กสศ.เปิดบ้านฉลองวันเด็กปี 63 พื้นที่เรียนรู้แก่เด็ก

กสศ.เปิดบ้านฉลองวันเด็กปี 63 พื้นที่เรียนรู้แก่เด็ก

กสศ.เปิดพื้นที่ฉลองวันเด็กปี 63 แหล่งเรียนรู้เพื่อเด็กทุกคนอย่างเสมอภาค "ประสาร"ชวนทุกภาคส่วน ร่วมสร้างนวัตกรรมลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา พร้อมส่งเสริมเด็กทุกคน กล้าฝัน กล้าเรียนรู้ กล้าลงมือทำและเห็นคุณค่าในตัวเอง

วันนี้ (11 ม.ค.2563) กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ 2563 “วาดฝัน สร้างสรรค์ อนาคต" โดยมีนักเรียนทุนเสมอภาค และเด็กๆจากชุมชนในพื้นที่รอบกสศ.ร่วมกิจกรรมอย่างอบอุ่น ผ่าน5 ฐานกิจกรรม “Dream Rally มุ่งสู่ฝัน

จากความร่วมมือของหลายภาคส่วน เช่น กิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจอาชีพในฝัน โดยอาสาสมัคร นิสิตคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กิจกรรมส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ความคิดวิเคราะห์ ด้วยนวัตกรรมจากOECD โดยสำนักวิจัยและวิทยบริการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตชลบุรี กิจกรรมวัดความพร้อมก่อนเข้าเรียน โดยสถาบันวิจัยเพื่อการประเมินและออกแบบนโยบาย (RIPED) มหาวิทยาลัยหอการค้า กิจกรรมระเบิดจินตนาการโดยเครือข่ายครูสอนศิลปะจิตอาสา รวมถึงมินิคอนเสิรต์วาดฝันจากชมรมดนตรีและการแสดงมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ SWU BAND

157872647723

ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) กล่าวว่า วันเด็กปีนี้ กสศ.ขอ มอบของขวัญให้เด็กๆ สองเรื่อง เรื่องแรก ถือเป็นครั้งแรกที่กสศ.เปิดบ้านให้เป็นพื้นที่เรียนรู้ของเด็กๆทุกคน เราพัฒนาให้มีพื้นที่ซึ่งเป็นห้องเรียนเสมอภาค พื้นที่การเรียนรู้สำหรับเด็กในศตวรรษที่ 21 เน้นกิจกรรมที่สร้างทัศนคติเชิงบวก มองเห็นคุณค่าในตัวเอง กล้าฝัน กล้าเรียนรู้ กล้าลงมือทำ

หลังจากนี้กสศ.ขอเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมออกแบบกิจกรรมหรือสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ทั้งในระดับครอบครัว ห้องเรียน ชุมชน ท้องถิ่น เพื่อสร้างโอกาสการเรียนรู้ ทักษะชีวิต ให้กับเด็กๆกลุ่มเป้าหมายต่างๆ อย่างเสมอภาค โดยไม่มีอุปสรรคใดใดขวางกั้น ไม่ว่าจะเป็น ฐานะทางเศรษฐกิจ สังคม

รวมถึงเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของคุณครู เครือข่ายนิสิตนักศึกษา ภาคธุรกิจเอกชนเพื่อสังคม ร่วมสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา โดยจะมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของกิจกรรมต่างๆได้ที่ www.eef.or.th หรือเฟสบุ๊ค กสศ.กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา

157872647996

สำหรับของขวัญชิ้นที่สอง คือ การส่งเสริมความเสมอภาคทางการศึกษาให้แก่ เด็กๆและเยาวชนทุกช่วงวัย โดยในปีการศึกษา 2563 กสศ.จะสามารถเดินหน้างานสำคัญเพื่อช่วยเหลือเด็กๆและเยาวชน รวม 4 กลุ่มสำคัญ คือ กลุ่มที่1 ขยายผลการจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนอย่างมีเงื่อนไขหรือทุนเสมอภาคไปยังกลุ่มเป้าหมาย ประมาณ 949,941 คน ครอบคลุมนักเรียนยากจนพิเศษตั้งแต่ระดับอนุบาลถึง ม.ต้น ในสังกัด สพฐ. อปท.ตชด.และ พศ.ทั่วประเทศ โดยมีกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่สำคัญได้แก่ นักเรียนยากจนพิเศษระดับอนุบาล จำนวนราว150,000 คน

