จับคู่หูตระเวนลักทรัพย์เหยื่อในรถยนต์

จับคู่หูตระเวนลักทรัพย์เหยื่อในรถยนต์

สน.โคกคราม รวบ 2 หนุ่มคู่หูตระเวนลักทรัพย์เหยื่อในรถยนต์ พบของกลางกว่า 100 รายการ

สน.โคกคราม พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.สมบัติ หงส์ทอง ผกก.สน.โคกคราม พ.ต.ท.ฐานุพงศ์ แสงซื่อ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.พงษ์สิทธิ์ ปาลาพงศ์ สว.สส. ร.ต.อ.เฉลิมพล วงษ์ชัยสุวรรณ รอง สว.สส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายวิวรรธน์ หรือแว่น สนิทชน อายุ 33 ปี และนายชัยวัฒน์ หรือโก้ โภคินวรนันต์ อายุ 35 ปี พร้อมของกลางกว่า 100 รายการ อาทิ อาวุธปืนขนาด 9มม. กล้องถ่ายรูป โทรศัพท์มือถือ ไอโฟน ไอแพด คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค กระเป๋าแบรนด์เนม ฯลฯ อุปกรณ์การทุบกระจกรถยนต์ รถแท็กซี่โตโยต้า อัสติส สีชมพูหมายเลขทะเบียน ทว 3119 กทม. และรถแท็กซี่โตโยต้า อัสติส สีชมพูหมายเลขทะเบียน ทว1618 กทม. โดยจับกุมนายวิวรรธน์ได้ที่บริเวณหน้าบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ วงศ์สว่าง ถนนพิบูลย์สงคราม แขวงและเขตบางซื่อ กทม. ก่อนจะขยายผลจับกุมนายชัยวัฒน์ ได้ภายในอพาร์ทเม้นท์ชื่อ อินทามระ 36 ซอยอินทามระ36 ถนนสุทธิสาร แขวงและเขตดินแดง กทม.

พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 กล่าวว่า สืบเนื่องจากผู้ต้องหาพร้อมพวกที่ยังหลบหนีอีก 1 คน มีอาชีพขับรถแท็กซี่รับจ้าง โดยเน้นจอดรับผู้โดยสารตามสถานบันเทิงต่างๆ ย่านทองหล่อ เอกมัยและเลียบทางด่วนรามอินทรา โดยพฤติกรรมของผู้ต้องหาจะอาศัยจังหวะปลดทรัพย์สินผู้เสียหายที่เมาไม่ได้สติจอดรถนอนอยู่ริมถนน บางครั้งก็ออกตระเวนไปในพื้นที่ต่างๆ เพื่อหาเหยื่อที่จอดรถนอนริมถนน หรือผู้เสียหายที่มีอาการเมาสุรานอนหลับพักผ่อนในรถ โดยจะใช้อุปกรณ์ทุบกระจกรถยนต์ หรือแกล้งเคาะกระจกเรียกเพื่อแสดงตัวเข้าช่วยเหลือ ก่อนทำการปลดล๊อคประตูและเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สิน จากนั้นได้นำของกลางไปโพสประกาศขายผ่านทางอินเทอร์เน็ต หรือตามร้านรับซื้อของมือสองทั่วไป

พ.ต.อ.เจริญ กล่าวต่อว่า ต่อมาผู้เสียรายหนึ่งได้พบกล้องถ่ายรูปของตนเองที่ถูกคนร้ายทุบกระจกรถยนต์พร้อมขโมยกล้องไป โดยคนร้ายได้นำไปประกาศขายผ่านเว็บไซค์ขายของมือสองชื่อดังเว็บหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงวางแผนติดต่อล่อซื้อบริเวณหน้าบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ วงศ์สว่าง ก่อนเข้าจับกุม พร้อมขยายผลไปตรวจยึดของกลางและจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือได้ภายในห้องพักดังหล่าว

ด้านพ.ต.ท.ฐานุพงศ์ แสงซื่อ รอง ผกก.สส. กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทราบว่าได้ก่อเหตุในลักษณะนี้ในท้องที่ของสน.โคกคราม สน.บางเขน สน.ลาดพร้าว สน.โชคชัย สน.พหลโยธิน สน.ทองหล่อ และสน.ห้วยขวาง โดยก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า100 ครั้ง เพราะดูจากของกลางที่เหลือยังมีอีกจำนวนมาก ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือที่ยังหลบหนีอีก 1 คน เจ้าหน้าที่ทราบแล้วว่าเป็นใคร อยู่ระหว่างการติดตามตัวจับกุม

ขณะที่นายสมเกียรติ พิพัฒน์พัลลภ อายุ 47 ปี เจ้าของบริษัท ไบร์ทเวย์ มอเตอร์ เซอร์วิส จำกัด ตัวแทนจำหน่ายยางรถยนต์รายใหญ่ หนึ่งในผู้เสียหายกล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ03.00 น. วันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา ตนเองได้ขับรถโตโยต้า แกรนเวีย สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ภย 8818 กรุงเทพมหานคร ไปจอดนอนพักผ่อนอยู่บริเวณริมถนนเกษตร-นวมินทร์ ต่อมาได้มีผู้ต้องหาทำทีเข้ามาเคาะกระจกรถยนต์เพื่อสอบถามให้ความช่วยเหลือ ก่อนฉวยจังหวะทีเผลอหยิบกระเป๋าเอกสาร ภายในมีโทรศัพท์ไอโฟน 4 ไอแพดมินิ และเงินสดประมาณ10,000 บาท ก่อนหลบหนีไป ตนจึงเดินทางไปแจ้งความไว้ที่สน.โคกคราม

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวจริง โดยทำมาแล้วหลายครั้งจนนับไม่ได้ ก่อนจะนำทรัพย์สินที่ได้มาไปขายแล้วนำเงินมาแบ่งกัน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายชีวิตประจำวันและเป็นค่าเช่ารถแท็กซี่ และอยากจะขอโทษกับผู้เสียหายทุกคนที่ได้กระทำลงไป

เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยในยานพาหนะเพื่อสะดวกแกการกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นการจับกุม และทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือรับของโจร” นำส่งพนักงานสอบสน.โคกคราม ดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนที่เคยถูกคนร้ายก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว ให้มาดูของกลางได้ที่สน.โคกครามตลอด 24ชั่วโมง