ร้องหมอผ่าตัดภรรยาผิดพลาด หมดสิทธิ์มีลูก
หนุ่มร้องหมอวินิจฉัยผิดสุดท้ายผ่าตัดมดลูกภรรยาทิ้ง 2 ข้าง หมดโอกาสมีทายาทสืบตระกูล
เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยจาก นายเอกพงษ์ แก้วดี ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลชุมชนแห่งหนึ่ง กำลังนั่งเฝ้าไข้นางสาวสุพัตรา เพ็ชรหิน ภรรยา ที่เข้ารับการผ่าตัดท่อนำไข่หรือปีกมดลูกเป็นครั้งที่ 2 เพื่อเอาเด็กที่ตั้งครรภ์นอกมดลูกในท่อนำไข่ด้านขวาออก หลังจากแพทย์สูตินรีเวช โรงพยาบาลศูนย์แห่งหนึ่ง ผ่าตัดปีกมดลูกด้านซ้าย เพื่อเอาเด็กออก แต่ผ่าตัดผิดข้าง ทำต้องเข้ารับการผ่าตัดซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ทำให้คนไข้และครอบครัวหมดสิทธิจะมีลูกสืบทายาทตลอดชีวิต
นายเอกพงษ์ กล่าวว่า เมื่อเดือนมิถุนายน ภรรยาได้ตั้งครรภ์มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน จึงไปฝากครรภ์ที่คลินิกแห่งหนึ่ง แพทย์ตรวจเช็คอัลตราซาวด์แล้วพบว่าเป็นการตั้งครรภ์นอกมดลูก จึงทำหนังสือส่งตัวพร้อมแนบผลอัลตราซาวด์ เพื่อส่งตัวภรรยาเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลศูนย์ดังกล่าว แต่เมื่อมาถึงโรงพยาบาล แพทย์เจ้าของไข้กลับเห็นว่าท้องอยู่ในปีกมดลูกด้านซ้าย แม้ว่าจะทักท้วง แต่แพทย์คนดังกล่าวยังยืนยันว่า จะผ่าตัดด้านซ้าย เพื่อเอาเด็กออก โดยไม่ได้ดูผลอัลตราซาวด์ที่แนบมา ตนกับแม่จึงคิดว่าเราต้องเชื่อมั่นในแพทย์ และเชื่อมั่นในโรงพยาบาลศูนย์ดังกล่าว แพทย์จึงผ่าตัดปีกมดลูกด้านซ้ายออก
ต่อมา ภรรยาได้กลับพักฟื้นที่บ้าน ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา ภรรยากลับมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง คลื่นไส้ และอาเจียนอีก จึงพาไปพบแพทย์ที่คลินิกเดิม โดยแพทย์ประจำคลินิกตกใจว่าทำไมไปผ่าตัดปีกมดลูกด้านซ้าย ทั้งๆที่ส่งผลอัลตราซาวด์ระบุชัดว่าอยู่ด้านขวา จึงได้ทำการอัลตราซาวด์ซ้ำ ปรากฏว่าพบเด็กยังอยู่ในปีดมดลูกด้านขวา และเจริญเติบโตมากกว่าเดิม
นายเอกพงษ์ กล่าวว่า ตนกับครอบครัวจึงพาภรรยากลับไปที่โรงพยาบาลศูนย์ดังกล่าว พบแพทย์คนเดิมอีกครั้ง พร้อมกับถามเหตุผล ที่สำคัญหลังรับตัวคนไข้แล้ว แพทย์ไม่ทำอัลราซาวด์ซ้ำ เพื่อความถูกต้องในการรักษา และการผ่าตัดรอบที่ 2 เท่ากับว่า ต้องมาผ่าตัดซ้ำปีกมดลูกด้านขวา เพราะเด็กยังอยู่ และอยู่ภาวะเสี่ยงเป็นอันตรายกับแม่เด็ก ทำให้ครอบครัวตนหมดสิทธิมีลูกไปเลยตลอดชีวิต หลังจากนี้จะทำหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักงานสาธารณะสุข ที่กระทรวงสาธารณสุข และจะร้องแพทยสภา เพื่อเอาเรื่องให้ถึงที่สุด