ของขวัญดีต่อใจ ไร้แอลกอฮอล์ รับเทศกาลแห่งความสุข ปี 2563

ของขวัญดีต่อใจ ไร้แอลกอฮอล์ รับเทศกาลแห่งความสุข ปี 2563

สสส. รณรงค์ส่งความสุขปีใหม่ “ให้ของขวัญปลอดภัย งานเลี้ยงไหนก็ไม่ดื่ม” เผยปีใหม่ 2562 ที่ผ่านมา ผู้ที่เคยได้รับของขวัญเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ 8.8 %ซึ่งลดลง 2.5% เมื่อเทียบกับผลสำรวจปี 2561 ที่มีอยู่ 11.3%

ทุกปีของเทศกาลปีใหม่ นอกจากความสุข สนุกสนาน การเฉลิมฉลอง และวันหยุดยาวๆ ที่ใครหลายคนได้เดินทางกลับถิ่นฐานบ้านเกิด หรือไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ แล้ว ยังมาพร้อมกับสถิติการเสียชีวิต และบาดเจ็บ เพราะต่อให้มีการรณรงค์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ให้เหล้าเท่ากับแช่ง เมาไม่ขับ แต่สถิติก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลดบ้าง เพิ่มบ้างในแต่ละปีสลับกันไป

ในปี 2563 นี้ รัฐบาลได้รณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ภายใต้หัวข้อ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนจัดทำแผนงาน กิจกรรมรณรงค์และประชาสัมพันธ์ความรู้ด้านความปลอดภัยทางถนนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ผ่านทุกช่องทางการสื่อสารเพื่อให้เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) อีกหนึ่งหน่วยงานที่ได้ออกแคมเปณ เพื่อรณรงค์ สร้างความตระหนัก ปลูกจิตสำนึกขับขี่ปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น กลับบ้านปลอดภัย คือของขวัญที่ดีที่สุด ล่าสุดได้ร่วมกับเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ เครือข่ายเด็กและเยาวชนกว่า20 องค์ สร้างค่านิยมส่งความสุขปีใหม่ “ให้ของขวัญปลอดภัย งานเลี้ยงไหนก็ไม่ดื่ม”

157727494134

สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากผลสำรวจ พฤติกรรมการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาล จากโครงการประเมินผลการรณรงค์ งดเหล้าเข้าพรรษาปี 2562 ของศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ (SAAB) พบว่า มีผู้ที่เคยได้รับของขวัญเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ 8.8 %ซึ่งลดลง 2.5% เมื่อเทียบกับผลสำรวจปี 2561 ที่มีอยู่ 11.3% ส่วนในกลุ่มที่เคยได้รับของขวัญเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 60.9 % ได้รับน้อยลง ขณะที่ 33.6%ยังได้รับเป็นปกติ มีเพียง 1.7% เท่านั้นที่ได้รับมากขึ้น ดังนั้น แสดงให้เห็นได้ว่าแอลกอฮอล์การรณรงค์ช่วยให้การดื่มและผลเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากแอลกอฮอล์ลดลง

ทุกปีใหม่ จะมีการเตือนเรื่องการดื่มไม่ขับ เพราะถือเป็นต้นเหตุหลักในการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุของผู้คน ซึ่งปีที่แล้วมีอุบัติเหตุที่เกิดจากการเมาแล้วขับ 3,791 ครั้ง และผู้เสียชีวิต 463 คน รวมถึงมีการให้ของขวัญเป็นเหล้า ปีนี้ สสส. ยังคงต่อยอดการดำเนินงานเรื่องการให้เหล้า เท่ากับแช่งด้วยการสร้างทัศนคติ ให้คนไทยมอบของขวัญปลอดภัย เลือกของขวัญสุขภาพที่มีคุณค่าทางใจและมีประโยชน์ด้านสุขภาพต่อผู้รับมากขึ้น เน้นการให้ของขวัญที่ดีที่สุดด้วยการไม่มีเหล้า โดยร่วมมือกับพลังของเยาวชนที่อยากเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น ได้ร่วมกันรณรงค์สื่อสาร เพื่อให้เทศกาลปีใหม่ เป็นเทศกาลไร้แอลกอฮอล์

157727494132_1

สุปรีดา กล่าวว่า ปีใหม่เป็นช่วงเวลาสำคัญของทุกคน หลายคนใช้ช่วงเวลานี้กำหนดจุดหมายในการใช้ชีวิต การยกระดับพัฒนาการชีวิตของตนเองให้ดีขึ้น ว่าแต่ละปีจะทำอะไรบ้าง และเป็นเวลาแห่งความสุขของครอบครัวที่ได้พบเจอพร้อมหน้าพร้อมตา ได้เจอคนที่รัก สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นมงคลของชีวิต อย่าให้แอลกอฮอล์ หรือมองว่าต้องมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถึงจะสนุกสนานได้ และอยากให้ทุกคนช่วยลดอุบัติ และอยากให้ทุกคนไม่ส่งเสริมการมอบเหล้าให้ในช่วงปีใหม่ หรือทุกเทศกาล

สำหรับของขวัญที่ควรค่ามอบให้แก่คนที่รัก สสส. ได้มีนำเสนอ 4 ทางเลือกที่ดีต่อใจ ของขวัญจริงใจ ไม่มีเหล้า ได้แก่ 1.หนังสือ คือการให้ปัญญา หนังสือช่วยให้สัมพันธภาพในครอบครัวกลับคืนมา 2. สินค้าที่สนับสนุนการออกกำลังกาย เช่น อุปกรณ์กีฬา เสื้อผ้า รองเท้า เป็นต้น 3. ผัก ผลไม้ ปลอดสารพิษ ปลอดสารเคมี และ 4.สินค้าโอท็อป สินค้าชุมชนท้องถิ่น กระจายรายได้ให้ท้องถิ่น

