งการพลิกแพลงของรูปเกมตลอดการแข่งขัน ล้วนคิดคำนวณด้วยหลักการคณิตศาสตร์ทั้งสิ้น
แต่ที่สำคัญ มันสะท้อน ปรัชญาและแนวคิด บนกระดานหมากที่ทุกคนเห็นว่า เม็ดหมากแต่ละเม็ดที่ถูกหยิบวางลงนั้นอยู่ในสภาพที่แน่นิ่ง แต่แท้จริงแล้วในความสงบนิ่งมีการเปลี่ยนแปลงและเคลื่อนไหว ซึ่งเกิดจากปัจจัยและเงื่อนไขที่ส่งผลให้รูปหมากเกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการรุกโจมตี การรักษาพื้นที่ครอบครอง และการต้านรับกองกำลังฝ่ายตรงข้าม สิ่งเหล่านี้ล้วนผันเปลี่ยนเคลื่อนไหว นักหมากล้อมที่มีไหวพริบเชาว์ปัญญา และช่างสังเกตย่อมเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่ซ่อนเร้นอยู่บนกระดานหมาก ทำให้มีโอกาสกำชัยชนะได้มากกว่า
ท้ายที่สุด นี่คือ ศิลปะการชิงชัย เนื่องจากลักษณะของเม็ดหมากทั้งหมดบนกระดาน ความงามและประสิทธิภาพสูงสุดของการจัดวางรูปหมากและแนวความคิดในการวางหมากทุกเม็ด ล้วนดึงดูดความสนใจของทั้งผู้เล่นและผู้ชมในฐานะที่เป็นความงามทางศิลปะ แต่เป้าหมายที่สูงสุดที่แท้จริงไม่ใช่เพื่อการชื่นชม หากแต่เพื่อกำชัยชนะเป็นสิ่งสำคัญซึ่งจะเพิ่มความหมายของเม็ดหมากให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น กล่าวโดยตรงก็คือ แพ้ชนะคือเครื่องมือตัดสินความแข็งแกร่งและความอ่อนแอ ของรูปหมากทั้งกระดาน
บางคนว่าหมากล้อมเหมือนการศึกษาธรรม
นอกเหนือจากศาสตร์ต่างๆในทางโลกแล้ว การเล่นกีฬาหมากล้อมยังช่วยให้ผู้เล่นได้ประโยชน์ทางทางธรรมด้วย หากผู้เล่นสามารถเล่นอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ คิดเป็นขั้นตอน ฝึกสมอง ฝึกสมาธิ และมีความจำดี
ผมว่านอกเหนือความจำที่ดีเลิศอันเกิดจากการสมาธิที่เกิดจากการฝึกฝนกีฬาหมากล้อมแล้ วผู้เล่นกีฬาประเภทนี้จะได้ประโยชน์ทางทักษะทางปัญญา 11 ประการด้วย เหมือนเล่นเกมชีวิต แนวคิดของคนเล่นจะถูกอิทธิพลของหมากล้อมชักจูงไปในทิศทางต่างๆ ได้ทั้งไอคิวและอีคิวไปพร้อมๆกัน
หนึ่ง คือเขาจะได้การวางแผน ตัดสินใจโดยใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ สอง คือความสำเร็จจะเกิดจากการผสมผสานระหว่างนโยบาย กลยุทธ์และยุทธวิธีที่ดีพร้อม มิใช่เพราะโชคช่วยหรือความบังเอิญ สาม คือ การปรับกลยุทธ์ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ทำให้ยอมรับความจริงและพร้อมที่จะปรับปรุงบทบาทตามสถานภาพใหม่
