เตือน! 'พยาธิตืดหมู' หิวบ่อย น้ำหนักลด ปวดท้อง อาเจียน ไปพบแพทย์
สธ.เตือน "พยาธิตืดหมู" สังเกตหิวบ่อย น้ำหนักลด ปวดท้อง อาเจียน ไปพบแพทย์ แนะประชาชนรับประทานอาหารโดยยึดหลัก "สุก ร้อน สะอาด"
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 62 นายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวพบพยาธิตัวตืดออกมาจากร่างกาย นั้น กรมควบคุมโรค ขอให้ข้อมูลว่าโรคพยาธิตัวตืดพบได้ทั่วโลก คนติดพยาธินี้จากการรับประทานเนื้อหมูที่ปรุงไม่สุกหรือสุกๆ ดิบๆ ที่มีถุงซีสต์ ซึ่งมีตัวอ่อนพยาธิอยู่ข้างใน คนทั่วไปเรียกเม็ดสาคู เมื่อเข้าสู่ร่างกายซีสต์จะเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัยเกาะอยู่ที่ผนังลำไส้เล็กของคนสามารถอยู่ได้นานหลายปี ตัวเต็มวัยมีลำตัวแบนคล้ายริบบิ้น มีสีขาว ยาว 2 ถึง 3 เมตร หรือมากกว่า พยาธิดำเนินชีวิตครบวงจรในคน หมายความว่าสามารถโตเต็มวัย จนสืบพันธุ์และไข่ปนออกมาทางอุจจาระ บางครั้งอาจมีปล้องพยาธิหลุดปนออกมากับอุจจาระได้ หากไม่ถ่ายอุจจาระลงส้วม จะทำให้ไข่พยาธิออกมาปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม กลายเป็นวงจรแพร่กระจายพยาธิต่อไปอีก สำหรับอาการผู้ที่มีพยาธิตืดหมูในลำไส้ คือ จะหิวบ่อยแต่ผอมลง น้ำหนักลด นอกจากนั้นอาจจะมีอาการปวดท้อง ท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียนหรืออุจจาระบ่อย เนื่องจากเกิดจากการระคายเคืองต่อลำไส้
แต่ถ้าหากคนนั้นอาเจียนขย้อนปล้องแก่ของพยาธินี้ จากลำไส้ขึ้นไปที่กระเพาะ พยาธิตัวอ่อนจะฟักจากไข่แล้ว ไชทะลุกระเพาะหรือลำไส้เข้าสู่กระแสเลือดหรือน้ำเหลืองไปยังกล้ามเนื้อ หรืออวัยวะต่างๆ เช่นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง กล้ามเนื้อ สมอง ไขสันหลัง ตา หัวใจ ตับ ปอด และในช่องท้องแล้วฝังตัวและมีถุงน้ำหุ้ม จะมีอาการและอาการแสดงต่างๆ ขึ้นกับตำแหน่งถุงซีสต์ ถ้าอยู่ใต้ผิวหนังก็จะมีก้อนใต้ผิวหนัง ถ้าอยู่ที่ตาก็จะปวดตา ตาพร่ามัว สายตาผิดปกติหรือตาบอด ถ้าถุงซีสต์อยู่ในสมองผู้ป่วยอาจจะมีอาการปวดศีรษะเนื่องจาก ถุงซีสต์ไปอุดทางเดินน้ำไขสันหลัง ทำให้ความดันในสมองสูง อาจจะทำให้เกิดอาการชักได้
ส่วนหมู หรือวัว ติดเชื้อโดยกินอาหารที่ปนเปื้อนอุจจาระมนุษย์ซึ่งได้รับไข่พยาธิและไข่โตเป็นซีสต์ในกล้ามเนื้อหมู (บางคนเรียกเม็ดสาคู) หรือวัว มักเกิดขึ้นในกรณีที่เลี้ยงระบบเปิดปล่อยให้หมู หรือวัวเดินไปมาบริเวณสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมไม่ดี ไข่พยาธิตืดหมูและตืดวัวสามารถแพร่กระจายอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้ ตราบใดที่คนยังมีพยาธิตัวเต็มวัยอยู่ในลำไส้ ยังไม่ถ่ายอุจจาระลงส้วม และไข่พยาธิตัวตืดยังคงมีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานเป็นเดือน
นายแพทย์อัษฎางค์ กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการในการป้องกันโรคพยาธิตัวตืด คือเลือกรับประทานอาหารที่สด ใหม่ และสะอาด ทั้งวัตถุดิบ และส่วนประกอบอาหาร ควรเลือกซื้อเนื้อสัตว์ (โดยเฉพาะเนื้อหมู) จากแหล่งที่ได้มาตรฐาน กรณีเนื้อหมูจะต้องล้างทำความสะอาด และปรุงให้สุกด้วยความร้อน ไม่กินแบบสุกๆ ดิบๆ ดื่มน้ำสะอาด ส่วนผัก ผลไม้ ต้องล้างผ่านน้ำหลายๆ รอบให้สะอาดก่อนรับประทาน และล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร ก่อนปรุงอาหาร และหลังถ่ายอุจจาระทุกครั้ง ที่สำคัญควรถ่ายอุจจาระลงส้วม และในโอกาสนี้ ขอเชิญชวนประชาชนทุกคนหันมาดูแลและใส่ใจสุขภาพของตนเอง ยึดหลัก “สุก ร้อน สะอาด” โดยรับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ด้วยความร้อน และสะอาด ไม่มีแมลงวันตอม ล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อยๆ เพื่อห่างไกลจากโรคทางเดินอาหาร
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนสังเกตตัวเองหากสงสัยว่ามีพยาธิในร่างกาย หรือมีปัญหาเรื่องระบบขับถ่าย น้ำหนักตัวลดผิดปกติ ถ้าไม่แน่ใจสามารถไปพบแพทย์ให้ทำการตรวจวินิจฉัยและให้การรักษาทันที โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคพยาธิตืดหมู ทั้งนี้เป็นการป้องกันการเกิดโรคพยาธิตัวตืดไม่ให้แพร่ไปสู่กับบุคคลอื่น เนื่องจากไข่พยาธิตืดหมูพร้อมที่จะติดต่อแพร่โรคได้ทันที และสามารถก่อให้เกิดโรคอย่างรุนแรงในคนได้ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันระบบสุขาภิบาลและระบบสุขภาพของไทยดีขึ้นมาก การขับถ่ายในส้วมที่ถูกหลักสุขาภิบาลไม่ถ่ายนอกส้วม หรือถ่ายลงสู่สิ่งแวดล้อม จะช่วยให้ปัญหาการแพร่กระจายโรคพยาธิลดลง หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422