แห่ใช้บริการหมอนวดรักษาโรค สสจ.เข้าตรวจปลดป้าย 'หมอเทวดา'

สุดทึ่ง! ชาวบ้านแห่รับบริการหมอนวด วันละกว่าร้อยคน - สสจ.เลยเข้าตรวจสอบ ปลดป้าย "หมอเทวดา" ออก หวั่นโฆษณาเกินจริง
จากกรณีที่มีผู้โพสต์เฟซบุ๊ค และมีการแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก ถึงคลิปนายเสน่ห์ ศรีประวัติ หมอนวดแผนโบราณที่บ้านห้วยสีเสียด ต.ห้วยสีเสียด อ.ภูหลวง จ.เลย ขณะนวดรักษาอาการหูตึงและเป็นใบ้ของหญิงสาววัย 22 ปี รายหนึ่ง จนพูดได้ยินเสียงและพูดได้เป็นบางคำ เช่น คำว่าแม่ ข้าว น้ำ ท่ามกลางความปลิ้มปิติยินดีของญาติที่พามารักษาซึ่งผู้เผยแพร่คลิปในเฟซครั้งนี้ระบุว่า เป็นหนึ่งในคนไข้ที่เคยมารักษาอาการปวดไมเกรนแล้วหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าไปที่บ้านหลังดังกล่าวของ นายเสน่ห์ ศรีประวัติ พบว่าหมอเทวดารายนี้ กำลังรักษาคนป่วย โดยสวมชุดขาวมีหน้ากากอนามัยปิดปาก ปิดจมูก และใส่ถุงมือยางมีคนป่วยมารอรักษาเป็นจำนวนมากส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงสูงอายุ ที่มีอาการเจ็บตามข้อเข่า ปวดเอว ปวดกระดูกนอกจากนี้ยังมีคนวัยหนุ่มสาวมารักษาอาการปวดไมเกรนด้วยโดยเดินทางมาจากต่างจังหวัดเช่น ขอนแก่น ชัยภูมิ อุทัยธานี กำแพงเพชร โดยเฉพาะจังหวัดเลยเข้าคิวรอกันวันละประมาณ 200 คน ขณะเดียวกันยังพบกลุ่มแม่ชีมารอรับการรักษาด้วยซึ่งระหว่างทำข่าวมีเสียงโทรศัพท์ของนายเสน่ห์ดังขึ้นตลอดเวลาโดยมีผู้ช่วยหญิงที่เป็นเพื่อนบ้านคอยรับโทรศัพท์และเป็นผู้ช่วยจัดคิวมีป้ายไวนิล ระบุข้อความว่า“หมอเส่นห์ ศรีประวัติ มือทะลุโรครักษาโรคด้วยมือเปล่า”แขวนไว้ภายในอาคารด้วย
สำหรับอาคารรับรักษาผู้ป่วยเดิมเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่อยู่ในไร่อ้อยท้ายหมู่บ้านห้วยสีเสียดมีการนำเอาไม้เท้า ทั้งที่เป็นโลหะ และเป็นไม้กว่า 200 อันมาแขวนไว้เป็นม่านซึ่งเอามาจากผู้ที่มารักษาแล้วหาย สามารถกลับมาเดินได้อย่างคล่องแคล่ว จึงทิ้งไว้ที่นี่ ไม่นำกลับไปใช้อีกก่อนการรักษานั้นหมอเสน่ห์จะให้ผู้ป่วยนำพานสีเงิน พร้อมดอกไม้ และค่าขันครูจำนวน 550 บาทไหว้ แล้วยื่นให้นั่งเก้าอี้ เริ่มจากนวดด้านหลัง สะบัก ใช้ไม้ปลายกลมมนจิ้มลงกระดูกสันหลัง และกล้ามเนื้อตามจุดต่างๆแล้วนวดที่ขาและจบด้วยท่านอนนวด กดจุดที่ต้นขาพร้อมท่องคาถาไปด้วยรวมใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีต่อคน