ทักษะทางปัญญาอย่างที่สี่ คือ พวกเขาจะได้เรียนรู้ว่าควรใช้ทรัพยากรทั้งหลาย เพื่อพัฒนาเสริมสร้างความมั่งคงของตัวเอง ไม่ควรใช้เพื่อทำลายฝ่ายตรงข้าม เพราะกำลังที่มุ่งใช้เพื่อทำลายมักมีปฏิกิริยาย้อนกลับที่รุนแรง ชนะได้โดยที่ไม่คิดเอาชนะ ยิ่งเราอยากชนะ เราจะยิ่งแพ้ แต่ไม่ใช่ในกรณีที่ผู้เล่นมีความเก่งสูงต่ำต่างกันมากเกินไป เพราะอย่างไรคนที่เก่งกว่าก็ต้องชนะอยู่แล้ว และ ห้าคือ ไม่มีใครได้ทุกอย่างทั้งหมด เมื่อได้มาต้องเตรียมเสีย เมื่อเสียไปแล้วค่อยหาทางได้กลับมา นี่คือโอกาสดีที่สุดที่เราจะได้ฝึกต่อสู้กับกิเลสของตัวเองอย่างแท้จริง
ส่วนข้อที่หก การเล่นหมากล้อมแต่ละครั้ง เราจะรู้ว่าต้องการอะไร มันจึงช่วยสอนให้เราจัดลำดับความสำคัญของงานต่าง ๆ โดยเฉพาะงานด่วนต้องทำก่อนงานใหญ่เสมอ เนื่องจากเราทุกคนมีทรัพยากรเท่าๆกันคือ เวลา เราจะจัดสรรการงาน ครอบครัว เพื่อน สังคม และส่วนตัวของเราอย่างไร หมากล้อมช่วยให้เราสามารถจัดดุลยภาพระหว่างเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในชีวิตเสมือนการดูแลสนามรบต่าง ๆ ในสงคราม อย่าชนะในสนามรบแต่แพ้สงคราม เพราะสงครามครั้งนี้คือส่วนต่างๆของสังคม
ผมทำงานค้าปลีก ย่อมมีคู่แข่ง เราจะไม่มุ่งไปทำลายเขา เพราะการจะใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ทุ่มเทไปเพื่อทำลายเขา มันยิ่งทำให้เราแพ้ ถ้ามุ่งไปทำร้ายคนอื่น เราจะยิ่งแพ้ หากคิดจะเอาเปรียบเขา กระดานหมากนี้จะสอนให้คุณรู้ว่า ฝ่ายตรงข้ามจะกลับมาทำร้ายคุณ และทำให้เจ็บปวดกว่าที่คุณคิด ซึ่่งตรงกับปรัชญาของหมากล้อมข้อที่ 7
มาถึงข้อที่ 8 หมากล้อมคือการศึกษากำลังที่เกิดจากการรวมตัวเป็นกลุ่มของหมากบนกระดาน การเปรียบเทียบกำลัง การสะสมกำลัง การป้องกันการเสื่อมสลายของกำลัง ทำให้เราใช้กำลังอย่างมีธรรมะเพื่อการสร้างสรรค์ และหลังจากนั้นก็ทำให้เรารู้จักประมาณตนและเคารพผู้อื่น ในฐานะที่ต่างก็มีโอกาสเท่าเทียมกัน ดังปรัชญาข้อที่ 9
ในขณะที่ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายมีฝีมือทัดเทียมกัน คนแพ้คือคนที่ทำผิดมากกว่า เพราะฉะนั้นการแพ้จะให้ประโยชน์ในด้านการเตือนสติ ให้สำรวจตัวเองว่าเราได้ทำผิดอะไรบ้าง จุดบกพร่องอยู่ที่ไหน ในขณะเดียวกันก็ทำให้เราลดอีโก้ของตัวเองลงไปได้ เพราะไม่มีใครชนะหรือแพ้ไปตลอด ยิ่งแพ้บ่อยๆความยึดถือตัวตนก็จะน้อยลงไปเรื่อยๆ ตรงกับหลักการข้อที่ 10 และสุดท้ายคือสิ่งมีค่าสูงสุดที่ว่า หมากล้อมช่วยให้เข้าใจเรื่อง ความเปลี่ยนแปลง อันเป็นสัจจะของธรรมชาติของสิ่งทั้งหลาย ตามเหตุปัจจัย ไม่ยึดติด ช่วยยกระดับจิตใจให้เข้าถึงความว่างความสงบอันเป็นคุณภาพจิตขั้นสูงสุด