ด้าน อนงค์ ทับทิมเทศ อายุ 31 ปี เหยื่อเมาแล้วขับ  กว่า 16 ปี ที่ต้องกลายเป็นคนพิการ  เพราะถูกคนเมาขับรถเก๋งพุ่งมาชนขณะที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์  กล่าวว่า หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้ต้องนั่งวีลแชร์ไปตลอดชีวิต กว่า 2 ปี ที่ต้องเก็บตัวเงียบ เพราะไม่อยากเจอกันใครและใช้ชีวิตลำบากมาก เคลื่อนย้ายตัวเองไปรถเข็นยังทำไม่ได้ ส่งผลให้คิดสั้นหลายครั้ง เนื่องจากไม่อยากเป็นภาระพ่อ สุดท้ายกำลังใจจากพ่อที่ไม่เคยทิ้งเรา ทำให้ลุกขึ้นมาสู้นับ 1 ใหม่ได้อีกครั้ง เริ่มจากฝึกทำกายภาพบำบัด ช่วยเหลือตัวเองได้เบื้องต้น

157727494122

“อยากฝากถึง คนที่ดื่มแล้วขับ ให้ใช้สติบนพื้นฐานของความไม่ประมาท ทุกคนรักชีวิต ต้องคำนึงถึงเพื่อนร่วมทาง อย่ามาดับโอกาสดับฝันคนอื่น รวมถึงคนที่กำลังมองหาของขวัญควรมอบของขวัญแก่คนที่ตนเองรัก นับถือด้วยสิ่งที่ดี มีประโยชน์ ซึ่งเหล้า หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ทำให้คุณภาพชีวิตของใครดีขึ้น แถมยังทำร้ายชีวิตคนอื่นอีก” อนงค์ กล่าว

ปิดท้ายด้วยเยาวชนที่เคยก่อคดีเมาแล้วขับ ได้รับโทษจำคุก ปัจจุบันเป็นอาสาสมัครรณรงค์ลดอุบัติเหตุกับเครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต “นิรันดร ถาวงษ์กลาง อายุ 22 ปี” กล่าวว่า เริ่มดื่มและสูบบุหรี่ตอนอายุประมาณ 14-15 ปี และใช้ชีวิตเกเร พอจบม.3 ไม่ได้เรียนต่อ ชีวิตเริ่มมีอิสระตอนนั้นทำงานทั่วไป ใครจ้างทำอะไรทำหมด แต่เงินที่ได้แทนที่จะเก็บหรือให้แม่ กลับเอาเงินไปเลี้ยงเหล้าเพื่อนแทน เมื่อมีเพื่อนดื่มมากขึ้น ชีวิตยิ่งสนุกสนาน มีทั้งรถ มีทั้งเพื่อนดื่มเหล้า ดื่มเสร็จ ขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน ตอนนั้นไม่ได้มองว่าพฤติกรรมเมาแล้วขับจะส่งผลกระทบกับใคร หรือสร้างปัญหาให้ใคร จนถูกตำรวจจับ เพราะเมาแล้วขับ โทษรอลงอาญา แต่ก็ยังทำแบบเดิมๆอีก คือขับรถประมาท

157727494132

“ครั้งนั้นพอเจอด่าน ทำให้ตกใจ หักรถกลับย้อนศร ชนกับรถมอเตอร์ไซค์คู่กรณีอย่างรุนแรง คู่กรณีบาดเจ็บสาหัส ส่วนผมไหปลาร้าหัก และขาเป็นแผลเย็บ 20 เข็ม ตอนนี้ผมรู้สึกผิดที่ไม่ได้คำนึงถึง ความปลอดภัยผู้ใช้รถใช้ถนน จนทำให้เกิดอุบัติเหตุ และครั้งนั้นผมได้เห็นน้ำตาของแม่ คนในครอบครัวต้องวิ่งหาเงินมาช่วยผม และผมก็ไม่มีงานทำ เพราะต้องลางานไปเรื่องคดี ในที่สุดศาลมีคำตัดสินให้ผมติดคุกเป็นเวลา 9 เดือน เพื่อนร่วมวงดื่มที่ผมคิดว่าเป็นเพื่อนตาย ไม่เคยมาให้เห็นหน้าตั้งแต่เกิดเรื่องจนติดคุก” นิรันดร กล่าว

เมื่อครอบครัวก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ไม่มีเงินชดใช้คู่กรณี ก็ต้องเข้าไปใช้ชีวิตในเรือนจำ ขาดอิสรภาพ เปลี่ยนทั้งการอยู่การกิน อะไรที่ไม่เคยเจอได้เจอหมด นิรันดร ฝากถึงทุกคนว่าอยากให้คนที่ใช้รถใช้ถนน เคารพ กฎหมาย กฎจราจร กติกาสังคม ไม่ประมาทกับชีวิตนึกถึงความปลอดภัยของตัวเองและผู้อื่น อย่าเอาความมักง่ายของตัวเองมาใช้ในสังคม เพราะถ้าพลาดขึ้นมา ชีวิตจะเปลี่ยนทันทีอย่างที่ผมเคยประสบมาแล้ว รวมถึงคนที่จะมอบของขวัญให้แก่ผู้อื่น ควรนึกถึงประโยชน์ที่ทั้งผู้ให้และผู้รับควรจะได้รับ