เนโกะจัมพ์ ทูตรักสัตว์ สองสาวรักษ์โลก

การทำร้ายสัตว์มีให้เห็นอยู่ทุกวัน แต่ผู้เสพข่าวเห็นเป็นเรื่องธรรมดา..หรือ? นั่นไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับสองสาวฝาแฝด "เนโกะจัมพ์"
การทำร้ายสัตว์มีให้เห็นอยู่ทุกวัน แต่ผู้เสพข่าวเห็นเป็นเรื่องธรรมดา..หรือ? นั่นไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับสองสาวฝาแฝด "เนโกะจัมพ์" แจม-ชรัฐฐา และ เนย-วรัฐฐา อิมราพร เธอทั้งสองเดือดร้อนกับการกระทำอันป่าเถื่อนของมนุษย์ และจะทำทุกวิถีทางในฐานะทูตสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย เป็นกระบอกเสียงของเพื่อนร่วมโลก
“สัตว์แต่ละชนิดที่อาศัยอยู่บนโลกนี้ ต่างก็มีชีวิตเลือดเนื้อ และมีความรู้สึกเจ็บปวดเช่นเดียวกับมนุษย์” จึงไม่เป็นการสมควรที่มนุษย์ทุกหมู่เหล่า โดยเฉพาะคนไทยจะไปทำร้ายทารุณสัตว์
ต้องยอมรับว่าประเทศไทย ถึงแม้จะมีหน่วยงาน หรือองค์กร เกี่ยวกับสวัสดิภาพสัตว์อยู่บ้าง แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดที่ให้ความสนใจกับปัญหาการทารุณสัตว์อย่างจริงจัง ยังมีการละเมิดสิทธิสัตว์หรือทารุณสัตว์ ทั้งโดยเจตนาและรู้เท่าไม่ถึงการณ์อยู่ดาษดื่น จนถูกตราหน้าจากนานาอารยประเทศและถือเป็นข้ออ้างในการกีดกันทางการค้ามาแล้ว
แล้วเราจะหาทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการทารุณสัตว์ สร้างความรู้ ความเข้าใจ และในด้านการเสริมสร้างจิตสำนึกแห่งความเมตตาให้แก่ผู้คน โดยให้มีส่วนร่วมในการสอดส่องป้องกันการทารุณสัตว์ และมีบทบาทในการรณรงค์แก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิสัตว์ รวมถึงการเร่งให้มีกฎหมายสวัสดิภาพสัตว์ได้อย่างไร ...คงต้องอาศัยฑูตสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย" หรือ TSPCA (Thai Society for the Prevention of Cruelty to Animals) เพื่อเป็นปากเป็นเสียงแทนสัตว์น้อยใหญ่เสียแล้ว
สองสาวเนโกะจัมพ์ แจม-ชรัฐฐา และ เนย-วรัฐฐา อิมราพร ศิลปินค่ายกามิกาเซ่ คือกระบอกเสียงล่าสุดของสมาคมฯ ซึ่งก่อนหน้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ บรรดาแฟนคลับต่างรู้กันดีว่า เธอทั้งคู่หลงใหลเสน่ห์ของเจ้าสัตว์ขนฟูขนาดไหน และหากมีใครขอความช่วยเหลือให้กับสัตว์ สองสาวก็ไม่ท่าทีรีรอ
