แพทย์ผิวหนังเตือน ภัยร้ายของการซื้อยารักษาสิวกินเอง
สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ เผยผู้ที่เป็นสิวและชอบซื้อยาในกลุ่มกรดวิตามินเอกินเอง โดยเข้าใจว่าทำให้หน้าใส ไร้สิว อาจมีผลข้างเคียงทำให้ตับผิดปกติ ลำไส้ใหญ่อักเสบจากการขาดเลือด ผมร่วงบาง เล็บเปราะ หากตั้งครรภ์ทารกถึงขั้นพิการได้
นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่า สิวเป็นปัญหาสุขภาพชีวิตที่สำคัญของคนทุกวัยโดยเฉพาะวัยรุ่น และอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพจิตมากกว่าสุขภาพกาย แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเป็นสิว ควรล้างหน้าให้สะอาด ไม่บีบไม่แกะสิว พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะ ออกกำลังกายเป็นประจำ หลีกเลี่ยงการใช้ยา สารเคมี หรือเครื่องสำอางซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดสิว และที่สำคัญต้องระวังอันตรายจากการซื้อยากินเพื่อรักษาสิวเอง อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงกับระบบต่างๆ ของร่างกายโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังก่อนทุกครั้ง
แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น จะไปกระตุ้นต่อมไขมันให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและผลิตไขมันออกมามาก การสร้างเคราตินที่ผิดปกติบริเวณรูขุมขน ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน โดยมีแบคทีเรียเป็นตัวกระตุ้นให้สิวอักเสบ นอกจากนี้ยังมีความเครียด การนวด ขัดถูใบหน้าแรงๆ การใช้ยาทาบางอย่าง เช่น สเตียรอยด์ เครื่องสำอางและสารเคมีบางอย่างอาจกระตุ้นให้เกิดสิวได้ ทั้งนี้ผู้ที่เป็นสิวอุดตันการรักษาโดยใช้ยาทากลุ่มกรดวิตามินเอ จะทำให้สิวหลุดออกได้ง่ายขึ้นทำร่วมกับการกดสิว แต่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองถ้าใช้ไม่ถูกต้อง ส่วนการรักษาด้วยยารับประทานในกลุ่มไอโซเตรติโนอิน ซึ่งเป็นกรดวิตามินเอขนาดสูงใช้ในการรักษาสิวที่เป็นมากและรุนแรง ปัจจุบันมีการเข้าใจผิดคิดว่ายาทำให้สิวหายขาด หน้าใส จึงมีการใช้ยาพร่ำเพรื่อเพราะหาซื้อได้ง่ายทั้งที่เป็นยาควบคุมจ่ายได้เฉพาะแพทย์เท่านั้น ทำให้พบผู้ป่วยที่มีผลข้างเคียงจากการซื้อยากินเองโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์เป็นจำนวนมาก ซึ่งยาดังกล่าวก่อให้เกิดผลข้างเคียงในหลายระบบ ได้แก่ การทำงานของตับผิดปกติ ไขมันและระดับน้ำตาลในเลือดสูง ปวดศีรษะรุนแรงจากความดันในสมองสูง ปวดกระดูก กล้ามเนื้อและข้อ สำไส้ใหญ่อักเสบจากการขาดเลือด ปากแห้ง ผิวแห้ง ตาแห้ง ผมร่วงบาง เล็บเปราะ เล็บอักเสบ หากตั้งครรภ์มีผลทำให้ทารกพิการ ดังนั้นการใช้ยาในกลุ่มนี้ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังโดยไม่ควรซื้อยามากินเอง