กลุ่มที่ 2 การช่วยเหลือเด็กที่หลุดออกนอกระบบกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่นและการฝึกทักษะอาชีพตามศักยภาพ โดย กสศ. จะสามารถช่วยเหลือเด็กนอกระบบในพื้นที่ 20 จังหวัดและภาคีเครือข่าย จำนวน 55,000คน

157872647237

กลุ่มที่ 3 เด็กปฐมวัย โดยพัฒนาคุณภาพและศักยภาพของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตามมาตราฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ในลักษณะศูนย์บริการต้นแบบประมาณ 300 ศูนย์ ใน17จังหวัด ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายอย่างน้อย 60,000 คน

กลุ่มที่ 4 เยาวชนที่ยากจนอายุ 15-17ปี โดยส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาสายอาชีพ (ปวส./อนุปริญญา) ในส่วนของทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงราว 5,000 คน ประกอบด้วยทุนต่อเนื่อง 2,113 คน และทุนใหม่ 2,500 ทุน โดยนักศึกษาทุนรุ่นแรกจะจบการศึกษาในปี 2564 จำนวน1,000 คน

ด้านดร.ไกรยส ภัทราวาท รองผู้จัดการกสศ. กล่าวว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูล PISA 2018 ของ OECD พบว่าเด็กเยาวชนในครัวเรือนที่ยากจนด้อยโอกาส มีแนวโน้มจะขาดการสนับสนุนพัฒนาการทางอารมณ์จากพ่อแม่ รวมไปถึงการขาดปัจจัยที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของชีวิต เช่น การคิดแบบเติบโต (Growth Mindset), การตระหนักถึงความสามารถของตนเอง (Self-Efficacy) ทัศนคติในเชิงบวกต่อชีวิต (Positive Thinking) ความคาดหวังในการเรียนต่ออุดมศึกษาหรือแม้แต่การตกเป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้งในโรงเรียน (Bullying) ยังมีแนวโน้มจะเป็นปัญหาที่สำคัญในกลุ่มเด็กยากจนมากกว่ากลุ่มอื่นๆ

อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าเด็กที่เกิดมาในครัวเรือนที่ยากจนที่สุดทุกคน จะต้องเผชิญกับชะตากรรมเช่นนี้เสมอ จากการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกยังพบว่า มีเด็กในกลุ่มยากจนที่สุด (25% ล่างสุด) ถึงประมาณ 13% ที่ยังมีกำลังใจที่ดี มีพ่อแม่ มีโรงเรียนและครูที่สนับสนุนทางอารมณ์ ถึงแม้พ่อแม่ของพวกเขาจะได้รับโอกาสทางการศึกษาน้อย (พ่อแม่มีการศึกษาในระดับสูงกว่ามัธยมศึกษาตอนปลายน้อยกว่า1%) มีฐานะยากจน ขาดแคลนทรัพยากรทางการศึกษา แต่พวกเขาก็สามารถประสบความสำเร็จในการศึกษา ยังมีทัศนคติที่ดี มีแนวคิดในเชิงบวกต่อชีวิต เด็กกลุ่มนี้ทาง OECD เรียกว่าเด็กกลุ่มช้างเผือก (Resilient Students)

157872648196

“ชีวิตของเด็กยากจนทุกคนยังมีความหวัง หากทุกภาคส่วน ตั้งแต่พ่อแม่ ครู โรงเรียน ชุมชน และภาคส่วนต่าง ๆ ในสังคมร่วมมือกันเพื่อช่วยให้พวกเขามีโอกาสที่เสมอภาคเข้าถึงการศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีคุณภาพ และส่งเสริมเรื่อง Growth Mindset และการตระหนักถึงความสามารถของตนเอง รวมทั้งทัศนคติในเชิงบวกต่อชีวิต ทั้งในโรงเรียนและในครัวเรือน จะช่วยให้พวกเขาสามารถพัฒนาตนเองเป็นเด็กช้างเผือกได้เช่นกัน กสศ. จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยทำให้เด็กกลุ่มยากจนที่สุดมีโอกาสที่เสมอภาคที่จะพัฒนาคนเองเป็นเด็กช้างเผือกได้” ดร.ไกรยส กล่าว