หากไม่เคยเล่นหมากล้อม ควรเริ่มต้นเมื่อไร
การฝึกทำได้ไม่ยาก พ่อแม่อาจให้ลูกเล่นได้ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ให้เขาค่อยๆเริ่มเรียนรู้ หากเริ่มต้นตั้งแต่เด็กพวกเขาจะไม่รู้สึกว่ามันยากเกินไปนัก ตอนผมนำหมากล้อมมาเผยแพร่ช่วงแรกๆ ต้องสื่อสารหลายรอบมาก เพราะหมากล้อมมีข้อเสียอย่างเดียวเลย คือเข้าใจยาก ไม่เหมือนการดูกีฬาประเภทอื่น แต่ถ้าเริ่มเข้าใจและเข้าถึงมัน กีฬาชนิดนี้จะสนุกมาก
เด็กหลายคนที่เข้าสู่การแข่งขันในสนามต่างๆ พวกเขาจะได้มีโอกาสฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังได้ประมือกับผู้เล่นที่มีทักษะใหม่ๆ มาแลกเปลี่ยนฝีมือกัน ยิ่งได้เล่นเป็นทีม ก็จะยิ่งฝึกเรื่องการแบ่งหน้าที่และช่วยเหลือเติมจุดอ่อน ย้ำจุดแข็งให้กันและกัน ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา กีฬาหมากล้อมได้ถูกทำให้แพร่หลายทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ มีการจัดการแข่งขันทั้งในระดับเยาวชน มหาวิทยาลัย ระดับจังหวัด ระดับประเทศ และนานาชาติ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นโอกาสที่ดียิ่งที่นักกีฬาหมากล้อมของไทยจะได้มีโอกาสพัฒนาฝีมือ พัฒนาศักยภาพของตนเองให้ทัดเทียมนานาประเทศ
และล่าสุดนักกีฬาไทยสามารถคว้าอันดับ 2 ในการแข่งขันกีฬาหมากล้อมจีนโลกปีนี้ ยังเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพของนักกีฬาหมากล้อมไทยว่าสามารถฝึกฝน และสามารถพัฒนาให้เติบโตได้ต่อไป แต่นั่นก็เป็นแค่เพียง 1 ใน 4 ของชีวิต เพราะอีก 3 ใน 4 หากพวกเขาได้ลองติดใจในหมากล้อมแล้ว นี่คือห้วงเวลาส่วนใหญ่ที่เขาจะฝึกปรือฝีมือตัวเองอยู่เสมอ
ถ้าจะเล่นตอนโตแล้ว ทำงานแล้ว ก็ยังไม่สายเกินไป แต่ควรมีครูแนะนำ ช่วยเหลือในการเล่นสัก 6 เดือนถึง 1 ปี จึงค่อยไปเรียนในคอร์สที่สูงขึ้นได้ หลายคนมักบ่นให้ผมฟังว่าไม่อยากเล่นหมากล้อมต่อแล้ว อาจด้วยเหตุผลหลายอย่าง แต่ผมอยากให้คนที่เล่นอยู่กระหายที่จะเล่นต่อไป ในขณะเดียวกันก็ต้องสามารถดึงตัวตนออกมาจากอารมณ์เสียจากการพ่ายแพ้ให้เป็น แล้วเราก็จะซาบซึ้งถึงปรัชญาอย่างที่ผมกล่าวมา Enjoy ในประโยชน์จากการเล่นหมากล้อมอย่างเต็มที่