กายใจ : แล้วเรามีความผูกพันกับสัตว์อย่างไรบ้าง
เนย : หนูพูดกับสัตว์ได้ (หัวเราะ) ชอบสัตว์อยู่แล้ว ตอนเด็กๆคุณพ่อก็ซื้อหมาให้เลี้ยง เลี้ยงแต่สัตว์เลี้ยงธรรมดา แต่พอเริ่มจะโต ก็เลี้ยงเต่าญี่ปุ่น ปลาทอง ปลาคราฟ ปลาบอลลูน กระต่าย หนู แล้วก็กระรอก เลี้ยงหลายสิ่ง และตอนนี้เลี้ยงจิงโจ้บินอยู่ค่ะ
แจม : ที่เห็นเราเลี้ยงเยอะขนาดนี้ไม่ใช่ว่าอยากเลี้ยงมากขึ้น แต่เวลาเราเห็นสัตว์แล้ว มันเหมือนตัวดึงดูด ให้เราชอบ เพราะสัตว์เลี้ยงทำให้เราสบายใจ อย่างคนที่รักสัตว์เหมือนกัน จะรู้ว่าเลี้ยงสัตว์ทำให้เรามีความสุขมาก มันจะผ่อนคลาย ช่วงเวลาที่เราเล่นกับเขา เราได้อยู่กับเขา เหมือนเราได้พักผ่อน
เนย : คำว่าเรงดึงดูดระหว่างเรากับสัตว์เลี้ยง เราไม่ได้เลือกเพราะว่าตัวนี้หน้าตาน่ารัก เราไม่คิดอย่างนั้น แต่มันจะมีความรู้สึกว่า เราเห็นหน้าเขา เราถูกใจตัวนี้ และเราอยากได้เขามาอยู่ด้วย
แจม : อย่างหนูกับเนย เราจะไม่คิดก่อนว่าเราจะเลี้ยงหมาพันธุ์อะไร สีอะไร แค่รู้สึกว่า มันจะมีสักตัวสองตัวที่เราถูกตาต้องใจ เราไม่ได้มีเป้าไปก่อนว่า เราจะซื้อ (พันธุ์) ปอม หรือชิวาว่า แต่พอเราเดินไปหามัน เหมือนมันจะเชื่อมกับเราได้ เราจะรู้สึกได้ว่า อยู่กับเราได้ แค่มองตาก็รู้ใจ และเราก็จะรู้สึกได้ว่า เขาก็อยากมาอยู่กับเราด้วยนะ
กายใจ : แล้วจะดูแลพวกมันอย่างไร
เนย : เรื่องดูแลเป็นปกติอยู่แล้ว ซื้อมาเราก็ต้องดูแล แล้วก็ชอบเล่นกับมัน บางคนเอามาเลี้ยงก็แค่หาให้กิน ทำความสะอาด พาไปเดินเล่น พาไปถ่าย ไม่เคยเล่นกับมันเลย ถ้าทำแค่นี้ก็เหมือนไม่มีความสัมพันธ์กันระหว่างคนเลี้ยงกับสัตว์ มันก็จะเฉยๆ แต่ถ้าเราเลี้ยงแล้วเราใส่ใจ เล่นกับมัน เทคแคร์หัวใจของมันบ้าง ถ้าเราดูแลมันเป็นพิเศษ เราจะเห็นชัดเลยว่ามันรักเจ้าของของมันมาก
แจม : แน่นอนว่าเราก็ต้องไม่ละเลยการดูแลเรื่องสุขอนามัยด้วย แม้มันจะเป็นเรื่องพื้นฐาน แต่เราก็ต้องศึกษาให้ดีก่อน ต้องรู้ให้ดีก่อนว่ามันอยู่อย่างไร อย่างเลี้ยงปลา เราก็ต้องรู้ว่าจะเปลี่ยนถ่ายน้ำอย่างไร ปลาพันธุ์ไหน มีความพิเศษหรือจุดไหนที่เซ้นซิทีฟมากๆ มันเป็นเรื่องจำเป็นมาก ว่าถ้าเราตั้งใจจะดูแล เราก็ต้องเรียนรู้ให้ดีก่อนอยู่แล้ว อย่าคิดว่าชอบแล้วเอามาเลี้ยงก็พอ เพราะไม่อย่างนั้นโอกาสที่มันจะตายก็มีสูง ถ้าอย่างนั้น อย่าเอามาเลี้ยงเลย
