สาธารณสุขแนะคนไทยเลี่ยงกินไข่ดิบ
ก.สาธารณสุข แนะคนไทยหลีกเลี่ยงกินไข่ดิบ เหตุเสี่ยงปนเปื้อนจุลินทรีย์ ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ
นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายพัฒนา ไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (Egg Board) กำหนดให้วันศุกร์ที่ 2 ของเดือนตุลาคมของทุกปีเป็นวันไข่โลก ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 10 ตุลาคม เพื่อเป็นการส่งเสริมการบริโภคไข่ เนื่องจากไข่เป็นแหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพดี ราคาถูก หาได้ง่าย มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ไข่ไก่ 1 ฟอง ให้พลังงาน 80 กิโลแคลอรี มีโปรตีน 7 กรัม มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายครบถ้วน เป็นแหล่งของแร่ธาตุและวิตามินที่สำคัญ เช่น ธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ วิตามินบี1 บี2 บี6 วิตามินดี วิตามินอี โฟเลต เลซิติน ลูทีน และซีแซนทีน แต่ไม่ควรกินไข่ดิบ เพราะอาจปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ และไข่ขาวที่ไม่สุกจะขัดขวางการดูดซึมไบโอติน ทำให้ย่อยยากจึงได้รับประโยชน์ไม่เต็มที่
ทั้งนี้ ไข่เป็นอาหารบำรุงร่างกายสำหรับทุกเพศทุกวัยตั้งแต่เด็กทารกอายุ 6 เดือนเต็ม ให้กินไข่แดงต้มสุกในปริมาณครึ่งฟองผสมกับข้าวบด โดยในครั้งแรกให้ปริมาณน้อยๆ และค่อยๆ เพิ่มขึ้น ส่วนเด็กอายุตั้งแต่ 7 เดือน จนถึงวัยเรียนสามารถกินไข่ได้วันละ 1 ฟอง ส่วนผู้ใหญ่ที่มีภาวะโภชนาการปกติควรกินไข่ 3-5 ฟองต่อสัปดาห์ และหากเป็นกลุ่มที่มีคอเลสเตอรอลสูง อาจกินได้สัปดาห์ละ 1-2 ฟอง หรือกินแต่ไข่ขาว หรือตามคำแนะนำของแพทย์ ซึ่งการป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับคอเลสเตอรอลสูงเกินไป ไม่ได้เกิดจากการลด หรืองดกินไข่เพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารให้ถูกหลักโภชนาการด้วยการลด หวาน มัน เค็ม เพิ่มการกินผักและผลไม้รสไม่หวานจัด หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และตรวจร่างกายเป็นประจำเพื่อช่วยควบคุมและป้องกันปริมาณไขมันเกินในเลือด