นายเสน่ห์ เล่าว่าการนวดลักษณะนี้เรียกว่า “พลังจิตบำบัด” เริ่มทำมาเมื่อประมาณ 4-5 ปีที่แล้วก่อนหน้านี้ มีอาชีพเป็นเกษตรกรเลี้ยงไก่ ทำไร่ ทำนาแต่ตนชอบนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม และชอบช่วยเหลือคนอื่น จึงไปเรียนนวด จนได้ไปอนุญาตประกอบอาชีพเปิดนวดรักษาให้คนทั่วไปที่เป็นโรคเกี่ยวกับข้อ กล้ามเนื้อ โรคไมเกรน หูตึง อัมพฤกษ์ อัมพาตส่วนใหญ่อาการก็ดีขึ้นโดยเฉพาะผู้ป่วยอายุไม่เกิน 40 ปี จะหายเร็วแต่ต้องมานวดหลายครั้งบางคนนวดครั้งเดียวก็หายเลยก่อนจะนวดแต่ละวัน ตนต้องนั่งสมาธิ เพราะต้องใช้พลังจิตในการนวดหากไม่มีสมาธิ หรือพลังจิตไม่พอก็จะรู้สึกร้อนที่ศรีษะสำหรับเงินค่ารักษาที่ผู้ป่วยให้เป็นค่าขันครู ไม่ได้เก็บสะสมแต่อย่างใดส่วนใหญ่ก็จะนำไปทำบุญ บริจาคให้วัด ให้โรงพยาบาล และโรงเรียนที่ขาดแคลนรู้สึกมีความสุข ที่เห็นคนมารักษาแล้วหาย หรือดีขึ้น
นายธีรพล กุมภาพันธ์ อายุ 58 ปีผู้ป่วยจากจังหวัดอุทัยธานี กล่าวขณะนั่งรถเข็นว่าป่วยเป็นอัมพฤกษ์ซีกซ้าย เมื่อปีที่แล้วเพราะหกล้ม ศรีษะกระแทกพื้นเดินทางมารักษาเป็นครั้งที่ 2 แล้วมากินนอนอยู่ที่นี่เป็นเวลาสิบกว่าวันแล้วทราบข่าวจากเฟซบุ๊คว่าหมอเสน่ห์รักษาดีนวด 2 วัน ต่อ 1 ครั้ง ปรากฏว่าอาการดีขึ้นลุกขึ้นนั่งได้และเดินเกาะราวได้หลายก้าวส่วนอาการบวมลดลงที่ผ่านมาก็ไปเที่ยวรักษาไปหลายแห่ง ทั้งหมอแผนปัจจุบัน และแผนโบราณถือว่าหมอเสน่ห์ทำให้ตนมีความหวังที่จะกลับมาเดินได้เป็นปกติอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับทางที่ว่าการอำเภอภูหลวง ได้ออกตรวจการรักษาของหมอเทวดารายนี้และดูแลประชนที่แห่มารักษาพร้อมกับเน้นด้านความสะอาดของน้ำมนต์ เพราะหลังจากสิ้นสุดการรักษาแต่ละรายหมอรายนี้จะให้ผู้ป่วยนำกลับไปดื่มกินที่บ้านพร้อมกับให้ปลดป้ายประชาสัมพันธ์ที่เกินความจริงว่า ”หมอเทวดา” ออก
ด้าน นพ.สุวิทย์ โรจนศักดิ์โสธร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลยเปิดเผยว่า เกี่ยวกับกรณีหมอรายนี้ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขอำเภอภูหลวงนำทีมงานเจ้าหน้าที่ออกไปทำการตรวจสอบแล้ว และได้รับการรายงายมาว่า มีประชาชนเล่ากันแบบปากต่อปากกระจายออกไป เห็นว่าเป็นการกระทำที่ยังถูกกฎหมาย แต่ได้กำชับว่าให้อยู่ในกรอบของกฎหมายด้วย และเป็นการนวดที่มิใช่การรักษาจึงให้ปลดป้ายโฆษณาว่าเป็นการรักษาโรคออกแล้ว ส่วนน้ำมนต์ก็ตรวจสอบว่าสะอาดหรือไม่นั้น ก็ให้สาธารณสุขอำเภอภูหลวงออกไปทำการตรรวจพิสูจน์ด้วยแล้วแต่ยังไม่มีรายงานผลกลับมา