เพราะการเลี้ยงสัตว์ก็เหมือนเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงคน เหมือนเลี้ยงลูก ถ้าเราไม่ดูแลอย่างดี ก็อาจเจ็บป่วยได้ สัตว์ก็เหมือนกัน อย่าตามกระแส เห็นเขาฮิตเลี้ยงกันก็เลี้ยงไม่ได้ อย่างตอนเด็กๆ ตอนนั้นเพื่อนๆในห้องฮิตเลี้ยงหนูตะเภา เอามาไม่ถึง 2 สัปดาห์ก็ตาย จริงๆแล้วไม่น่าซื้อมาให้ตายเลย บางทีหากมันโตตามธรรมชาติมันดูแลตัวเองได้ แต่พอมาอยู่กับเรา มันทำอะไรไม่เป็น มันผิดจากธรรมชาติ ฉะนั้นเราต้องดูแลเขาให้ดีเป็นพิเศษ
กายใจ : เล่าความประทับใจที่มีต่อสัตว์เลี้ยงให้ฟังหน่อย
เนโกะจัมพ์ : เรายังจำน้องหมาชื่อ "กู๊ฟฟี่" มันไม่ใช่ตัวแรกของเราทั้งสองคน แต่เราเลี้ยงตั้งแต่เรา 8-9 ขวบ มันเป็นพันธุ์พุดเดิ้ล มันอยู่กับเรามานานมาก อยู่มาประมาณ 15 ปี อยู่จนแก่จนหง่อมเลย แล้วตัวนี้เนยกับแจมรักมาก เพราะมันอยู่กับเรานานที่สุด เลี้ยงตั้งแต่เด็กๆ แล้วมันจะคิดถึงเนยกับแจมมาก ตอนเด็กๆเล่นกับมันบ่อย แต่พอช่วงเราโตขึ้น เราทำงาน เราก็ไม่มีเวลาเล่นกับมัน กลับบ้านดึกทุกวัน ไปโรงเรียนไปทำงานแต่เช้า วันทั้งวันไม่ได้เห็นหน้ามันเลย กลับมาก็แค่ลูบหัวมัน แหย่มัน ในขณะที่เมื่อก่อนเล่นกับมันได้ทั้งวัน ตอนนั้นมันก็เลยดูหงอย พอมันเห็นเราเดินออกจากบ้านหรือจะเข้าบ้าน มันก็จะมองดีใจที่เจ้านายมาแล้ว แต่พอเราไม่ได้เล่นกับมันก็หน้าจ๋อยเลย แล้วพอมันเริ่มแก่ลง เราก็พยายามหาเวลามาคลุกอยู่กับมันบ้าง เราจะเห็นเลยว่าถ้าวันนี้เราเล่นกับมันเยอะ แล้วพรุ่งนี้ไม่เล่น มันจะเศร้าไปเลย เราสังเกตและรู้สึกได้
แล้วพอวันหนึ่ง มันก็แก่ตายไป แต่เราไม่ได้อยู่กับมันตอนนั้น หนูก็ร้องไห้ แม้จะทำใจไว้แล้วว่ามันคงต้องตายแล้วล่ะ แต่พวกเราก็เสียใจที่กลับมาไม่ทันดูใจมัน เสียใจที่เราไม่ได้อยู่กับมันในตอนที่เราควรจะต้องอยู่ ทั้งๆที่เราก็รู้ว่ามันรู้สึกอย่างไรกับเรา แต่เราก็น่าจะอยู่กับมันจนวินาทีสุดท้าย แต่เราก็ทำไม่ได้ ตอนที่มันจะตายยังไม่เห็นเราเลย (ฮือ) ก็เลยตั้งกำแพงไว้ว่าจะไม่เลี้ยงอะไรเวลาทำงานอีกต่อไป
และอยากจะบอกคนอื่นๆว่าสัตว์ก็มีชีวิตเหมือนกัน แค่พูดไม่ได้ บางทีในใจมันอาจจะพูดอยู่ก็ได้ มันรู้สึกได้ มันเป็นสิ่งมีชีวิตนะ ชีวิตเขาฝากไว้ที่เรา จะอยู่จะตายก็ขึ้นอยู่กับเรา ถ้าเราจะเลี้ยงเขาแล้ว เราก็อยากเลี้ยงไปตลอด
