เตรียมพร้อมนศ.รู้ความปลอดภัยขนส่งโลจิสติกส์

เตรียมพร้อมนศ.รู้ความปลอดภัยขนส่งโลจิสติกส์

CIBA มธบ. ร่วมกับปูนซีเมนต์ไทย และสน.ประชาชื่น จัดอบรมให้ความรู้ด้านความปลอดภัยในงานขนส่งโลจิสติกส์ เตรียมความพร้อมนักศึกษา นศ.ปี 4 ก่อนออกสู่ตลาดแรงงานด้านขนส่ง

ดร.ศิริเดช คำสุพรหม คณบดีวิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) เปิดเผยว่า  วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี โดยหลักสูตรการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน ร่วมกับสำนักกิจการนักศึกษา มธบ. จัดอบรมให้ความรู้ด้านทักษะความปลอดภัยในการขนส่งโลจิสติกส์ให้กับนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ภายใต้โครงการความปลอดภัยในงานขนส่งโลจิสติกส์ “ทักษะคิดฝ่าวิกฤตอุบัติเหตุทางถนน”

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาได้ทราบและตระหนักถึงความปลอดภัยบนท้องถนนและสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการเตรียมความพร้อมสำหรับการทำงานในอนาคต เนื่องจากนักศึกษาที่จบหลักสูตรออกไปแล้วทำงานด้านขนส่งจำนวนมาก

ในการอบรมครั้งนี้ ยังได้รับการสนับสนุนหนังสือ “ทักษะคิดฝ่าวิกฤตอุบัติเหตุทางถนน” จำนวน 80 เล่มเพื่อในประกอบการอบรม จาก บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)  อีกด้วย

               

เป็นหนังสือที่ให้ความรู้ ในการสร้างระบบคิด และเข้าใจถึงสาเหตุของอุบัติเหตุ สร้าง attitude และ mindset เรื่องความปลอดภัยเพื่อให้สามารถช่วยป้องกัน และแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนได้เป็นอย่างดี โดยนักศึกษาที่เข้ารับการอบรมจะได้ทราบต้นตอของอุบัติเหตุ รับรู้ขีดจำกัดของคน เรียนรู้กลยุทธ์ในการตัดสินให้รอดจากอุบัติเหตุ

กระตุ้นให้เกิด mindset ในเรื่องความปลอดภัย และมี attitude ในการใช้รถใช้ถนน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนต่อไป โดยการอบรมครั้งนี้ มี นาวาอากาศเอกสุวรรณ ภู่เต็ง และพันตำรวจโท สุขสันต์ แสนสวัสดิ์ ร่วมเป็นวิทยากร

นายสุชาติ ตุ้มวิจิตร ผู้จัดการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์  บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า ได้รับทราบโครงการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยทางถนนให้กับสถานศึกษา ผ่านทาง สน.ประชาชื่น ซึ่งปูนซีเมนต์ไทยยินดีให้การสนับสนุนงบประมาณในการจัดซื้อหนังสือทักษะคิดฝ่าวิกฤตอุบัติเหตุทางถนน เพื่อใช้ในการอบรม เนื่องจากเป็นโครงการที่ดีและตรงกับแนวทางของบริษัท ที่ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยสูงสุด

โดยทางบริษัทได้ตั้งกฎพิทักษ์ชีวิต 9 ข้อ ให้พนักงาน คู่ธุรกิจ และผู้รับเหมาที่เข้ามาทำงานในพื้นที่ เอสซีจี ได้ยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดย 4 ใน 9 กฎพิทักษ์ชีวิตจะเป็นเรื่องการขับขี่รถยนต์ คือโทรไม่ขับ ดื่มไม่ขับ คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง สวมหมวกนิรภัย มีการลงโทษผู้ฝ่าฝืนอย่างจริงจัง เพื่อให้เกิดพฤติกรรมความปลอดภัย ลดและป้องกันการสูญเสีย

ทั้งนี้ เนื้อหาหลักของหนังสือเล่มนี้ ได้นำเสนอให้รับรู้ถึงการสูญเสียที่เกิดจากอุบัติเหตุบนท้องถนนสามารถเกิดได้กับทุกคนไม่เกี่ยวกับกับเพศ วัย ความรู้ อาชีพ ซึ่งสาเหตุของอุบัติเหตุมาจากหลายปัจจัย ยานพาหนะ คน สภาพแวดล้อม โดยเฉพาะปัจจัยเรื่องคนส่วนมากมาจากการตัดสินใจทำในสิ่งที่เกินขีดจำกัดของตัวเอง สิ่งที่จะช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุคือการตระหนักรู้ในทุกสถานการณ์ และไม่ฝืนขีดจำกัดของร่างกาย ต้องมีวิจารณญาณในการตัดสินจึงนำไปสู่ความปลอดภัย

จากข้อมูลรายงานความปลอดภัยทางถนนของโลก ปี พ.ศ.2561 (Global Status Report on Road Safety 2018 ) ขององค์การอนามัยโลกพบว่า ประเทศไทยมีอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรทางถนนเป็นอันดับ 8 ของโลก โดยมีผู้สียชีวิต 32.7 รายต่อประชากรหนึ่งแสนคน นับเป็นอัตราการเสียชีวิตสูงที่สุดในสุดทวีปเอเชีย โดยองค์การอนามัยโลกยังได้แถลงการณฺสถานการณ์ด้สนความปลอดภัยทางท้องถนนของไทยยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยประเทศไทยเคยมีอัตราการสูญเสียมากเป็นอันดับสองของโลกในปี พ.ศ. 2557