สวยระดับเซลล์(สมอง)

กระแสความแรงของเฟเชียล ดีไซน์ กลายเป็นนวัตกรรมที่มากกว่า "ตัวช่วย" ด้านความสวยความหล่อที่เป็นธรรมชาติ
กระแสความแรงของเฟเชียล ดีไซน์ (Facial Design) กลายเป็นนวัตกรรมที่มากกว่า "ตัวช่วย" ด้านความสวยความหล่อที่เป็นธรรมชาติ หากแต่ขยายวงไปสู่การดีไซน์รูปหน้าเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องให้โหวงเฮ้งออกมาดูดี
แม้ว่า หลักการบำบัดรักษาด้วยเซลล์เกิดขึ้นนานมากแล้ว และคนที่เป็นปรมาจารย์ด้านนี้คือ นพ.พอล นีฮาน ซึ่งใช้การรักษาด้วยเซลล์ให้กับบรรดาผู้มีชื่อเสียงในสมัยก่อน จากนั้นมีการศึกษาพัฒนาศาสตร์ด้านนี้มาอย่างต่อเนื่อง แต่ที่แพร่หลายและถือว่าการบำบัดด้วยเซลล์เป็นเรื่องถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้งยังสามารถนำเงินเข้าประเทศมากมายมหาศาลคือที่ประเทศเยอรมนี ที่ส่วนใหญ่ใช้เซลล์จากแกะ หรือที่เรียกว่า เซลล์สด (Live Cell) ซึ่งต่างจากการใช้สเต็มเซลล์จาก “คน”
เทคโนโลยีด้านการแพทย์จากต่างประเทศ เข้ามามีอิทธิพลในแวดวงความสวยความงามมากขึ้น และหลากหลายขึ้น เมื่อผนวกเข้ากับกระแสนิยมของผู้บริโภคที่เติบโตอย่างรวดเร็ว อาจส่งผลให้ “คุณภาพ” “มาตรฐาน” ด้านการบริการของสถานประกอบการ ตลอดจนบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางไม่เพียงพอ
จำเป็นหรือไม่ที่ต้องเร่งหาความรู้ และทำความเข้าใจอย่างท่องแท้ ก่อนที่ "เพื่อน -พี่-น้อง" หรือแม้แต่ "ตัวคุณเอง" จะตัดสินใจเลือกฉีดอะไรเข้าไปในร่างกาย
นพ.ธนพล ทองประเสริฐ ผู้อำนวยการดอกเตอร์ซีเคร็ท อธิบายว่า วิธีการเสริมความงามส่วนใหญ่อาจช่วยได้เพียงแค่ลดเลือนริ้วรอยหรือรอยเหี่ยวย่น เช่นเดียวกับการทำศัลยกรรมเพียงอย่างเดียว ก็เป็นเพียงแก้ไขเฉพาะจุด เช่น การทำจมูก เหลากราม ซึ่งเป็นการปรับแก้แบบแยกส่วนจึงทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ
ขณะที่การปรับแก้ไขข้อบกพร่องของรูปหน้าแต่ละคน หรือที่เรียกว่า The Best Facial Design ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่าง Reshape, Refill, Resurface และ Cell Therapy ทำให้การปรับรูปหน้าดูเป็นธรรมชาติ ดูหน้าเด็กหรือทำหน้าให้อ่อนเยาว์ เสริมร่องให้ตื้น ทำหน้าเรียวเล็ก
“เดอะ เบสท์ เฟเชียล ดีไซน์ สามารถปรับแก้จุดบกพร่องหลายส่วนๆ พร้อมกันในครั้งเดียว แต่การรักษาต้องเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป และที่สำคัญต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะเป็นนำเอาเทคโนโลยีทางการแพทย์ต่างๆ หลากหลายวิธีร่วมกัน ดังนั้น จากที่เป็นข่าวส่วนใหญ่เกิดจากการผู้ที่ไม่มีความรู้ ความชำนาญที่แท้จริง สวยระยะสั้น แต่ส่งผลร้ายระยะยาว ไม่คุ้ม”
แน่นอนว่าแพทย์ที่ต้องมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ แต่การที่จะฉีดอะไรเข้าไปในร่างกาย ก็ต้องมั่นใจเช่นกันว่า “ปลอดภัย” โดยเฉพาะเมื่อ สเต็มเซลล์ สิ่งมีชีวิต พร้อมจะเปลี่ยนแปลง เมื่อมีภาวะเหมาะสม ที่โชคร้ายอาจกลายเป็น “มะเร็ง”
สเต็มเซลล์ที่นำมาใช้เพื่อฟื้นฟูความเสื่อมของร่างกาย หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านความงาม (Anti-Aging) เป็น Mesenchymal Stem Cell (MSC) เพราะเมื่อนำมาใช้กับคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของเซลล์จะมีโอกาสเกิดการต่อต้านน้อยกว่าเมื่อเทียบกับสเต็มเซลล์ชนิด Hematopoietic Stem Cell (HSC)
สำหรับสเต็มเซลล์ MSC สามารถเก็บได้จากเนื้อเยื่อสายสะดือ และเซลล์ไขมัน
“การใช้สเต็มเซลล์จากคนไข้เองเพื่อการรักษามักจะไม่ได้ผลดี เพราะคนไข้ที่จำเป็นต้องใช้ มักมีอายุมากแล้ว ส่วนใหญ่ที่มีปัญหาด้านริ้วรอยก็จะมีอายุ 35 ปีขึ้นไป จำนวนสเต็มเซลล์เหลือน้อยลง อายุเซลล์สูง เมื่อนำมาเพาะเลี้ยงก่อนนำกลับไปฉีดใหม่ก็คุณภาพของเซลล์ก็ไม่ดีเท่าเซลล์อายุน้อย และยังต้องรอเวลาในการเพาะเลี้ยงอีก 1-3 เดือน จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยม”
เมื่อมีความรู้ความเข้าใจแล้วว่า ความต้องการของตนเองคืออะไร สเต็มเซลล์ประเภทใดที่จะตอบโจทย์ความต้องการ และสเต็มเซลล์สำเร็จรูปขายก็ไม่มีขายทั่วไป ขั้นตอนต่อไปที่ต้องรู้คือ สเต็มเซลล์ที่จะนำมาใช้จึงต้องผ่านทั้งกระบวนการทางแล็บ เพื่อทำการเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ ในสภาวะที่เหมาะสม ทั้งอาหารและสิ่งแวดล้อม
สเต็มเซลล์ต้องถูกจัดเก็บไว้อย่างดี ซึ่งปัจจุบันมีธนาคารที่รับเก็บสเต็มเซลล์ในประเทศไทยหลายแห่งเช่น Cryoviva, Thai Stemlife และกรุงเทพสเต็มเซลล์
นอกจากนี้ สถานประกอบการที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ ก็คือ อีกปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้ปัจจัยต่างๆที่กล่าวมาข้างต้น เพราะไม่เช่นนั้นแล้วท้ายที่สุด คุณก็จะไม่ได้ของดีกลับไป
สำคัญอย่าลืม ตรวจสอบราคาก่อนตัดสินใจ...เพียงเท่านี้ก็สวยได้อย่างปลอดภัย