กายใจ : ว่าจะไม่เลี้ยงหมา แล้วเจ้าจิงโจ้บิน ล่ะ
เนโกะจัมพ์ : ตั้งแต่ตอนที่กู๊ฟฟี่ตาย เราก็คิดไว้แล้วว่าจะไม่เลี้ยงอะไรอีกแล้ว เพราะเรารู้ว่าเราทำงาน เราไม่มีเวลาเล่นกับมัน และไม่อยากรู้สึกไม่ดีอย่างนั้น แต่วันหนึ่งเราก็ได้จิงโจ้บินมา ตั้งชื่อว่า "ไรเดอร์" ตอนนั้นเล่นคอนเสิร์ต ซึ่งแฟนคลับก็จะรู้อยู่แล้วว่าเราสองคนชอบเลี้ยงสัตว์ แฟนคลับก็เลยเอามาให้เนยกับแจม ตอนนั้นเราก็งงไม่รู้ว่าตัวอะไร จะกระรอกก็ไม่ใช่ หนูหรือค้างคาว ก็ไม่ใช่ เขาเอามาทิ้งไว้ให้โดยไม่มีคำอธิบายเลยว่ากินอะไร เลี้ยงอย่างไร ตัวมันก็เล็กๆ เท่าลูกปิงปองเอง แล้วก็ร้องเสียงดังมาก คิดว่ามันคงหิว ไม่ได้กินอะไรทั้งวัน
แต่ในเมื่อให้มาแล้ว ก็อยู่ในความรับผิดชอบของเรา เลยรีบเสิร์ชหาเดี๋ยวนั้นเลยว่า นี่คือตัวอะไร กินอะไรได้ เลยไปเจอว่าต้องเลี้ยงด้วยอาหารเสริมเด็ก คืนนั้นต้องหาซื้อจนวุ่นไปหมด เพราะกลัวว่ามันจะตาย แล้วก็ต้องกลับมาศึกษาอย่างละเอียดเลย ไม่กล้าสุ่มเลี้ยงมันไปก่อน แต่นั่นก็ทำให้เรารู้จักสัตว์ประเภทนี้มากขึ้น
เราก็เลี้ยงเหมือนเด็กอ่อน มันกินทุกๆ 4 ชั่วโมง ความสะอาดเป็นนัมเบอร์วัน ต้องอบอุ่น มีกลิ่นของคนเป็นแม่ เราต้องเอาเสื้อผ้าของเราเป็นที่นอนของมัน จะได้ไม่รู้สึกแปลกแยกกับเรา แล้วมันก็จะกลัวจิ้งจกมาก จนทำร้ายตัวเองเวลามันเครียด แทะหางตัวเอง เอาเล็บตะกุยท้องจนตาย เราต้องสังเกตมัน แม้เราจะกลัวจิ้งจกอยู่ด้วย แต่เราก็ต้องจัดการให้ นั่งปลอบกันอยู่นานเลย ตอนนี้มันก็โตเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้ว หัวล้านเลย ต้องดูแลไม่ให้เป็นแผล มันจะชอบกินอะไรหวานๆ เรียกว่าเรากินอะไรมันก็กินด้วยเลย แต่ก็ควรเลี้ยงตามธรรมชาติ เช่นพวกผลไม้จะดีกว่า
แต่กลับกลายเป็นว่า เลี้ยงไปเลี้ยงมา พวกเราคลั่งเจ้าตัวนี้เลย เพราะปกติสัตว์พวกนี้จะไม่ค่อยสุงสิงกับคน แต่เจ้าไรเดอร์มันจะรู้เรื่องเหมือนหมาและคอนเนคกับเราเยอะ แม้ตามสัญชาตญาณมันจะอยู่เป็นฝูง แต่พอเราเล่นกับมันมาก ซึ่งพอเราไปศึกษาข้อมูลก็รู้ว่า มันขึ้นอยู่กับความสนิทสนมของคนเลี้ยง ยิ่งให้เวลามันมาก ก็จะยิ่งสนิทกับเรามาก มันเป็นสัตว์ Exotic Pet จะจำเสียงและกลิ่นของพวกเราได้ ทำให้เราอยากไปอยู่กับมัน รู้สึกเหมือนเรามีลูก จึงเป็นที่มาว่าจากที่จะไม่เลี้ยงอะไรอีกแล้ว ทำให้เราต้องมาเลี้ยงสัตว์ต่ออีก
กายใจ : รักสัตว์ ขนาดนี้เวลาเห็นสัตว์โดนทำร้ายรู้สึกอย่างไร
เนโกะจัมพ์ : เนยตัวแอนตี้เรื่องนี้เลย ชอบสัตว์ทุกอย่าง ยกเว้นแมลง เพราะสื่อสารยากจัง (หัวเราะ) เลยทำให้เราชอบสืบหาเรื่องสัตว์ แล้วก็สนใจเรื่องแมวน้ำ เจอว่ามีประเทศหนึ่งเอาแมวน้ำมาเป็นกีฬา และก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงทำได้ เพราะมันโหดร้ายมาก จะล่าลูกแมวน้ำด้วยวิธีเกี่ยวตะขอที่คอแมวน้ำและคว้านท้อง ใครจับได้เยอะที่สุดชนะ แล้วมันก็แค่นั้น ถึงแม้จะเปิดให้จับเฉพาะในเทศกาลนั้น มิฉะนั้นจะผิดกฎหมาย แต่จริงๆแล้วก็ไม่จำเป็นต้องมีช่วงเวลานั้นไม่ใช่
หรือมันใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ให้กำเนิดลูกเป็นตัว เป็นสัตว์ที่อยู่กันเป็นครอบครัว ปกติมันก็ต้องเอาชีวิตให้รอดจากศัตรูตามธรรมชาติอยู่แล้ว ไหนจะต้องเผชิญภาวะโลกร้อน น้ำแข็งที่จะอยู่ก็ค่อยๆละลาย นี่ยังต้องหนีการล่าของมนุษย์อีก แม้จะมีองค์กรที่ต่อต้านแต่ก็ยังสู้ไม่ได้
เราจึงอยากให้คนเห็นใจบ้างว่า ถ้าจะล่าแมวน้ำเป็นแค่กีฬาที่เล่นกันสนุกๆ ไปเล่นกีฬาอื่นก็ได้ หรือถ้าฆ่าเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ มันก็จะรู้สึกดีกว่านี้นิดหนึ่ง แต่นี่ตายแบบไร้ค่าเลย เหล่านี้เป็นแค่ตัวอย่างหนึ่ง แต่ก็ยังมีสัตว์อีกมาก อย่าง บ้านเราก็ล่าช้าง ล่าสัตว์อนุรักษ์อยู่เลย มันน่าสงสารมากนะ
กายใจ : แล้วคิดว่าควรจะแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร
เนโกะจัมพ์ : จริงๆแล้ว แนวทางไม่ยาก มันเหมือนแค่เรื่องความเข้าใจและการปลูกฝัง ทำให้เขาได้คิด แต่ถ้าเรามีองค์กรหรือหน่วยงานอะไร ไปพูดให้เขารู้สึกว่าถ้ามันเป็นลูกคุณ พี่น้องคุณ มันก็เหมือนเราไปปล้นคนในครอบครัวเขา ไปฆ่าเขา แค่บอกให้เขาคิดว่ามันเหมือนคนในครอบครัวเขา แล้วเราจะทำมันหรือเปล่า วิธีรณรงค์มันก็ไม่ช่วยอะไร ถ้าคนเราไม่เปลี่ยนความคิด ดังนั้นต้องมีวิธีให้ความรู้คน ต้องทำให้เข้าใจ ให้แคร์ความรู้สึกกันมากกว่า
อีกอย่างถ้าเราหยุดการใช้ ไม่จำเป็นต้องไปใช้หนังสัตว์หรือส่วนอื่นๆของสัตว์ วัสดุอื่้นที่ดีและมีคุณภาพก็ได้อยู่ อย่างขนหรือหนังเทียม แต่ถ้าเป็นหนังวัว เราก็พอเข้าใจได้ว่า เอาเนื้อมารับประทาน แต่อย่าง แคชเมียร์ กระดองเต่า ม้าลาย ก็ไม่จำเป็นขนาดนั้น ทุกวันนี้สัตว์ต่างๆก็จะหมดไปเพราะมือมนุษย์อยู่แล้ว ถ้าเราสามารถรณรงค์หรือทำโครงการอะไรสักอย่างที่จะช่วยลดหรือหยุดการใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เมื่อไม่ใช้ก็ไม่มีคนผลิต และอีกกรณีหนึ่ง เรามองข้ามบางอย่างไปว่า เราบริจาคเงินเพื่อช่วยสัตว์ แต่ก็ยังซื้อของพวกนี้อยู่ ในเมื่อเรายังซื้อ คนผลิตก็ไม่มีวันหยุด ก็เป็นวงจรเรื่อยไป ทุกวันนี้รณรงค์ไปมันไม่ได้ผล เพราะมันเป็นเรื่องธุรกิจด้วย ในเมื่อเขายังทำรายได้มหาศาล แค่เรื่องรณรงค์คงช่วยอะไรไม่ได้มาก
กายใจ : การเป็นทูตรักสัตว์ ช่วยเพิ่มบทบาทเรื่องนี้หรือไม่
เนโกะจัมพ์ : การที่เราเป็นคนในวงการ มันสามารถทำให้มีคนมาจับจ้อง และสื่อสารออกไปได้ มากกว่าแค่เป็นโครงการขึ้นมาเฉยๆ เพราะเราสามารถเป็นกระบอกเสียง โฆษณาให้ได้มากขึ้นกว่าบอกออกไปเฉยๆ เป็นหน้าที่หลักๆเลยที่เราจะประชาสัมพันธ์ ตอนแรกเราก็ไม่รู้ว่ามีองค์กรนี้ด้วยหรือ นั่นแปลว่าเขาก็อยากให้เราทำอย่างไรก็ได้ โซเซียลเน็ตเวิร์กก็ได้ เพื่อให้คนได้รับรู้หรือประชาสัมพันธ์ออกไป
อย่างบางคนเห็นการทารุณสัตว์และไม่รู้ว่าจะช่วยเหลืออย่างไร หรือจะติดต่อ บอกต่อได้ที่ไหน แต่ทางนี้มีหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือโดยตรง เมื่อก่อนเวลามีปัญหา เราก็จะแจ้งตำรวจหรือหน่วยฉุกเฉินต่างๆ แต่เขาอาจไม่มีความชำนาญเรื่องสัตว์ที่ถูกต้อง หรือเห็นปัญหาต้องการความช่วยเหลือ เช่นย้ายบ้านแล้วทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้ ก็มาแจ้งได้
ต้องบอกตรงๆว่า คนไทยชอบทำอะไรที่มันเป็นเทรนด์ ต้องฮิตขึ้นมาก่อนแต่ที่ต้องแอคชั่นเพิ่มยังไม่มี มีแค่กล่องรับบริจาค แต่ถ้าเป็นไปได้ต้องเปลี่ยนให้เป็นเทรนด์ อาจเป็นโครงการที่ให้เด็กวัยรุ่นเข้ามามีส่วนร่วม ขอความร่วมมือ เกณฑ์เด็กมาร่วมกิจกรรม ต้องให้ความรู้สึก บิวด์ตัวเขาขึ้นมา แรกๆก็ไปตามเทรนด์ ตามคนอื่นเขา แต่พอทำไปเรื่อยๆ เขาจะสัมผัสมันได้เอง และได้ใจกลับไป อีกอย่างต้องยอมรับว่าน้อยครั้งนักที่เราจะเห็นปัญหาที่ต้องให้การช่วยเหลืออย่างจริงจัง แต่ถ้ามีโครงการที่ให้พวกเขาได้ลงมือทำ ก็อาจเปลี่ยนทัศนคติไปตลอดกาล